xs
xsm
sm
md
lg

“อาร์เอส”ติดเบรกหนังใหญ่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – สื่อวิทยุหวนคืนการเติบโตในรอบ 3ปี “สกายไฮฯ” เดินหน้าอัดกิจกรรมทางการตลาด เพิ่มฐานลูกค้าใหม่ ทดแทนธุรกิจทราเวล หลังพบอุบัติภัยทางธรรมชาติกระทบ โวครึ่งปีแรกเติบโต 23% ทั้งปีมั่นใจทำรายได้ทะลุ 305 ล้านบาท เติบโต 3% เท่าตลาดรวม

นายคมสันต์ เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) และกรรมการผู้จัดการ บริษัท สกายไฮ เน็ตเวิร์ค จำกัด ดำเนินธุรกิจคลื่นวิทยุ Cool 93 Fahrenheit เปิดเผยว่า ภาพรวมสื่อวิทยุในปีนี้ คาดว่าจะกลับมาเติบโตได้ 3% หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาทได้ จากเดิมในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตที่ลดลง จากสภาพเศรษฐกิจและการเมืองเป็นหลัก ขณะที่ในปีนี้พบว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองดีขึ้น ลูกค้าเล็งเห็นความสำคัญของสื่อวิทยุ จึงหันมาใช้งบโฆษณาสื่อวิทยุสูงขึ้น และเลือกคลื่นวิทยุที่อยู่ในระดับท็อปก่อนเป็นหลัก

ในส่วนของสกายไฮฯ ตั้งแต่ต้นปีได้ปรับรูปแบบการทำงานใหม่ โดยต่อยอดแบรนด์Cool สู่ธุรกิจทราเวล สไตล์ลิสต์ รับจัดทัวร์ท่องเที่ยว จากที่ตั้งเป้าครึ่งปีแรกนี้จะมีรายได้ 20 ล้านบาท แต่หลังจากทั่วโลกเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติหลายแห่ง ทำให้ลูกค้าชะลอแผนการจัดทัวร์ออกไป ส่งผลให้รายได้อยู่ที่ 5 ล้านบาทเท่านั้น
โดยครึ่งปีหลังจะจัดทัวร์เพียง 3 ทริปเท่านั้นและมุ่งผลักดันรายได้ส่วนของคลื่นวิทยุแทน

โดยมุ่งเน้นการจัดกิจกรรมทางการตลาดมากขึ้น ด้วยงบการตลาด 40 ล้านบาทใกล้เคียงกับปีก่อน และเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ ที่เพิ่มขึ้นมากว่า 10-15% ทั้งในกลุ่มคอนซูเมอร์โปรดักส์ สถาบันการเงิน และอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ครึ่งปีแรกนี้บริษัทมีรายได้กว่า 145 ล้านบาท เติบโต 23% ส่วนใหญ่มาจากคลื่นวิทยุเป็นหลัก โดยยอดการลงโฆษณาเต็ม 100%

ส่วนครึ่งปีหลังนั้นจะมีกิจกรรมทางการตลาดออกมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ คอนเสิร์ตใหญ่ RAPTOR 2011 the concert, Royal Rally “Long Live The King” แรลลี่เฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นต้น เชื่อว่าทั้งปีสกายไฮฯจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 305 ล้านบาท เติบโต 3% เท่ากับตลาดรวมวิทยุ โดยมาจากคลื่นคูล 93 กว่า 255 ล้านบาท และอีก 50 ล้านบาท
มาจากธุรกิจแอกทิเวชั่น ทราเวล และคอนเสิร์ตรวมกัน โดยรายได้ของสกายไฮฯคิดเป็นสัดส่วน 10-11% ของรายได้รวมอาร์เอส

นายคมสันต์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของธุรกิจภาพยนตร์ของอาร์เอส ภายใต้บริษัท ฟิล์ม อาร์ อัส จำกัดนั้น ปีนี้จะมีภาพยนตร์เข้าฉายเพียง 1 เรื่อง คือ บางกอกกังฟู จากเดิมกำหนดฉายปลายปี2553 แต่ได้เลื่อนมาฉายในปีนี้ช่วงเดือนก.ย. ภายใต้งบการลงทุนรวม 40 ล้านบาท คาดว่าจะทำรายได้ทั้ 70 ล้านบาท ซึ่งธุรกิจภาพยนตร์ของอาร์เอสจะลดบทบาทลง

ส่วนสำคัญมาจาก ธุรกิจภาพยนตร์เป็นธุรกิจที่มีปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้องมาก บวกกับอาร์เอสไม่มีความพร้อมในเรื่องของบุคลากร และที่สำคัญได้นำบุคลากรกลุ่มนี้เข้าไปทำงานในส่วนของการผลิตละครป้อนให้กับช่อง8 ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจเคเบิลทีวีของอาร์เอสด้วย
อย่างไรก็ตามธุรกิจภาพยนตร์ของอาร์เอสยังคงดำเนินต่อไป แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับเนื้อเรื่องที่จะทำด้วยว่า จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและสามารถการันตีในเรื่องของรายได้ ขณะที่ยังไม่มีแผนการลงทุนในเรื่องต่อไป รวมถึงแผนธุรกิจภาพยนตร์ในปีหน้าด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น