ศูนย์ข่าวภูเก็ต-ผู้ประกอบการท่องเที่ยวฝั่งอันดามันวอนรัฐบาลชุดใหม่เดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและโครงการขนาดใหญ่ที่ภูเก็ตทั้งขยายสนามบินและศูนย์ประชุมฯ และอยากเห็นรถไฟรางคู่เชื่อมอ่าวไทย-ฝั่งอันดามัน เชื่อทำให้ภาคการท่องเที่ยวคึกคักอย่างแน่นอน พร้อมขอรัฐมนตรีที่มีความรู้และเข้าใจด้านการท่องเที่ยวเพื่อรับการแข่งขันเปิดเสรีในอาเซียน
นายสมบูรณ์ จิรายุส นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวฝากถึงรัฐบาลชุดใหม่ ว่า สิ่งที่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวภูเก็ตต้องการให้รัฐบาลชุดใหม่ภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยเข้ามาดูแลการท่องเที่ยวของภูเก็ต มีอยู่ 2 ประเด็นหลักๆ คือ ผู้ที่จะมารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา จะต้องเป็นบุคคลที่มีความรู้ความเข้าใจพื้นฐานทางด้านการท่องเที่ยว และอยากได้คนหนุ่มที่มีวิสัยทัศน์ด้านการท่องเที่ยวที่กว้างไกล เพราะธุรกิจการท่องเที่ยวสามารถทำรายได้เข้าประเทศปีละ 6 แสนล้านบาท และอยากจะให้รัฐบาลชุดใหม่ใช้งบประมาณด้านการท่องเที่ยวที่มีอย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ในส่วนของภูเก็ต อยากจะให้โครงสร้างพื้นฐานต่างๆที่เป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยวที่ได้ดำเนินการอยู่ในขณะนี้หลายๆโครงการทำอย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการขยายสนามบินภูเก็ต ที่ได้ดำเนินการมาระยะหนึ่งแล้ว อยากให้ทำอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าสนามบินภูเก็ตในขณะนี้ค่อนข้างที่จะแออัด มีสายการบินบินตรงเข้ามาจำนวนมาก และการขยายสนามบินดังกล่าวจะกระจายการเติบโตทางการท่องเที่ยวไปยังกระบี่และพังงาด้วย ไม่เฉพาะภูเก็ตเท่านั้นที่จะได้ประโยชน์
นอกจากนี้ โครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงนิทรรศการนานาชาติ ที่ ต.ไม้ขาว อ.ถลาง ก็อยากจะให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องเช่นกัน เพราะโครงการนี้ได้ดำเนินการมาระยะหนึ่งแล้ว มีความชัดเจนทั้งในเรื่องของแบบและงบประมาณ และที่สำคัญโครงการนี้จะเป็นการส่งเสริมและเพิ่มนักท่องเที่ยวในกลุ่มประชุมสัมมนา( MICE) ให้เข้ามาภูเก็ตและอันดามันมากขึ้น
ด้านนายประพฤทธิ์ ข้อเพชร นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดพังงา กล่าวว่า ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในจังหวัดพังงาต้องการห็นรัฐบาลชุดใหม่ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างจริงจัง เพราะธุรกิจท่องเที่ยวสามารถทำรายได้เข้าประเทศได้ปีละจำนวนมหาศาลและกระจายไปยังทุกภาคส่วน ทั้งการสร้างภาพลักษณ์และสร้างแบรนด์การท่องเที่ยวของไทยให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลกมากกว่านี้ รวมทั้งประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวให้ชัดเจนว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวประเภทใด เช่น แหล่งท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อน เอนเตอร์เทนเมนต์ หรือแหล่งท่องเที่ยวด้านศิลปวัฒนธรรม เป็นต้น
สำหรับจังหวัดพังงาซึ่งเป็นน้องสุดท้องของแหล่งท่องเที่ยวในอันดามัน อยากให้รัฐบาลเพิ่มงบประมาณลงมาพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว และโครงสร้างพื้นฐานให้เพียงพอต่อการขยายตัวทางการด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในเรื่องของถนนหนทางต่างๆ ที่ขณะนี้ถนนในบริเวณเขาหลักเป็นถนนที่ไม่เหมาะกับเมืองท่องเที่ยว การจัดการขยะอย่างเป็นระบบ รวมไปถึงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในท้องทะเลให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม เพราะขณะนี้การท่องเที่ยวของเขาหลักมีการเติบโตที่สูงมาก มีการลงทุนห้องพักเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่าปีละ 1,000 ห้อง
ขณะที่นายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ในส่วนของภาคธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ อยากเห็นรัฐบาลมีแนวนโยบายทางด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้กระจายครอบคลุมทุกพื้นที่ อย่าไปกระจุกตัวอยู่แต่ภาคหนึ่งภาคใดของประเทศ เพราะไม่อย่างนั้นแล้วการขับเคลื่อนทางด้านภาคการท่องเที่ยวก็จะสะดุด ไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ เพราะที่ผ่านมาความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่อประเทศไทยมีน้อยมาก
ในส่วนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาเอง รัฐบาลก็จะต้องให้ความสำคัญด้วย ต้องเอาคนที่มีความรู้ความสามารถ ความเชี่ยวชาญทางด้านการท่องเที่ยวอย่างแท้จริง เข้ามาทำหน้าที่ สามารถประสานได้ทั่วทุกสารทิศ เพราะในอีกไม่ช้าภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทยก็จะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนอย่างแท้จริง และนั่นก็คือจะเข้าสู่ยุคของการแข่งขันอย่างแท้จริง หากว่าได้รัฐมนตรีที่ไม่มีความเชี่ยวชาญหรือรัฐบาลไม่ให้ความสำคัญต่อภาคการท่องเที่ยวก็เชื่อว่าภาคธุรกิจท่องเที่ยวไม่เฉพาะจังหวัดกระบี่ ก็จะซบเซาต่อไปอีก
นายอิทธิฤทธิ์ ยังได้กล่าวถึงโครงการรถไฟรางคู่ ซึ่งเป็นโครงการเมกะโปรเจกต์ รถไฟรางคู่เชื่อมระหว่างฝั่งอ่าวไทยและอันดามันด้วยว่า หากว่ารัฐบาลจะให้ความสำคัญและผลักดันจนเกิดความสำเร็จ และเชื่อมต่อไปยังพื้นที่อื่นๆ ก็จะเป็นประโยชน์ต่อภาคการท่องเที่ยวของทั้งสองฝั่ง นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปมาระหว่างกันได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้จังหวัดกระบี่และฝั่งอันดามันมีความคึกคักทางด้านการท่องเที่ยวได้ไม่น้อย เพราะที่ผ่านมาทางภาคเอกชนของจังหวัดกระบี่เอง ก็เคยเรียกร้องมาหลายรัฐบาลแล้ว แต่เรื่องก็ยังเงียบหาย ยังไม่มีรัฐบาลใดให้ความสำคัญและเห็นความสำคัญ
“สิ่งที่อยากฝากไปถึงรัฐบาลภายใต้การนำของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของประเทศไทย ก็คือจะเห็นได้ว่าภาคใต้ไม่มี ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยที่จะเข้าไปเป็นตัวแทนของรัฐบาลแม้แต่คนเดียว ก็อยากให้รัฐบาลเปิดใจให้กว้าง อย่าคิดว่าไม่มี ส.ส.ของตัวเองแล้วจะไม่ให้ความสำคัญ ไม่คิดพัฒนาหรือทุ่มเทเงินงบประมาณลงมาในพื้นที่ ในเมื่อได้เป็นรัฐบาลก็ต้องเปิดใจ ไม่แยกพรรคแยกพวก ต้องให้ความสำคัญทุกพื้นที่เท่าเทียมกันมองการพัฒนาของประเทศในภาพรวม”นายอิทธิฤทธิ์ กล่าวในที่สุด