วานนี้(4 ก.ค.) ผศ.ทวี สุรฤทธิกุล อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช วิเคราะห์การเมืองหลังการเลือกตั้ง ซึ่งผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ ปรากกว่า พรรคเพื่อไทยได้จำนวน ส.ส.มากเป็นอันดับ 1 เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ตนเองมองว่า ส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงพอสมควร โดยหลายปีที่ผ่านมา ประเทศมีปัญหาความขัดแย้ง การแบ่งฝักแบ่งฝ่าย รัฐบาลชุดใหม่จึงต้องเข้ามาแก้ไขทำให้เกิดความปรองดอง เพื่อให้ประเทศชาติเกิดความสงบเรียบร้อยเป็นอันดับแรก ตามมาด้วยการแก้ปัญหาค่าครองชีพประชาชน และการขจัดปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น
นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยยังต้องสร้างภาพลักษณ์ให้โปร่งใสในเรื่องกระบวนการยุติธรรม ว่าจะมีการผลักดันการนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือไม่
ส่วนการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีนั้น ผศ.ทวี กล่าวว่า คงจะเห็นเป็นรูปธรรมอีกไม่นานนี้ เนื่องจากต้องมีการเจรจากับกลุ่มต่างๆ ก่อน ส่วนปัญหาหลังการเลือกตั้ง ตนเองมองว่า หลังจากนี้อาจมีปัญหาเรื่องการให้ใบเหลือง ใบแดง จาก กกต. เชื่อว่าจะมีการฟ้องร้องกันเป็นจำนวนมาก
นายอัษฎางค์ ปาณิกบุตร นักวิชาการอิสระ อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยไม่จำเป็นต้องดึงกลุ่มการเมืองอื่นๆ เข้ามาร่วมรัฐบาลอีก เพราะจะยิ่งเป็นการเพิ่มเงื่อนไขในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาลชุดใหม่ที่ทำให้ถูกมองว่าจะเข้ามาหาผลประโยชน์มากกว่าการเข้ามาทำงาน
“ไม่จำเป็น ดึงคุณสมศักดิ์(เทพสุทิน กลุ่มมัชฌิมาในพรรค ภูมิใจไทย)ก็มากเรื่องมากความ เพราะรัฐบาลใหม่ต้องมีทัศนคติใหม่ ถ้าคิดแบบเดิมเข้ามาหาประโยชน์ก็เจ๊งลูกเดียว อยู่ไม่ยืด” นายอัษฎางค์ กล่าวและว่าการที่ผลเลือกตั้งออกมาเช่นนี้แสดงว่าประชาชนให้โอกาส เพื่อไทยเข้ามาทำประโยชน์ให้ชาติบ้านเมือง ซึ่ง เพื่อไทยเองก็เคยมีประสบการณ์มาแล้วในสมัยที่เป็นพรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชน
“อย่าดูถูกประชาชน ในระบอบประชาธิปไตยเขาอุตส่าห์ให้คุณ(เพื่อไทย)มาเกินครึ่ง แสดงว่าตอนนี้คุณเป็นรัฐบาลของเขาแล้วล่ะ คุณต้องทำประโยชน์เพื่อเขา”นายอัษฎางค์ กล่าว
นายอัษฎางค์ กล่าวว่า เรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลใหม่ต้องรีบดำเนินการคือ การแก้ไขปัญหาราคาสินค้าแพงให้หมดไปโดยเร็ว รวมทั้งแก้ปัญหาน้ำทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วมและน้ำแล้งซ้ำซากให้หมดไป ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ซึ่งไม่อยากให้ใช้ทั้งวิธีการจำนำและการประกันราคา เพราะมีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้
ทั้งนี้อยากให้รัฐบาลใหม่นำคนนอกที่มีความรู้ความสามารถ 5-6 คนเข้ามาเป็นรัฐมนตรีแทนที่จะใช้ผู้ที่ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. เช่น ตำแหน่ง รมว.คลัง หากเป็นนายวีรพงษ์ รามางกูร ก็น่าจะเป็นผลดี เพราะเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ น่าเชื่อถือของสังคม และยังความสัมพันธ์ที่ดีกับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี
“อย่ามาแก่งแย่งตำแหน่งรัฐมนตรีกันมากนัก เพราะจะทำให้สังคมเบื่อหน่าย ควรมุ่งเรื่องการเข้ามาช่วยแก้ปัญหาให้ชาติบ้านเมือง” นายอัษฎางค์ กล่าว
นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยยังต้องสร้างภาพลักษณ์ให้โปร่งใสในเรื่องกระบวนการยุติธรรม ว่าจะมีการผลักดันการนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือไม่
ส่วนการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีนั้น ผศ.ทวี กล่าวว่า คงจะเห็นเป็นรูปธรรมอีกไม่นานนี้ เนื่องจากต้องมีการเจรจากับกลุ่มต่างๆ ก่อน ส่วนปัญหาหลังการเลือกตั้ง ตนเองมองว่า หลังจากนี้อาจมีปัญหาเรื่องการให้ใบเหลือง ใบแดง จาก กกต. เชื่อว่าจะมีการฟ้องร้องกันเป็นจำนวนมาก
นายอัษฎางค์ ปาณิกบุตร นักวิชาการอิสระ อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยไม่จำเป็นต้องดึงกลุ่มการเมืองอื่นๆ เข้ามาร่วมรัฐบาลอีก เพราะจะยิ่งเป็นการเพิ่มเงื่อนไขในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาลชุดใหม่ที่ทำให้ถูกมองว่าจะเข้ามาหาผลประโยชน์มากกว่าการเข้ามาทำงาน
“ไม่จำเป็น ดึงคุณสมศักดิ์(เทพสุทิน กลุ่มมัชฌิมาในพรรค ภูมิใจไทย)ก็มากเรื่องมากความ เพราะรัฐบาลใหม่ต้องมีทัศนคติใหม่ ถ้าคิดแบบเดิมเข้ามาหาประโยชน์ก็เจ๊งลูกเดียว อยู่ไม่ยืด” นายอัษฎางค์ กล่าวและว่าการที่ผลเลือกตั้งออกมาเช่นนี้แสดงว่าประชาชนให้โอกาส เพื่อไทยเข้ามาทำประโยชน์ให้ชาติบ้านเมือง ซึ่ง เพื่อไทยเองก็เคยมีประสบการณ์มาแล้วในสมัยที่เป็นพรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชน
“อย่าดูถูกประชาชน ในระบอบประชาธิปไตยเขาอุตส่าห์ให้คุณ(เพื่อไทย)มาเกินครึ่ง แสดงว่าตอนนี้คุณเป็นรัฐบาลของเขาแล้วล่ะ คุณต้องทำประโยชน์เพื่อเขา”นายอัษฎางค์ กล่าว
นายอัษฎางค์ กล่าวว่า เรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลใหม่ต้องรีบดำเนินการคือ การแก้ไขปัญหาราคาสินค้าแพงให้หมดไปโดยเร็ว รวมทั้งแก้ปัญหาน้ำทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วมและน้ำแล้งซ้ำซากให้หมดไป ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ซึ่งไม่อยากให้ใช้ทั้งวิธีการจำนำและการประกันราคา เพราะมีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้
ทั้งนี้อยากให้รัฐบาลใหม่นำคนนอกที่มีความรู้ความสามารถ 5-6 คนเข้ามาเป็นรัฐมนตรีแทนที่จะใช้ผู้ที่ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. เช่น ตำแหน่ง รมว.คลัง หากเป็นนายวีรพงษ์ รามางกูร ก็น่าจะเป็นผลดี เพราะเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ น่าเชื่อถือของสังคม และยังความสัมพันธ์ที่ดีกับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี
“อย่ามาแก่งแย่งตำแหน่งรัฐมนตรีกันมากนัก เพราะจะทำให้สังคมเบื่อหน่าย ควรมุ่งเรื่องการเข้ามาช่วยแก้ปัญหาให้ชาติบ้านเมือง” นายอัษฎางค์ กล่าว
