xs
xsm
sm
md
lg

พรีเมียร์ซาตินรุกเครื่องนอนไฮโซ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – “โชคลาภบุญไชย” รุกปั้นแบรนด์พรีเมียร์ซาตินเจาะตลาดที่นอนระดับพรีเมียม อัดงบ 20 ล้านบาทลุยทั้งอะโบฟเดอะไลน์และบีโลว์เดอะไลน์ เล็งปรับราคาอีกระลอกอ้างวัตถุดิบราคาพุ่ง

นายธนชัย สุจินตะมณี รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท โชคลาภบุญไชย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายที่นอนและเครื่องนอนแบรนด์ ซาติน เปิดเผยว่า ขณะนี้ต้นทุนวัตถุดิบในการผลิตที่นอนและเครื่องนอนปรับตัวสูงขึ้นตามลำดับ และยังไม่มีทีท่าว่าราคาจะนิ่งแต่อย่างใด และราคาน้ำมันทก็ยังสูงขึ้นต่อนเนื่อง ซึ่งทำให้บริษัทฯต้องรอดูสถานการณ์อีกระยะหนึ่งก่อนว่าเป็นอย่างไร ก่อนที่จะตัดสินใจปรับราคาสินค้าขึ้นบ้าง ซึ่งเมื่อประมาณปีที่แล้วบริษัทฯได้ปรับราคาไปแล้วประมาณ 5-10%
อย่างไรก็ตมในช่วงครึ่งปีหลังนี้บริษัทฯมีแผนรุกตลาดชัดเจน โดยเฉพาะการเน้นไปที่แบรนด์ พรีเมียร์ซาติน ที่จับกลุ่มระดับบน ซึ่งเริ่มแบรนด์นี้มา 2 ปีแล้วแต่ยังไม่ได้ทำการตลาด ขณะที่อีกแบรนด์คือ ซาติน นั้นเจาะตลาดระดับแมสทำมานานแล้วและอยู่ตัวแล้วถือเป็นผู้นำตลาดด้วยก็จะทำตลาดไปตามปรกติ
ทั้งนี้แบรนด์พรีเมียร์ซาติน จับกลุ่มระดับบน ราคาเริ่มที่ 3,000 กว่าบาทขึ้นไป ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพ แม้ว่ามูลค่าตลาดจะมีประมาณ 1,000 – 2,000 ล้านบาท จากตลาดรวมที่นอนในไทยที่มีประมาณ 5,000 ล้านบาท เพราะส่วนใหญ่เป็นตลาดแมสมากกว่า 3,000 ล้านบาท แต่ก็เป็นตลาดที่มั่นคง ไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจมากนักเพรากลุ่มเป้าหมายมีกำลังซื้อและคำนึงถึงเรื่องคุณภาพเป็นหลัก
แผนรุกตลาดจะทำทั้งอะโบฟเดอะไลน์ เช่น การโฆษณาผ่านสื่อต่างๆทั้งสิ่งพิมพ์ ทีวี วิทยุ ป้ายบิลบอร์ด รวมทั้งนิวมีเดียด้วย และการทำบีโลว์เดอะไลน์ เช่น การจัดกิจกรรม การทำโรดโชว์ ซึ่งบริษัทฯแทบจะไม่เคยทำโรดโชว์มาก่อนเลย โดยปีนี้จะใช้งบตลาดสำหรับแบรนด์พรีเมียร์ซาตินโดยเฉพาะประมาณ 20 ล้านบาท
“ตลาดในไทยยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากเพราะปริมาณการเปลี่ยนที่นอนหรือเครื่องนอนของคนไทยยังย้อยมาก ไม่เหมือนในยุโรป ที่เปลี่ยนกันบ่อย อีกทั้งยังเติบโตไปตามตลาดอสังหาริมทรัพย์ด้วย และยังมองไปที่การขยายตลาดต่างประเทศอย่างจริงจังเริ่มที่ประเทศเพื่อนบ้านก่อน หลังจากก่อนหน้านี้มีสินค้าของบริษํทฯไปจำหน่ายแล้ว “
ปัจจุบันบริษัทฯมี 3 แบรนด์หลักคือ เปอริโก จับกลุ่มเอบวก แบรนด์พรีเมียร์ซาตินจับกลุ่มเอลบลงมา และซาตินจับกลุ่มแมสมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 70% ของรายได้บริษัทฯ โดยมีช่องทางการจำหน่ายอยู่ในห้างสรรพสินค้าเป็นหลัก
นายธนชัยกล่าวต่อว่า ปีนี้บริษัทฯได้ลงทุนขยายคลังสินค้าเพิ่มขึ้นอีก 10 ไร่ จากเดิมที่มี 20 ไร่ บนพื้นที่เดิมที่โรงงานหนองแขม ส่วนการลงทุนเพิ่มกำลังผลิตนั้นคาดว่าอีกอย่างน้อย 2 ปีจะลงทุนได้เนื่องจากปัจจุบันยังมีกำลังผลิตเพียงพอ
โดยปีนี้คาดว่าจะสามารถทำรายได้รวมเติบโตขึ้นจากปีที่แล้วประมาณ 20% ซึ่งช่วง 5 เดือนแรกปีนี้รายได้เติบโตแล้ว 5%
กำลังโหลดความคิดเห็น