xs
xsm
sm
md
lg

เตือนประชานิยม"ปู1" หวั่นขาดดุลหลุดเป้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - "คลัง-สภาพัฒน์" เฝ้าระวังนโยบายเศรษฐกิจรัฐบาล "ปู 1" ปลัดคลังห่วงรัฐบาลชุดใหม่เน้นกระตุ้นเศรษฐกิจ กระทบเป้าหมายขาดดุลไม่เกิน 3.5 แสนล้าน อาจเป็นหมัน ลั่นหากมีการกู้เงินเพิ่ม ควรเป็นการลงทุนในโครงการสำคัญจริงๆ ด้านเลขาสภาพัฒน์ยืนเป้าหมายจีดีพี 3.5-4.5%

นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การดำเนินนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่หวังว่าจะยังคงยึดนโยบายงบประมาณสมดุลใน 5 ปี และยืนยันว่างบประมาณในปี 55 จะขาดดุลไม่เกิน 3.5 แสนล้านบาท เพื่อรักษาวินัยทางการเงินการคลัง แต่หากจะมีการกู้เงินเพิ่มจะต้องเป็นการลงทุนในโครงการสำคัญที่ยอมรับได้
"งบประมาณขาดดุลไม่เกิน 3.5 แสนล้านบาท เป็นสัญญาที่รัฐบาลและกระทรวงการคลังยึดตามวินัยการเงินการคลัง แต่หากรัฐบาลชุดใหม่ต้องการเปลี่ยนแปลง คงต้องพิจารณาภาพรวมที่จะเกิดขึ้น และหากรัฐบาลใหม่จะจัดทำงบประมาณไม่สมดุลต่อไปเรื่อย ๆ รายจ่ายประจำของรัฐบาลต้องควบคุมได้ ปัจจุบัน งบรายจ่ายประจำคิดเป็น 70% ของรายจ่ายทั้งหมด" นายอารีพงศ์กล่าว
ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงว่า พรรคการเมืองที่เข้ามาเป็นรัฐบาลชุดใหม่จะสามารถขับเคลื่อนนโยบายสร้างความปรองดอง และแก้ไขความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสังคม ตามที่หาเสียงไว้ได้ เช่นเดียวกับการลงทุนในโครงการต่างๆ ไม่ว่ารัฐบาลและรัฐวิสาหกิจจะลงทุนเอง หรือเปิดให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุน ก็อาจส่งผลกระทบต่อการจัดทำงบประมาณรายจ่ายปี 2555
"สศช.ยังคงประมาณการจีดีพีไว้ที่ 3.5-4.5% ส่วนนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ ที่เน้นกระตุ้นการเพิ่มรายได้และการบริโภค จะส่งผลให้เกิดการใช้จ่าย และส่งผลต่ออัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยปีนี้อย่างไร ต้องรอการประกาศแผนบริหารราชการแผ่นดินอีกครั้ง จึงจะทบทวนการปรับจีดีพีอีกครั้ง"
นายอาคมเปิดเผยว่า ในวันที่ 7 ก.ค. นี้ นายอภิสิทธิ์ นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานการประชุม และ ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง อนาคตประเทศไทยในระยะ 5 ปีข้างหน้า และจะมีการนำเสนอยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศในระยะแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 ปี พ.ศ. 2555-2559
เป้าหมายหลักในการพัฒนา 4 ด้าน คือ 1. ความอยู่เย็นเป็นสุข และความสงบสุขของสังคมไทยเพิ่มขึ้น ความเหลื่อมล้ำในสังคมลดลง และภาพลักษณ์การคอร์รัปชันดีขึ้น 2. คนไทยมีการเรียนรู้ต่อเนื่อง มีสุขภาวะดีขึ้น และสถาบันทางสังคมมีความเข้มแข็งมากขึ้น 3. เศรษฐกิจมีอัตราการขยายตัวที่เหมาะสมตามศักยภาพของประเทศ
โดยจีดีพีไม่ต่ำกว่าร้อยละ 3 ต่อปี เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านเศรษฐกิจ เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมต่อจีดีพี ในสัดส่วนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 และลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 4.คุณภาพสิ่งแวดล้อมอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน เพิ่มพื้นที่ป่าไม้รักษาสมดุลนิเวศ ซึ่งตามแผนพัฒนาฉบับที่ 11 ในระยะเวลา 5 ปี จะทำให้จีดีพีเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 4-5.
กำลังโหลดความคิดเห็น