เมื่อเวลา 13.00 น. วานนี้ (11 ก.ค) นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการการคณะกรรมการการเลือกตั้ง แถลงชี้แจงกรณีจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ และแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง มีความคลาดเคลื่อนไม่ตรงกับจำนวนบัตรเลือกตั้งตามที่กรรมาธิการวุฒิสภาฯ ออกมาตั้งข้อสังเกต ว่า จากการตรวจสอบพบว่ามีการคลาดเคลื่อนจากการบันทึกตัวเลขรายงานมายังกกต.ที่เจ้าหน้าที่เขตรายงานข้อมูลโดยมีหลักฐานยื่นยัน แต่ทั้งนี้ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อคะแนนส.ส.ที่ได้รับการเลือกตั้งไปแล้ว โดยจำนวนบัตรเลือกตั้งทั้ง 2 แบบแตกต่่างกันเพียง 167 ใบเท่านั้น
นายเมธา ศิลาพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารการเลือกตั้ง กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า กรณีสถิติต่างในการเลือกตั้งเป็นเรื่องที่สำคัญที่กกต.ต้องมาการบันทึกรายละเอียด ทางฝ่ายบริหารงานเลือกตั้งยอมรับว่าการทำงานในช่วงการเลือกตั้งที่ผ่านมาที่ต้องทำงานกับคนจำนวนหลักล้านคน และหน่วยเลือกตั้งมีถึง 94,000หน่วย จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าจะมีความผิดพลาดเกิดขึ้น อย่่างไรก็ตามทางฝ่ายบริหารงานเลือกตั้งพร้อมที่จะแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง โดยจะนำรายงานข้อมูลที่ถูกต้อง ณ วันที่ 9 ก.ค.ให้กับกกต.เพื่อประกอบการรับรองผลการเลือกตั้งในวันที่ 12 ก.ค.นี้
“ยืนยันกกต.จะรายงานข้อมูลด้วยความถูกต้องมากที่สุด และหลังจากการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งแล้ว จะรายงานสถิติข้อมูลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการอีกครั้ง สำหรับความคลาดเคลื่อนของตัวเลขที่ผิดพลาดหลังจากตรวจสอบความถูกต้องแล้วที่มีจำนวน 167 ใบระหว่าง 2 บัตรเลือกตั้งนั้น 90 % มาจากบัตรที่อยู่ในซอง ทั้งส่วนของการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร การเลือกตั้งนอกเขตจังหวัด รวมถึงการฉีกบัตรเกินให้กับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 1 ใบในวันเลือกตั้ง” นายเมธา กล่าวและว่า ส่วนตัวเลขที่มีความคลาดเคลื่อนไม่ตรงกับถึงแปดหมื่นกว่านั้นเป็นเรื่องของการบันทึกข้อมูลผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งคลาดเคลื่อน โดยมีหนึ่งจังหวัดบันทึกจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งในรอบแรก 11,681 คน ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าตัวเลขที่แท้จริง มีจำนวน 101,681 คน ซึ่งเมื่อเทียบตัวเลขแล้ว ห่างกันจำนวน 90,000 คน ซึ่งได้มีการแก้ไขความถูกต้องเรียบร้อยแล้ว
“ข้อมูลที่กกต.ได้ตรวจสอบแล้วพบว่าจากจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวน 46,939,548 คน มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อจำนวน 35,220,370คน แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 35,220,537 คน”
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านั้น คณะกรรมการเพื่อติดตามสถานการณ์บ้านเมือง วุฒิสภา โดยนายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ ส.ว.ศรีสะเกษ ประธานฯ ได้ตั้งข้อสังเกตยอดตัวเลขความคลาดเคลื่อนบัตรเลือกตั้งแบบเขตและแบบบัญชีรายชื่อที่ต่างกันถึง 83,000 ใบ รวมถึงกรณีบัตรเสียกว่า 3 ล้านใบ โดยเป็นแบบบัญชีรายชื่อกว่า 1 ล้านใบ
โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจเกิดความผิดพลาดจากการจัดเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ที่ให้จัดส่งใบลงคะแนนทางไปรษณีย์หรือไม่ แต่ตัวแทน กกต.ก็ชี้แจงไม่ชัดเจนได้ ระบุเพียงว่าผลคะแนนที่ต่างกันน่าจะเป็นความผิดพลาดเรื่องตัวเลขของผู้มาใช้สิทธิ เป็นไปได้ที่ตัวเลขบัญชีรายชื่อ และแบบเขตไม่เท่ากัน แต่เมื่อยกตัวเลขความผิดพลาด บางเขตของ จ.ศรีสะเกษ ผิดพลาดสูงสุดแค่ 4 ใบ หรือบางเขตในกทม. ที่ผิดพลาด 59 ใบ เฉลี่ยทั่วประเทศแล้วผิดพลาดอย่างไรก็ไม่น่าจะถึง 83,000 ใบ
ทั้งนี้ จากการมาใช้สิทธิ์ ปรากฎว่า จำนวนผู้ใช้สิทธิแบบ บัญชีรายชื่อ และแบบ แบ่งเขต มีจำนวนแตกต่างถึง 83,222 ไบ ทั้ง ๆที่เวลาจ่ายต้องจ่าย 2 ใบคู่กัน
รายงานระบุว่า กกต.แถลงก่อนหน้านั้น ว่า การเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อมีผู้มาใช้สิทธิ 35,203,107ขณะที่การเลือกตั้งแบบแบ่งเขตมีผู้มาใช้สิทธิ 35,119,885 โดยมีบัตรจำนวนที่ต่างกับ83,222 ใบ
นายเมธา ศิลาพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารการเลือกตั้ง กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า กรณีสถิติต่างในการเลือกตั้งเป็นเรื่องที่สำคัญที่กกต.ต้องมาการบันทึกรายละเอียด ทางฝ่ายบริหารงานเลือกตั้งยอมรับว่าการทำงานในช่วงการเลือกตั้งที่ผ่านมาที่ต้องทำงานกับคนจำนวนหลักล้านคน และหน่วยเลือกตั้งมีถึง 94,000หน่วย จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าจะมีความผิดพลาดเกิดขึ้น อย่่างไรก็ตามทางฝ่ายบริหารงานเลือกตั้งพร้อมที่จะแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง โดยจะนำรายงานข้อมูลที่ถูกต้อง ณ วันที่ 9 ก.ค.ให้กับกกต.เพื่อประกอบการรับรองผลการเลือกตั้งในวันที่ 12 ก.ค.นี้
“ยืนยันกกต.จะรายงานข้อมูลด้วยความถูกต้องมากที่สุด และหลังจากการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งแล้ว จะรายงานสถิติข้อมูลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการอีกครั้ง สำหรับความคลาดเคลื่อนของตัวเลขที่ผิดพลาดหลังจากตรวจสอบความถูกต้องแล้วที่มีจำนวน 167 ใบระหว่าง 2 บัตรเลือกตั้งนั้น 90 % มาจากบัตรที่อยู่ในซอง ทั้งส่วนของการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร การเลือกตั้งนอกเขตจังหวัด รวมถึงการฉีกบัตรเกินให้กับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 1 ใบในวันเลือกตั้ง” นายเมธา กล่าวและว่า ส่วนตัวเลขที่มีความคลาดเคลื่อนไม่ตรงกับถึงแปดหมื่นกว่านั้นเป็นเรื่องของการบันทึกข้อมูลผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งคลาดเคลื่อน โดยมีหนึ่งจังหวัดบันทึกจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งในรอบแรก 11,681 คน ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าตัวเลขที่แท้จริง มีจำนวน 101,681 คน ซึ่งเมื่อเทียบตัวเลขแล้ว ห่างกันจำนวน 90,000 คน ซึ่งได้มีการแก้ไขความถูกต้องเรียบร้อยแล้ว
“ข้อมูลที่กกต.ได้ตรวจสอบแล้วพบว่าจากจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวน 46,939,548 คน มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อจำนวน 35,220,370คน แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 35,220,537 คน”
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านั้น คณะกรรมการเพื่อติดตามสถานการณ์บ้านเมือง วุฒิสภา โดยนายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ ส.ว.ศรีสะเกษ ประธานฯ ได้ตั้งข้อสังเกตยอดตัวเลขความคลาดเคลื่อนบัตรเลือกตั้งแบบเขตและแบบบัญชีรายชื่อที่ต่างกันถึง 83,000 ใบ รวมถึงกรณีบัตรเสียกว่า 3 ล้านใบ โดยเป็นแบบบัญชีรายชื่อกว่า 1 ล้านใบ
โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจเกิดความผิดพลาดจากการจัดเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ที่ให้จัดส่งใบลงคะแนนทางไปรษณีย์หรือไม่ แต่ตัวแทน กกต.ก็ชี้แจงไม่ชัดเจนได้ ระบุเพียงว่าผลคะแนนที่ต่างกันน่าจะเป็นความผิดพลาดเรื่องตัวเลขของผู้มาใช้สิทธิ เป็นไปได้ที่ตัวเลขบัญชีรายชื่อ และแบบเขตไม่เท่ากัน แต่เมื่อยกตัวเลขความผิดพลาด บางเขตของ จ.ศรีสะเกษ ผิดพลาดสูงสุดแค่ 4 ใบ หรือบางเขตในกทม. ที่ผิดพลาด 59 ใบ เฉลี่ยทั่วประเทศแล้วผิดพลาดอย่างไรก็ไม่น่าจะถึง 83,000 ใบ
ทั้งนี้ จากการมาใช้สิทธิ์ ปรากฎว่า จำนวนผู้ใช้สิทธิแบบ บัญชีรายชื่อ และแบบ แบ่งเขต มีจำนวนแตกต่างถึง 83,222 ไบ ทั้ง ๆที่เวลาจ่ายต้องจ่าย 2 ใบคู่กัน
รายงานระบุว่า กกต.แถลงก่อนหน้านั้น ว่า การเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อมีผู้มาใช้สิทธิ 35,203,107ขณะที่การเลือกตั้งแบบแบ่งเขตมีผู้มาใช้สิทธิ 35,119,885 โดยมีบัตรจำนวนที่ต่างกับ83,222 ใบ
