“ให้ทุกคน ทุกฝ่ายยอมรับการตัดสินใจของประชาชน ช่วยกันสนับสนุนให้พรรคการเมืองที่ประชาชนเลือกได้จัดตั้งรัฐบาลตามเจตนารมณ์ของประชาชน เพราะเป็นหนทางเดียวเท่านั้นที่จะนำการเมืองกลับสู่ระบอบประชาธิปไตย โดยจะไม่เสี่ยงต่อความวุ่นวายในบ้านเมืองอีก” นั่นเป็นคำพูดของ สมศักดิ์ เทพสุทิน และว่า
“เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้า และมีความปรองดอง ถ้าเป็นไปได้อยากให้กลุ่มมัชฌิมาฯ หรือพรรคภูมิใจไทยโหวตให้ยิ่งลักษณ์เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะเสียงของประชาชนเป็นอย่างนี้ ทุกฝ่ายต้องให้เกียรติเสียงของพรรคเพื่อไทย” สมศักดิ์ เทพสุทิน สำทับต่ออีก
ฟังดูดี ฟังดูน่าปรบมือให้ ฟังดูเหมือนจะมีความคิดสร้างสรรค์ อยากให้บ้านนี้เมืองนี้ก้าวไปสู่ความสงบสุข ปรองดอง
แต่บังเอิญว่าคนฟังเขารู้จักน้ำหน้าของ สมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นอย่างดี แทนที่จะได้รับเสียงปรบมือ ผู้คนทั้งหลายทั้งปวงจึงได้แต่เบ้หน้า อาจจะมีคนปรบมือให้บ้างก็ประเภทเชื่อคำพูดของนักการเมืองง่าย ไม่สนใจปูมหน้าปูมหลังของนักการเมืองนั้นๆ
เขาจึงมองว่า สมศักดิ์ พูดเพื่อที่จะเอากลุ่มมัชฌิมาฯ เข้าไปร่วมกับพรรคเพื่อไทย เผื่อจะได้โควตารัฐมนตรี เผื่อจะได้ไม่อดอยากปากแห้ง ตามปรัชญาของนักการเมืองชั่วๆคนหนึ่งที่ว่า เป็นฝ่ายค้านอดอยากปากแห้ง เป็นรัฐบาลแล้วอิ่มหมีพีมัน เขาขอสัญญากับลูกพรรคเขาว่า เขาจะพาพรรคเข้าร่วมรัฐบาลให้ได้ทุกครั้งไป ต่อจากนี้ (นักการเมืองชั่วคนนั้น พูดเอาไว้สมัยพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี ประมาณปี 2527-2528)
แม้ผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ กกต.จะยังไม่ประกาศก็เป็นที่รู้กันว่า พรรคเพื่อไทยชนะถล่มทลายได้จัดตั้งรัฐบาลแน่นอน นางสาวยิ่งลักษณ์ เป็นนายกรัฐมนตรีแน่ พรรคประชาธิปัตย์โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ประกาศยอมแพ้ตั้งแต่สองทุ่มคืนวันที่ 3 กรกฎาคมโน่นแล้ว
ถึงสมศักดิ์ เทพสุทิน หัวหน้ากลุ่มมัชฌิมาฯ ไม่เสนอหน้า ไม่เสนอตัว ไม่เสนอกลุ่มมัชฌิมาฯ ไปยกมือให้พรรคเพื่อไทย เขาก็จัดตั้งรัฐบาลได้อยู่แล้ว ส่วนจะยกมือสนับสนุนเพราะเห็นว่า พรรคเพื่อไทยได้รับเลือกตั้งมากมายแสดงว่าประชาชนต้องการให้พรรคเพื่อไทยบริหารประเทศ สมศักดิ์จะกำชับให้กลุ่มมัชฌิมาฯ ยกมือสนับสนุนในสภาก็ไม่มีใครเขาว่า
และถ้าหากสมศักดิ์คิดได้อย่างนี้ ทำไมละ พรรคพลังประชาชนก็ได้เสียงข้างมาก ถึงจะถูกยุบพรรคไปเพราะรองหัวหน้าพรรคไปทำผิดกฎหมายเลือกตั้งเป็นเหตุให้ต้องถูกยุบพรรคมาจัดตั้งเป็นพรรคเพื่อไทย ไฉนกลุ่มมัชฌิมาฯ จึงแตกคอกออกมากับกลุ่มเนวินเป็นพรรคภูมิใจไทย
แล้วทะลึ่งมาสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ สนับสนุนให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรีทำไม?
หรือเพราะต้องทำอย่างนี้ เพื่อให้ อนงค์วรรณ ผู้ภริยา พรทิวา นาคาศัย ทายาท อาบ อบ นวด ได้เป็นรัฐมนตรี หรือแม้กระทั่งน้องสาวของสมศักดิ์ ก็ได้เป็นรัฐมนตรีในที่สุด
ไฉนตอนนั้นจึงไม่ได้มีความคิดสร้างสรรค์สนับสนุนพรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้งล่ะ ทะลึ่งมาสนับสนุนพรรคที่ได้อันดับ 2 อย่างพรรคประชาธิปัตย์ทำไม หรือมันเป็นประชาธิปไตยตรงไหน ไปจัดตั้งรัฐบาลที่ค่ายทหารก็เป็นที่รู้กันอยู่
หรือว่า สมศักดิ์ เทพสุทิน ไม่เคยรู้เรื่องพวกนี้?
คำพูดหรือลมปากของคนนั้นจะประดิดประดอยให้วิเศษเลิศเลออย่างไรก็ได้ เป็นต้นว่า มาเล่นการเมืองเพื่อพ่อแม่พี่น้องประชาชน เพื่อประเทศชาติบ้านเมือง เพราะรักชาติมาก รักประชาชนมาก แต่จะเป็นไปตามที่พูดนี้หรือไม่ต้องดูที่การกระทำ เป็นต้นว่า เมื่อได้ตำแหน่งแห่งที่แล้ว ทุจริตคดโกงหรือไม่ แสวงหาประโยชน์ให้กับตัวเอง วงศ์วานว่านเครือหรือไม่ เคยมีประวัติถมที่หนองงูเห่าเพื่อจะทำสนามบินซื้อทรายที่เอามาถมแพงกว่าท้องตลาดหรือไม่ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขาอภิปรายเรื่องนี้กันอย่างไร รัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายชี้แจงหรือตอบข้อซักถามได้แค่ไหน ที่สมาชิกสภาด้วยกันเอามาวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็น ส.ส.หรือรัฐมนตรีเรียงหิน นั่นความหมายมันคืออะไร ตั้งพรรคมัชฌิมาฯ เพื่อเอาชนะในการเลือกตั้งปี 2550 ร่วมกับนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ นั้นถึงที่สุดเป็นอย่างไร ใครหลอกใคร ใครต้มใครกันแน่ เรื่องทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้ต้องศึกษา ก่อนที่จะปรบมือให้ หรือแม้กระทั่งจะถ่มถุยใครสักคน
ยิ่งในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง นักการเมืองพูดแต่เรื่องดี เรื่องวิเศษกันทุกคนแหละครับ มันสัญญาได้ทุกเรื่อง เป็นต้น จะทำให้ประชาชนหายจน ควักกระเป๋าก็จะเจอแต่เงิน หนี้สินทั้งหลายก็จะยกให้ ปริญญาตรีจะให้ 15,000 บาท ค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท เกิดวันนี้อีก 20 ปีจะมีเงินล้าน เอาเข้าจริงๆ มันทำได้ที่ไหน (อีก 20 ปี พรรคที่มันคุย นักการเมืองที่มันโม้ไว้ก็ลงนรกอเวจีไปแล้ว จะไปทวงสัญญาเอากับใคร)
ผลการเลือกตั้ง แน่นอนพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งถล่มทลาย แต่ก็ไม่ใช่เครื่องบ่งชี้ว่า ประชาชนจะสนับสนุน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถ้าหาก 45 วันก่อนนี้ ทักษิณส่งพจมาน เป็นเบอร์หนึ่ง พจมานก็ได้รับเลือก หรือเปลี่ยนมาส่งเฉลิม หรือมิ่งขวัญ เฉลิมหรือมิ่งขวัญ ก็ต้องได้
หรือจะให้ จตุพร, เหวง, ณัฐวุฒิ ก็ชนะอีกนั่นแหละ
และถ้าหากจะดูให้ดี นักการเมืองเหล่านี้เคยสนับสนุนถนอม/ประภาส เคยยกมือให้นายกฯ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์, ม.ร.ว.เสนีย์, พลเอกเกรียงศักดิ์, พลเอกเปรม, พลเอกชาติชาย, พลเอกสุจินดา, พลเอกชวลิต, บรรหาร, ชวน, ทักษิณ, สมัคร, สมชาย มาแล้วทั้งนั้นแหละครับ
ถ้าหากตัวเขาไม่ได้สนับสนุนนายกรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งที่เอ่ยมานี้ก็เป็น ปู่ ย่า ตา ยาย โคตรวงศ์ของพวกเขา (เป็นส่วนใหญ่) ไม่เชื่อ ตรวจสอบดูซิครับ
“เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้า และมีความปรองดอง ถ้าเป็นไปได้อยากให้กลุ่มมัชฌิมาฯ หรือพรรคภูมิใจไทยโหวตให้ยิ่งลักษณ์เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะเสียงของประชาชนเป็นอย่างนี้ ทุกฝ่ายต้องให้เกียรติเสียงของพรรคเพื่อไทย” สมศักดิ์ เทพสุทิน สำทับต่ออีก
ฟังดูดี ฟังดูน่าปรบมือให้ ฟังดูเหมือนจะมีความคิดสร้างสรรค์ อยากให้บ้านนี้เมืองนี้ก้าวไปสู่ความสงบสุข ปรองดอง
แต่บังเอิญว่าคนฟังเขารู้จักน้ำหน้าของ สมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นอย่างดี แทนที่จะได้รับเสียงปรบมือ ผู้คนทั้งหลายทั้งปวงจึงได้แต่เบ้หน้า อาจจะมีคนปรบมือให้บ้างก็ประเภทเชื่อคำพูดของนักการเมืองง่าย ไม่สนใจปูมหน้าปูมหลังของนักการเมืองนั้นๆ
เขาจึงมองว่า สมศักดิ์ พูดเพื่อที่จะเอากลุ่มมัชฌิมาฯ เข้าไปร่วมกับพรรคเพื่อไทย เผื่อจะได้โควตารัฐมนตรี เผื่อจะได้ไม่อดอยากปากแห้ง ตามปรัชญาของนักการเมืองชั่วๆคนหนึ่งที่ว่า เป็นฝ่ายค้านอดอยากปากแห้ง เป็นรัฐบาลแล้วอิ่มหมีพีมัน เขาขอสัญญากับลูกพรรคเขาว่า เขาจะพาพรรคเข้าร่วมรัฐบาลให้ได้ทุกครั้งไป ต่อจากนี้ (นักการเมืองชั่วคนนั้น พูดเอาไว้สมัยพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี ประมาณปี 2527-2528)
แม้ผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ กกต.จะยังไม่ประกาศก็เป็นที่รู้กันว่า พรรคเพื่อไทยชนะถล่มทลายได้จัดตั้งรัฐบาลแน่นอน นางสาวยิ่งลักษณ์ เป็นนายกรัฐมนตรีแน่ พรรคประชาธิปัตย์โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ประกาศยอมแพ้ตั้งแต่สองทุ่มคืนวันที่ 3 กรกฎาคมโน่นแล้ว
ถึงสมศักดิ์ เทพสุทิน หัวหน้ากลุ่มมัชฌิมาฯ ไม่เสนอหน้า ไม่เสนอตัว ไม่เสนอกลุ่มมัชฌิมาฯ ไปยกมือให้พรรคเพื่อไทย เขาก็จัดตั้งรัฐบาลได้อยู่แล้ว ส่วนจะยกมือสนับสนุนเพราะเห็นว่า พรรคเพื่อไทยได้รับเลือกตั้งมากมายแสดงว่าประชาชนต้องการให้พรรคเพื่อไทยบริหารประเทศ สมศักดิ์จะกำชับให้กลุ่มมัชฌิมาฯ ยกมือสนับสนุนในสภาก็ไม่มีใครเขาว่า
และถ้าหากสมศักดิ์คิดได้อย่างนี้ ทำไมละ พรรคพลังประชาชนก็ได้เสียงข้างมาก ถึงจะถูกยุบพรรคไปเพราะรองหัวหน้าพรรคไปทำผิดกฎหมายเลือกตั้งเป็นเหตุให้ต้องถูกยุบพรรคมาจัดตั้งเป็นพรรคเพื่อไทย ไฉนกลุ่มมัชฌิมาฯ จึงแตกคอกออกมากับกลุ่มเนวินเป็นพรรคภูมิใจไทย
แล้วทะลึ่งมาสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ สนับสนุนให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรีทำไม?
หรือเพราะต้องทำอย่างนี้ เพื่อให้ อนงค์วรรณ ผู้ภริยา พรทิวา นาคาศัย ทายาท อาบ อบ นวด ได้เป็นรัฐมนตรี หรือแม้กระทั่งน้องสาวของสมศักดิ์ ก็ได้เป็นรัฐมนตรีในที่สุด
ไฉนตอนนั้นจึงไม่ได้มีความคิดสร้างสรรค์สนับสนุนพรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้งล่ะ ทะลึ่งมาสนับสนุนพรรคที่ได้อันดับ 2 อย่างพรรคประชาธิปัตย์ทำไม หรือมันเป็นประชาธิปไตยตรงไหน ไปจัดตั้งรัฐบาลที่ค่ายทหารก็เป็นที่รู้กันอยู่
หรือว่า สมศักดิ์ เทพสุทิน ไม่เคยรู้เรื่องพวกนี้?
คำพูดหรือลมปากของคนนั้นจะประดิดประดอยให้วิเศษเลิศเลออย่างไรก็ได้ เป็นต้นว่า มาเล่นการเมืองเพื่อพ่อแม่พี่น้องประชาชน เพื่อประเทศชาติบ้านเมือง เพราะรักชาติมาก รักประชาชนมาก แต่จะเป็นไปตามที่พูดนี้หรือไม่ต้องดูที่การกระทำ เป็นต้นว่า เมื่อได้ตำแหน่งแห่งที่แล้ว ทุจริตคดโกงหรือไม่ แสวงหาประโยชน์ให้กับตัวเอง วงศ์วานว่านเครือหรือไม่ เคยมีประวัติถมที่หนองงูเห่าเพื่อจะทำสนามบินซื้อทรายที่เอามาถมแพงกว่าท้องตลาดหรือไม่ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขาอภิปรายเรื่องนี้กันอย่างไร รัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายชี้แจงหรือตอบข้อซักถามได้แค่ไหน ที่สมาชิกสภาด้วยกันเอามาวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็น ส.ส.หรือรัฐมนตรีเรียงหิน นั่นความหมายมันคืออะไร ตั้งพรรคมัชฌิมาฯ เพื่อเอาชนะในการเลือกตั้งปี 2550 ร่วมกับนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ นั้นถึงที่สุดเป็นอย่างไร ใครหลอกใคร ใครต้มใครกันแน่ เรื่องทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้ต้องศึกษา ก่อนที่จะปรบมือให้ หรือแม้กระทั่งจะถ่มถุยใครสักคน
ยิ่งในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง นักการเมืองพูดแต่เรื่องดี เรื่องวิเศษกันทุกคนแหละครับ มันสัญญาได้ทุกเรื่อง เป็นต้น จะทำให้ประชาชนหายจน ควักกระเป๋าก็จะเจอแต่เงิน หนี้สินทั้งหลายก็จะยกให้ ปริญญาตรีจะให้ 15,000 บาท ค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท เกิดวันนี้อีก 20 ปีจะมีเงินล้าน เอาเข้าจริงๆ มันทำได้ที่ไหน (อีก 20 ปี พรรคที่มันคุย นักการเมืองที่มันโม้ไว้ก็ลงนรกอเวจีไปแล้ว จะไปทวงสัญญาเอากับใคร)
ผลการเลือกตั้ง แน่นอนพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งถล่มทลาย แต่ก็ไม่ใช่เครื่องบ่งชี้ว่า ประชาชนจะสนับสนุน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถ้าหาก 45 วันก่อนนี้ ทักษิณส่งพจมาน เป็นเบอร์หนึ่ง พจมานก็ได้รับเลือก หรือเปลี่ยนมาส่งเฉลิม หรือมิ่งขวัญ เฉลิมหรือมิ่งขวัญ ก็ต้องได้
หรือจะให้ จตุพร, เหวง, ณัฐวุฒิ ก็ชนะอีกนั่นแหละ
และถ้าหากจะดูให้ดี นักการเมืองเหล่านี้เคยสนับสนุนถนอม/ประภาส เคยยกมือให้นายกฯ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์, ม.ร.ว.เสนีย์, พลเอกเกรียงศักดิ์, พลเอกเปรม, พลเอกชาติชาย, พลเอกสุจินดา, พลเอกชวลิต, บรรหาร, ชวน, ทักษิณ, สมัคร, สมชาย มาแล้วทั้งนั้นแหละครับ
ถ้าหากตัวเขาไม่ได้สนับสนุนนายกรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งที่เอ่ยมานี้ก็เป็น ปู่ ย่า ตา ยาย โคตรวงศ์ของพวกเขา (เป็นส่วนใหญ่) ไม่เชื่อ ตรวจสอบดูซิครับ
