ASTVผู้จัดการรายวัน – “ไอ.ซี.ซี.” รุกเสื้อผ้าสตรีวัยรุ่น สร้างแบรนด์เลมอนเนดเจาะตลาด ปีนี้ทุ่ม 30 ล.ขยายจุดจำหน่ายเพิ่มและทำตลาดเชิงรุก พร้อมลุยต่างประเทศ
นางอนงค์ทิพย์ วงศ์จิรสวัสดิ์ ผู้จัดการส่วน บุติคสตรี บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า บริษัทฯมองเห็นช่องว่างการตลาดเสื้อผ้าสตรีในเซกเมนต์วัยรุ่นอายุ 18 – 29 ปี ในช่องทางห้างสรรพสินค้า เพราะส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มวัยทำงาน และวัยผู้ใหญ่ จึงได้พัฒนาแบรนด์เลมอนเนดขึ้นมาทำตลาดเมื่อปลายปีที่แล้ว
ปัจจุบันสามารถขยายช่องทางกจำนายของแบรด์เลมอนเนดประมาณ 15 จุดจำน่าย แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 5 สาขา และต่างจังหวัด 10 สาขา โดยปีนี้ยังเจรียงยบประมาณอักกว่า 30 ล้านบาท เพือ่รุกตลดาเต็มที่ แบ่งเป้น งบ 10 ล้านบาท ขยายาขาใหม่รูปแบบคอรืเนอร์ 15 แห่ง ลงทุนลี่ย 5-7 แสนบาทตจ่อจุด และแฟล็กชิพสโตร์ 1 สาขาที่ เทอร์มินอล 21 งบลงทุน 1.5 – 2 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดดำเนินการได้ในช่วงปลายปี โดยจะขยายสาขาในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดอย่างละเท่าๆ กัน
ปีนี้จะเน้นเปิดจุดจำหน่ายในสถานที่ท่องเที่ยวเป็นหลัก เช่น สยามพารากอน เซ็นทรัลเวิลด์ เป็นต้น เพราะที่ผ่านมาจากการวางจำหน่ายในต่างจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เช่น จังซีลอน ภูเก็ต ได้รับการตอบรับที่ดีจากชาวต่างชาติ
ส่วนงบอีก 20 ล้านบาท จะใช้ในการทำตลาด เช่น การจัดกิจกรรมทางการตลาด การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ต่างๆ คาดว่าปีนี้แบรนด์ เลมอนเนด จะมียอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปีที่ผ่านมา โดยในไตรมาสแรกยอดขายเติบโตแล้ว 135%
นอกจากนี้ แผน 3 ปีนับจากนี้จะรุกตลาดอาเซียน โดยประเทศแรกที่บริษัทจะเข้าไปเปิดจุดจำหน่าย คือ สิงค์โปร์ และจะขยายไปยังประเทศพม่า กัมพูชา ลาว ซึ่งการลงทุนในแต่ละแห่งจะไม่เท่ากัน เช่น สิงค์โปร์ จะต้องลงทุนต่อจุดมากกว่าในประเทศไทย 20% และสินค้าก็จะมีราคาสูงกว่าในประเทศ 20% เช่นกัน โดยวางเป้าหมายสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ 20% และรายได้ในประเทศ 80%
นางอนงค์ทิพย์กล่าวว่า ปัจจุบันต้นทุนวัตถุดิบสินค้า คือฝ้ายและสินค้าเกี่ยวข้องมีราคาสูงขึ้น 15 – 20% แต่บริษัทยังไม่มีแผนที่จะปรับราคาสินค้าในแวลานี้ ในราคาโดยเสื้อผ้าเลมอนเนดมีราคาเริ่มต้น 490 บาท จนถึงกว่า 2,000 บาท
นางอนงค์ทิพย์ วงศ์จิรสวัสดิ์ ผู้จัดการส่วน บุติคสตรี บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า บริษัทฯมองเห็นช่องว่างการตลาดเสื้อผ้าสตรีในเซกเมนต์วัยรุ่นอายุ 18 – 29 ปี ในช่องทางห้างสรรพสินค้า เพราะส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มวัยทำงาน และวัยผู้ใหญ่ จึงได้พัฒนาแบรนด์เลมอนเนดขึ้นมาทำตลาดเมื่อปลายปีที่แล้ว
ปัจจุบันสามารถขยายช่องทางกจำนายของแบรด์เลมอนเนดประมาณ 15 จุดจำน่าย แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 5 สาขา และต่างจังหวัด 10 สาขา โดยปีนี้ยังเจรียงยบประมาณอักกว่า 30 ล้านบาท เพือ่รุกตลดาเต็มที่ แบ่งเป้น งบ 10 ล้านบาท ขยายาขาใหม่รูปแบบคอรืเนอร์ 15 แห่ง ลงทุนลี่ย 5-7 แสนบาทตจ่อจุด และแฟล็กชิพสโตร์ 1 สาขาที่ เทอร์มินอล 21 งบลงทุน 1.5 – 2 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดดำเนินการได้ในช่วงปลายปี โดยจะขยายสาขาในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดอย่างละเท่าๆ กัน
ปีนี้จะเน้นเปิดจุดจำหน่ายในสถานที่ท่องเที่ยวเป็นหลัก เช่น สยามพารากอน เซ็นทรัลเวิลด์ เป็นต้น เพราะที่ผ่านมาจากการวางจำหน่ายในต่างจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เช่น จังซีลอน ภูเก็ต ได้รับการตอบรับที่ดีจากชาวต่างชาติ
ส่วนงบอีก 20 ล้านบาท จะใช้ในการทำตลาด เช่น การจัดกิจกรรมทางการตลาด การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ต่างๆ คาดว่าปีนี้แบรนด์ เลมอนเนด จะมียอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปีที่ผ่านมา โดยในไตรมาสแรกยอดขายเติบโตแล้ว 135%
นอกจากนี้ แผน 3 ปีนับจากนี้จะรุกตลาดอาเซียน โดยประเทศแรกที่บริษัทจะเข้าไปเปิดจุดจำหน่าย คือ สิงค์โปร์ และจะขยายไปยังประเทศพม่า กัมพูชา ลาว ซึ่งการลงทุนในแต่ละแห่งจะไม่เท่ากัน เช่น สิงค์โปร์ จะต้องลงทุนต่อจุดมากกว่าในประเทศไทย 20% และสินค้าก็จะมีราคาสูงกว่าในประเทศ 20% เช่นกัน โดยวางเป้าหมายสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ 20% และรายได้ในประเทศ 80%
นางอนงค์ทิพย์กล่าวว่า ปัจจุบันต้นทุนวัตถุดิบสินค้า คือฝ้ายและสินค้าเกี่ยวข้องมีราคาสูงขึ้น 15 – 20% แต่บริษัทยังไม่มีแผนที่จะปรับราคาสินค้าในแวลานี้ ในราคาโดยเสื้อผ้าเลมอนเนดมีราคาเริ่มต้น 490 บาท จนถึงกว่า 2,000 บาท