หุ้นไทยเปิดเทอมวันแรก ดัชนีภาคเช้าปรับลงกว่า 10 จุด คาดเจอแรงขายทำกำไรระยะสั้น หลังน้ำมันร่วงต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ และความวิตกกังวลปัญหาหนี้ในยุโรป รวมถึงปัญหาข่าวอื้อฉาวของผู้บริหารไอเอ็มเอฟ
ภาวะตลาดหุ้นไทยเปิดทำการวันแรก 18 พฤษภาคม 2554 (วันนี้) หลังหยุดยาวต่อเนื่อง 4 วันทำการ พบว่า ดัชนีภาคเช้าปรับตัวลงกว่า 10 จุด จากแรงขายทำกำไรระยะสั้นของนักลงทุน หลังจากราคาน้ำมันร่วงมายืนต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และความกังวลการแก้ไขปัญหาหนี้ในยุโรป หลังตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลง ท่ามกลางกระแสข่าวอื้อฉาวของนายโดมินิก สเตราส์ คาห์น กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ซึ่งถูกกระแสกดดันอย่างหนัก
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 12.02 น. ดัชนีอยู่ที่ระดับ 1,070.82 จุด ปรับตัวลดลง 14.14 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -1.30% มูลค่าการซื้อขาย 13,191.41 ล้านบาท
ด้านนักวิเคราะห์ เผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้อยู่ในแดนลบท่ามกลางแรงกดดัน สวนทางตลาดหุ้นภูมิภาคที่ปรับตัวในแดนบวกเป็นสวนใหญ่ ซึ่งเป็นการปรับในแดนลบชดเชยการหยุดดำเนินการไปในช่วง 2 วันที่ผ่านมาที่ตลาดหุ้นภูมิภาคปรับลดลง 1.25% เนื่องจากความกังวลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และปัญหาหนี้สินของยุโรป ที่อาจจะมากขึ้นกดดัน พร้อมระบุ ต่างชาติยังคงปรับพอร์ตการลงทุนต่อเนื่อง
"หากพิจารณาจะพบว่าในช่วงเช้ามีขายทำกำไรในหุ้นเป็นรายตัว โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มพลังงานที่หลังจากประกาศงบในไตรมาส 1/2554 ออกมาดี แต่อยากให้ติดตามดูผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2554 ทีอาจจะขยายตัวไม่ได้ดีเท่าเมื่อเทียบกับไตรมาสแรก อีกทั้งวันนี้ก็เป็นการประกาศงบวันสุดท้าย รวมทั้งมีการปรับตัวลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์"
อย่างไรก็ตาม มองว่าประเด็นการเลือกตั้งจะเป็นส่วนช่วยในการขับเคลื่อนตลาดให้กลับมาในแดนบวกอีกครั้ง จากผลของการเก็งกำไรในหุ้นที่เกี่ยวโยงกับการเลือกตั้งทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น กลุ่มมีเดีย กลุ่มสิ่งพิมพ์ กลุ่มสื่อสาร เป็นต้น ขณะที่ให้จับตาดูเม็ดเงินไหลเข้า (fund flow) ของนักลงทุนต่างชาติ จากที่เมื่อวันศุกร์ขายสุทธิ 2 พันล้านบาท เพื่อไปหาสินทรัพย์อื่นแทนที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า
ล่าสุด ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาดภาคเช้าที่ระดับ 1,071.91 จุด ปรับตัวลดลง 13.05 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -1.20% มูลค่าการซื้อขาย 15,798.65 ล้านบาท