ASTVผู้จัดการรายวัน - ทีมแพทย์ย้าย "หมอมุก" จากห้องไอซียูพักรักษาตัวห้องผู้ป่วยพิเศษ แม่บอกรู้สึกดีใจ และสบายใจที่เห็นลูกสาวมีอาการดีขึ้นผ่านพ้นช่วงวิกฤติมาได้ เจ้าตัวเดิน-หัวเราะพร้อมพูดชมพยาบาล “สวย”
วานนี้ (1 ก.ค.) ที่หออภิบาลผู้ป่วยหนัก (ICU) อาคารท่านผู้หญิงประภาศรีกำลังเอก โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ผู้สื่อข่าวรายงานอาการของ พ.ต.พญ.หทัยพร อิ่มวิทยา หรือหมอมุก ว่า หมอมุก มีใบหน้าสดใส ทั้งยังยิ้มแย้มแจ่มใสให้แก่ผู้มาเยี่ยม และสื่อมวลชนที่ทำข่าว ซึ่งทีมกายภาพได้เข้าทำการกายภาพบำบัดหมอมุกเป็นเวลานานประมาณ 30 นาที โดยมี พญ.พรรณกร อิ่มวิทยา มารดาของหมอมุกคอยให้กำลังใจอย่างใกล้ชิด ซึ่งทีมกายภาพได้ให้หมอมุก ลองลุกนั่งจากเตียงคนไข้ จากนั้นให้ใช้วอล์กเกอร์พยุงตัวเองเพื่อยืนและเดินออกมาด้านหน้าที่พักรักษาตัวอยู่ 2-3 รอบ โดยหมอมุกสามารถปฏิบัติตามได้เป็นอย่างดี ซึ่ง พล.อ.ณพล บุญทับ รองสมุหราชองครักษ์ เพื่อนพ่อหมอมุก พร้อมลูกชายอีก 2 คนได้เดินทางมาเยี่ยมและเป็นกำลังใจในการทำกายภาพบำบัดด้วย
พ.อ.นพ.พีระพล ปกป้อง ผอ.กองอุบัติเหตุและเวชการฉุกเฉิน เปิดเผยถึงอาการของหมอมุก ว่าอาการดีขึ้นมาก ซึ่งจะย้ายไปพักฟื้นไปยังห้องผู้ป่วยพิเศษ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ ส่วนความคืบหน้าการกายภาพบำบัด หมอมุก สามารถลุกนั่ง และพาเดินโดยเครื่องช่วยได้ประมาณ 5 เมตร สำหรับสีหน้ายังยิ้มแย้ม และหัวเราะให้กับเด็กที่มาเยี่ยมได้ อีกทั้งยังสามารถชมคำว่า “สวย” กับพยาบาลที่มาดูแลได้ ส่วนการรับประทานอาหารสามารถกินและกลืนเองได้ 4-5 คำ ช่วยใส่เข็มขัด และเมื่อมีการไอก็มีการป้องปาก ซึ่งแสดงว่าการพัฒนาสมองกลับมาดีขึ้น
"ตอนนี้หมอมุก ยังไม่สามารถให้การได้ เพราะความจำหากย้อนไปถึงตอนที่เกิดเหตุคงเป็นเรื่องยาก และยังไม่สามารถพูดได้ต้องใช้เวลาอีกสักระยะ"
ด้าน พญ.พรรณกร อิ่มวิทยา มารดาของหมอมุก ได้นำเงินบริจาคที่ได้จากประชาชนที่นำมามอบให้เพื่อช่วยเหลือในการรักษาหมอมุก มอบให้แก่ พ.อ.นพ.พีระพล เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยอุบัติเหตุด้านสมองของโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เนื่องจากผู้ป่วยด้านนี้มีค่าใช้จ่ายในการรักษาค่อนข้างสูง
ต่อมาเวลา 14.20 น.ทีมแพทย์ได้ทำการย้าย หมอมุก ไปพักฟื้นรักษาตัวยังห้องผู้ป่วยพิเศษ 1428 หอผู้ป่วยศัลยกรรมพิเศษ 14/2 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ หลังการเคลื่อนย้ายเสร็จสิ้น พญ.พรรณกร กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ผ่านพ้นช่วงวิกฤติมาได้ ต่อจากนี้คงเป็นการฟื้นฟูรักษาหมอมุกต่อไป เพื่อให้กลับมาเป็นปกติ ส่วนไหนที่ยังไม่ดีก็ต้องแก้ไข อาจต้องใช้เวลาเป็นหลายเดือน ซึ่งจะหยุดงานทุกอย่าง เพื่อมาอยู่เฝ้าลูกตลอดจนกว่าจะหาย เพราะนี่ก็ถือว่าเป็นช่วงสุดท้ายในชีวิต ขณะนี้อายุกว่า 70 ปีแล้ว ซึ่งอยากใช้เวลาอยู่ เพื่อดูแลลูกนานๆ
สำหรับอาการของหมอมุก ถือว่าแจ่มใสมากขึ้นกว่าทุกวัน เนื่องจากมีเด็กมาเยี่ยมมาเล่นด้วย โดยหมอมุกก็หัวเราะยิ้มแย้ม ซึ่งที่เป็นห่วงตอนนี้คงเป็นเรื่องพูด เพราะยังไม่ค่อยพูดต้องฝึกต่อไป แต่เริ่มพูดได้บ้างถือเป็นเรื่องดี
พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 เปิดเผยความคืบหน้าของคดีว่า ขณะนี้การสอบสวนมีความคืบหน้าไปมาก ซึ่งเหลือเพียงรอการสอบปากคำลูกสาวของ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ภู่กลั่น และ พ.ต.พญ.หทัยพร ส่วนผลการตรวจพิสูจน์จากเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เหลืออีกไม่กี่เปอร์เซ็นต์ก็จะครบถ้วนแล้ว โดยขั้นตอนต่อไปก็จะสามารถแจ้งข้อหาแก่ผู้ที่กระทำความผิดได้
เบื้องต้นลูกสาวของ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์จะเดินทางมาให้ปากคำภายในสัปดาห์นี้ ก่อนวันที่ 3 ก.ค.แน่นอน แต่จะเป็นที่ไหนและเวลาใดยังไม่สามารถบอกได้ ส่วนการเข้าสอบปากคำหมอมุกที่ รพ.นั้น ทางแพทย์ยังไม่อนุญาตให้เข้าไป.
วานนี้ (1 ก.ค.) ที่หออภิบาลผู้ป่วยหนัก (ICU) อาคารท่านผู้หญิงประภาศรีกำลังเอก โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ผู้สื่อข่าวรายงานอาการของ พ.ต.พญ.หทัยพร อิ่มวิทยา หรือหมอมุก ว่า หมอมุก มีใบหน้าสดใส ทั้งยังยิ้มแย้มแจ่มใสให้แก่ผู้มาเยี่ยม และสื่อมวลชนที่ทำข่าว ซึ่งทีมกายภาพได้เข้าทำการกายภาพบำบัดหมอมุกเป็นเวลานานประมาณ 30 นาที โดยมี พญ.พรรณกร อิ่มวิทยา มารดาของหมอมุกคอยให้กำลังใจอย่างใกล้ชิด ซึ่งทีมกายภาพได้ให้หมอมุก ลองลุกนั่งจากเตียงคนไข้ จากนั้นให้ใช้วอล์กเกอร์พยุงตัวเองเพื่อยืนและเดินออกมาด้านหน้าที่พักรักษาตัวอยู่ 2-3 รอบ โดยหมอมุกสามารถปฏิบัติตามได้เป็นอย่างดี ซึ่ง พล.อ.ณพล บุญทับ รองสมุหราชองครักษ์ เพื่อนพ่อหมอมุก พร้อมลูกชายอีก 2 คนได้เดินทางมาเยี่ยมและเป็นกำลังใจในการทำกายภาพบำบัดด้วย
พ.อ.นพ.พีระพล ปกป้อง ผอ.กองอุบัติเหตุและเวชการฉุกเฉิน เปิดเผยถึงอาการของหมอมุก ว่าอาการดีขึ้นมาก ซึ่งจะย้ายไปพักฟื้นไปยังห้องผู้ป่วยพิเศษ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ ส่วนความคืบหน้าการกายภาพบำบัด หมอมุก สามารถลุกนั่ง และพาเดินโดยเครื่องช่วยได้ประมาณ 5 เมตร สำหรับสีหน้ายังยิ้มแย้ม และหัวเราะให้กับเด็กที่มาเยี่ยมได้ อีกทั้งยังสามารถชมคำว่า “สวย” กับพยาบาลที่มาดูแลได้ ส่วนการรับประทานอาหารสามารถกินและกลืนเองได้ 4-5 คำ ช่วยใส่เข็มขัด และเมื่อมีการไอก็มีการป้องปาก ซึ่งแสดงว่าการพัฒนาสมองกลับมาดีขึ้น
"ตอนนี้หมอมุก ยังไม่สามารถให้การได้ เพราะความจำหากย้อนไปถึงตอนที่เกิดเหตุคงเป็นเรื่องยาก และยังไม่สามารถพูดได้ต้องใช้เวลาอีกสักระยะ"
ด้าน พญ.พรรณกร อิ่มวิทยา มารดาของหมอมุก ได้นำเงินบริจาคที่ได้จากประชาชนที่นำมามอบให้เพื่อช่วยเหลือในการรักษาหมอมุก มอบให้แก่ พ.อ.นพ.พีระพล เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยอุบัติเหตุด้านสมองของโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เนื่องจากผู้ป่วยด้านนี้มีค่าใช้จ่ายในการรักษาค่อนข้างสูง
ต่อมาเวลา 14.20 น.ทีมแพทย์ได้ทำการย้าย หมอมุก ไปพักฟื้นรักษาตัวยังห้องผู้ป่วยพิเศษ 1428 หอผู้ป่วยศัลยกรรมพิเศษ 14/2 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ หลังการเคลื่อนย้ายเสร็จสิ้น พญ.พรรณกร กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ผ่านพ้นช่วงวิกฤติมาได้ ต่อจากนี้คงเป็นการฟื้นฟูรักษาหมอมุกต่อไป เพื่อให้กลับมาเป็นปกติ ส่วนไหนที่ยังไม่ดีก็ต้องแก้ไข อาจต้องใช้เวลาเป็นหลายเดือน ซึ่งจะหยุดงานทุกอย่าง เพื่อมาอยู่เฝ้าลูกตลอดจนกว่าจะหาย เพราะนี่ก็ถือว่าเป็นช่วงสุดท้ายในชีวิต ขณะนี้อายุกว่า 70 ปีแล้ว ซึ่งอยากใช้เวลาอยู่ เพื่อดูแลลูกนานๆ
สำหรับอาการของหมอมุก ถือว่าแจ่มใสมากขึ้นกว่าทุกวัน เนื่องจากมีเด็กมาเยี่ยมมาเล่นด้วย โดยหมอมุกก็หัวเราะยิ้มแย้ม ซึ่งที่เป็นห่วงตอนนี้คงเป็นเรื่องพูด เพราะยังไม่ค่อยพูดต้องฝึกต่อไป แต่เริ่มพูดได้บ้างถือเป็นเรื่องดี
พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 เปิดเผยความคืบหน้าของคดีว่า ขณะนี้การสอบสวนมีความคืบหน้าไปมาก ซึ่งเหลือเพียงรอการสอบปากคำลูกสาวของ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ภู่กลั่น และ พ.ต.พญ.หทัยพร ส่วนผลการตรวจพิสูจน์จากเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เหลืออีกไม่กี่เปอร์เซ็นต์ก็จะครบถ้วนแล้ว โดยขั้นตอนต่อไปก็จะสามารถแจ้งข้อหาแก่ผู้ที่กระทำความผิดได้
เบื้องต้นลูกสาวของ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์จะเดินทางมาให้ปากคำภายในสัปดาห์นี้ ก่อนวันที่ 3 ก.ค.แน่นอน แต่จะเป็นที่ไหนและเวลาใดยังไม่สามารถบอกได้ ส่วนการเข้าสอบปากคำหมอมุกที่ รพ.นั้น ทางแพทย์ยังไม่อนุญาตให้เข้าไป.