xs
xsm
sm
md
lg

อเบอร์ดีนเผยต้นปีกองUSยิลด์บวก เหตุหุ้นในพอร์ตผลประกอบการยังดี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อเบอร์ดีน เผย กองหุ้นสหรัฐฯ ยังให้ผลตอบแทนดี ตั้งแต่ต้นปี ขณะที่หลายบริษัทผลประกอบออกมาดี ระบุ เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงใช้มาตรการกระตุ้นต่อไป เนื่องจากยังมีปัญหาเชิงโครงสร้างและหนี้สินที่มาก

นายชัยเกษม วัฒนศิริพงษ์ หัวหน้าฝ่ายจัดจำหน่ายกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อเบอร์ดีน จำกัด กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมากองทุนเปิดอเบอร์ดีน อเมริกัน โกรท ฟันด์ ยังมีผลการดำเนินงานที่ดี โดยให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ ประมาณ 7.6% โดยกองทุนยังเน้นลงทุนอยู่ในอุตสาหกรรม หลักๆ ได้แก่ กลุ่มไอที กลุ่มการเงิน และกลุ่มสินค้าอุโภคบริโภค ซึ่งตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาโดยหลายๆบริษัทมีผลประกอบการที่ดีโดยมีรายได้มาจากต่างประเทศทั่วโลก ขณะที่ตลาดหุ้นอเมริกาในปีที่ผ่านมาตลาดปรับตัวขึ้นไปมาก ดังนั้นตอนนี้จึงมีแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง

เช่นเดียวกับ ตลาดหุ้นในเอเชียก็มีแรงขายทำกำไรออกมาเช่นกัน จากความกังวลในเรื่องของเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นและการขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังไม่มีความเสี่ยงจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ดังนั้นที่ผ่านมาตลาดหุ้นสหรัฐฯจึงให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเอเชีย

"ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนเมษายนที่ผ่านมา จะเห็นว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ประมาณ 7.6% ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 14.1% โดยมีเงินกลับเข้าไปลงทุนบ้างแม้ว่าเศรษฐกิจจะยังคงมีปัญหาอยู่ก็ตามแต่" นายชัยเกษม กล่าว

ทั้งนี้ จากการประกาศคงอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ล่าสุด และการคงมาตรการ QE2 ถึงแค่กลางปีนี้นั้น นายชัยเกษม กล่าวว่า การประกาศของเฟดล่าสุด เป็นสัญญาณที่สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังต้องกระตุ้นต่อไป เนื่องจากยังคงมีปัญหาหนี้สินที่มากและปัญหาโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม

อย่างไรก็ตาม บริษัทที่อเบอร์ดีลงทุนอยู่นั้น ยังมีผลการดำเนินงานที่ดีอยู่ และบริษัทส่วนใหญ่มีรายได้จากต่างประเทศทั่วโลก โดยบริษัทขนาดใหญ่ มีรายได้ที่มาจากต่างประเทศคิดเป็น 40% ของรายได้บริษัททั้งหมด

แนวโน้มทั้งปีนี้มองว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ น่าจะปรัยตัวขึ้นไปใกล้เคียงกับดัชนี เอสแอนด์พี ที่คาดไว้ที่ประดับ 1350 -1400 ซึ่งหากหุ้นในพอร์ตตัวใดที่ราคาขึ้นไปสูงมากก็อาจขายทำกำไรออกมาบ้างเพื่อไปซื้อหุ้นตัวที่ราคาถูกกว่า" นายชัยเกษม กล่าว

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ไว้ที่ระดับ 0-0.25 % ในการประชุมเมื่อวันที่ 27 เม.ย. ที่ผ่านมาโดยจะยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง และยืนยันว่าจะเดินหน้าโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลวงเงิน 6 แสนล้านดอลลาร์ต่อไปจนสิ้นสุดโครงการในเดือนมิ.ย.ปี 2554 โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการจ้างงาน

ด้าน นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดการณ์ว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐจะอยู่ที่ระดับ 3.1-3.3% ในปีนี้ ซึ่งลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 3.9% และมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มตลาดแรงงานสหรัฐ โดยคาดว่าอัตราว่างงานจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 8.4% ภายในปลายปีนี้ จากปัจจุบันที่ระดับ 8.8% และคาดว่าอัตราว่างงานในปี 2555 จะลดลงสู่ระดับ 7.6-7.9% พร้อมประมาณการว่า ดัชนีการใช้จ่ายด้านการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคล (PCE)ในสหรัฐ ซึ่งเป็นดัชนีวัดเงินเฟ้อ จะอยู่ที่ระดับ 2.1-2.8% เพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 1.3-1.7% ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารและพลังงาน คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 1.3-1.6% ในปีนี้ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 1.0-1.3%
กำลังโหลดความคิดเห็น