กกต.รับผิดพลาด ข้อมูลผู้ใช้สิทธิไม่ตรงกับบัตรเลือกตั้ง

กกต.เพิ่งออกมายอมรับความผิดผิดพลาด จำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส.แบบปาร์ตี้ลิสต์ และ ส.ส.ระบบเขต มีความคลาดเคลื่อนไม่ตรงกับจำนวนบัตรเลือกตั้ง อ้างเกิดจากการกรอกข้อมูลของเจ้าหน้าที่ เผย บัตรเลือกตั้งทั้ง 2 แบบแตกต่างกันเพียง 167 ใบเท่านั้น ด้าน “ภักดีหาญส์” บุกจี้ถาม ประธาน กกต.กทม.ถึงความคืบหน้าร้องคัดค้านผลเลือกตั้ง ส.ส.เขต 15 กทม.

นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงชี้แจงกรณีจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ และแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง มีความคลาดเคลื่อนไม่ตรงกับจำนวนบัตรเลือกตั้งตามที่กรรมาธิการวุฒิสภา ออกมาตั้งข้อสังเกตว่า จากการตรวจสอบพบว่ามีการคลาดเคลื่อนจากการบันทึกตัวเลขรายงานมายัง กกต.ที่เจ้าหน้าที่เขตรายงานข้อมูลโดยมีหลักฐานยื่นยัน แต่ทั้งนี้ ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อคะแนน ส.ส.ที่ได้รับการเลือกตั้งไปแล้ว โดยจำนวนบัตรเลือกตั้งทั้ง 2 แบบแตกต่่างกันเพียง 167 ใบเท่านั้น

นายเมธา ศิลาพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารการเลือกตั้ง กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า กรณีสถิติต่างๆ ในการเลือกตั้งเป็นเรื่องที่สำคัญที่ กกต.ต้องมีการบันทึกรายละเอียด ทางฝ่ายบริหารงานเลือกตั้งยอมรับว่า การทำงานในช่วงการเลือกตั้งที่ผ่านมาที่ต้องทำงานกับคนจำนวนหลักล้านคน และหน่วยเลือกตั้งมีถึง 94,000 หน่วย จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าจะมีความผิดพลาดเกิดขึ้น อย่่างไรก็ตามทางฝ่ายบริหารงานเลือกตั้งพร้อมที่จะแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง โดยจะนำรายงานข้อมูลที่ถูกต้อง ณ วันที่ 9 ก.ค.ให้กับ กกต.เพื่อประกอบการรับรองผลการเลือกตั้งในวันที่ 12 ก.ค.นี้

“ยืนยัน กกต.จะรายงานข้อมูลด้วยความถูกต้องมากที่สุด และหลังจากการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งแล้ว จะรายงานสถิติข้อมูลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการอีกครั้ง”

สำหรับความคลาดเคลื่อนของตัวเลขที่ผิดพลาดหลังจากตรวจสอบความถูกต้องแล้วที่มีจำนวน 167 ใบ ระหว่าง 2 บัตรเลือกตั้งนั้น 90% มาจากบัตรที่อยู่ในซอง ทั้งส่วนของการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร การเลือกตั้งนอกเขตจังหวัด รวมถึงการฉีกบัตรเกินให้กับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 1 ใบในวันเลือกตั้ง

นายเมธา กล่าวว่า ส่วนตัวเลขที่มีความคลาดเคลื่อนไม่ตรงกับถึงแปดหมื่นกว่านั้นเป็นเรื่องของการบันทึกข้อมูลผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งคลาดเคลื่อน โดยมีหนึ่งจังหวัดบันทึกจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งในรอบแรก 11,681 คน ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าตัวเลขที่แท้จริง มีจำนวน 101,681 คน ซึ่งเมื่อเทียบตัวเลขแล้ว ห่างกันจำนวน 90,000 คน ซึ่งได้มีการแก้ไขความถูกต้องเรียบร้อยแล้ว

“ข้อมูลที่ กกต.ได้ตรวจสอบแล้วพบว่าจากจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวน 46,939,548 คน มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อจำนวน 35,220,370คน แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 35,220,537 คน”

ผู้สื่อข่าวรายงานจากที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจำกรุงเทพมหานคร (กกต.กทม.) ว่า วันนี้ (11 ก.ค.) นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กทม.เขต 15 พรรคเพื่อไทย ได้เดินทางมายื่นหนังสือต่อ พล.ต.ต.สุเทพ รมยานนท์ ประธาน กกต.กทม. เพื่อติดตามความคืบหน้าเรื่องการร้องคัดค้านการเลือกตั้ง ส.ส.เขต 15 กทม.

นายภักดีหาญส์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากตนได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อประธาน กกต.กทม.เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.2554 เรื่อง การกระทำที่อาจเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 53(5) และมาตรา 137 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว.ซึ่งทำให้การเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 15 และเขตเลือกตั้งอื่นๆ ไม่ได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม รวมทั้งขณะนี้ได้มีการสืบสวนสอบสวนในเบื้องต้นที่สถานีตำรวจนครบาลหัวหมากไปแล้ว ซึ่งเบื้องต้นสามารถจับกุมตัวผู้กระทำความผิดได้และให้การสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างให้แจกซีดีที่มีเนื้อหาโจมตีจากสำนักงานศูนย์ประสานงานการเลือกตั้ง ส.ส.เขต 15 บางกะปิ ของพรรคประชาธิปัตย์

โดยกระบวนการสืบสวนสอบสวนและระยะเวลาในการดำเนินการได้ล่วงเลยมาพอสมควรแล้ว ตนจึงทำหนังสือเพื่อขอติดตามทวงถามความคืบหน้าเรื่องการคัดค้านการเลือกตั้ง ส.ส.ก่อนที่จะมีการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งในวันที่ 12 ก.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม จากการสอบถาม กกต.กทม.ทราบว่า กกต.กทม.ได้รับเรื่องและส่งเรื่องให้ สน.หัวหมาก เพื่อให้มีการดำเนินการออกหมายจับบุคลที่สามที่ได้มีการว่าจ้างให้มีการแจกซีดีโจมตีดังกล่าว ซึ่งกรณีนี้เมื่อมีเรื่องร้องคัดค้านการเลือกตั้งก็จะเป็นผลให้ กกต.ยังไม่สามารถประกาศผลการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 15 ได้