ไพโอเนียร์เดินหน้าทำตลาดเอวีรีซีฟเวอร์เชิงรุก หวังขึ้นผู้นำชัดเจนสิ้นปีนี้ ดันรายได้รวมโต 10% ออกสินค้าใหม่ 4 รุ่นรวด พร้อมเลิกช่องทางดิสเคานต์สโตร์
นายโตชิฮารุ โมโมตาริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนียร์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะทำตลาดเชิงรุกมากขึ้นสำหรับผลิตภัณฑ์เอวีรีซีฟเวอร์ หรือเครื่องเสียงแบบแยกชิ้น เนื่องจากตลาดยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก สอดคล้องกับการเติบโตของไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคด้วย โดยตั้งเป้าหมายที่จะขึ้นเป็นผู้นำตลาดอันดับ1 ภายในปีนี้
จากปัจจุบันตลาดรวมของกลุ่มสินค้าดังกล่าวในส่วนของกลุ่มคาร์ออดิโอนี้มีผู้เล่น 3 รายหลักคือ ไพโอเนียร์ ออนเกียว และยามาฮ่า ซึ่งบริษัทฯติดท็อปทรีเช่นกัน ซึ่งตลาดจะเติบโตมากเพราะว่ายอดขายรถยนต์เพิ่มขึ้น ซึ่งที่ผ่านมามีปริมาณรถใหม่ออกสู่ท้องตลาดกว่า 800,000 คัน ทำให้ตลาดคาร์ออดิโอเติบโตด้วยดี ขณะที่ในตลาดรวมของโฮมออดิโอนั้นมีผู้เล่นหลายราย เช่น ไพโอเนียร์ พานาโซนิค ฟิลิปส์ โซนี่ ซัมซุง แอลจี เป็นต้น
สำหรับสัดส่วนรายได้ของไพโอเนียร์ในกลุ่มเครื่องเสียงนั้น แบ่งออกเป็น กลุ่มคาร์ออดิโอมีสัดส่วน 65% จากรายได้รวม โฮมออดิโอสัดส่วน 30% และกลุ่มดีเจ 5% ซึ่งกลุ่มดีเจนี้มีส่วนแบ่งในตลาดมากที่สุดและเป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่ง 70% ซึ่งรอบปีบัญชีล่าสุดที่ปิดเดือนมีนาคมที่ผ่านมามีรายได้รวม 1,060 ล้านบาท คาดปีนี้จะเติบโต 10%
แผนการตลาดหลักๆ คือ จะออกสินค้ารุ่นใหม่มากขึ้น จากปีที่แล้วที่มี 9 แพคเกจ ปีนี้จะเพิ่มเป็น 17 แพคเกจ ล่าสุดออกสินค้าใหม่ 4 รุ่นคือ เครื่องเอวีรีซีฟเวอร์ 5.1 และ 7.1 แชนแนลVSX-521K , VSX-821K, VSX-921K และ VSX-1021K มีฟังก์ชั่นครบครัน รองรับระบบ3 มิติ เชื่อมต่อได้กับอุปกรณ์ดิจิตอลยุคใหม่เช่น ไอโฟน ไอแพด ไอพอด เป็นต้น ซึ่งไพโอเนียร์เน้นตลาดระดับกลางถึงสูง ราคาเฉลี่ย 14,000 บาทขึ้นไป
นอกจากนั้นได้ทำการปรับช่องทางการจำหน่ายใหม่ไปแล้ว โดยบริษัทฯได้ทยอยยกเลิกช่องทางจำหน่ายที่เป็นแบบดิสเคานต์สโตร์ เนื่องจากว่า กลุ่มสินค้าและระดับราคาไม่สอดคล้องกับลูกค้าของดิสเคาน์สโตร์ ซึ่งบริษัทฯจะหันมาเน้นช่องทางที่เป็นร้านสมัยใหม่ ร้านเครื่องเสียงเฉพาะทาง เป็นต้ น
นายโตชิฮารุ กล่าวว่า ขณะที่ยุทธศาสตร์ระยะยาวของบริษัทฯวางเป้าหมายไว้ว่าภายในปี 2559 หรืออีก 4 ปีจากนี้จะมุ่งพัฒนา 5 ด้านที่สำคัญคือ สร้างสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า พัฒนาศักยภาพความคิดสร้างสรรค์แก่พนักงานและวัฒนธรรมองค์กร พัฒนาผลิตภัณฑ์และเพิ่มคุณค่าแก่สินค้า พัฒนาความสัมพันธ์อันดีกับชุมชนและหุ้นส่วนทางธุรกิจ ผลักดันให้นวัตกรรมแบรนด์ไพโอเนียร์เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของผู้บริโภคในทุกสถานที่
นายโตชิฮารุ โมโมตาริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนียร์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะทำตลาดเชิงรุกมากขึ้นสำหรับผลิตภัณฑ์เอวีรีซีฟเวอร์ หรือเครื่องเสียงแบบแยกชิ้น เนื่องจากตลาดยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก สอดคล้องกับการเติบโตของไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคด้วย โดยตั้งเป้าหมายที่จะขึ้นเป็นผู้นำตลาดอันดับ1 ภายในปีนี้
จากปัจจุบันตลาดรวมของกลุ่มสินค้าดังกล่าวในส่วนของกลุ่มคาร์ออดิโอนี้มีผู้เล่น 3 รายหลักคือ ไพโอเนียร์ ออนเกียว และยามาฮ่า ซึ่งบริษัทฯติดท็อปทรีเช่นกัน ซึ่งตลาดจะเติบโตมากเพราะว่ายอดขายรถยนต์เพิ่มขึ้น ซึ่งที่ผ่านมามีปริมาณรถใหม่ออกสู่ท้องตลาดกว่า 800,000 คัน ทำให้ตลาดคาร์ออดิโอเติบโตด้วยดี ขณะที่ในตลาดรวมของโฮมออดิโอนั้นมีผู้เล่นหลายราย เช่น ไพโอเนียร์ พานาโซนิค ฟิลิปส์ โซนี่ ซัมซุง แอลจี เป็นต้น
สำหรับสัดส่วนรายได้ของไพโอเนียร์ในกลุ่มเครื่องเสียงนั้น แบ่งออกเป็น กลุ่มคาร์ออดิโอมีสัดส่วน 65% จากรายได้รวม โฮมออดิโอสัดส่วน 30% และกลุ่มดีเจ 5% ซึ่งกลุ่มดีเจนี้มีส่วนแบ่งในตลาดมากที่สุดและเป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่ง 70% ซึ่งรอบปีบัญชีล่าสุดที่ปิดเดือนมีนาคมที่ผ่านมามีรายได้รวม 1,060 ล้านบาท คาดปีนี้จะเติบโต 10%
แผนการตลาดหลักๆ คือ จะออกสินค้ารุ่นใหม่มากขึ้น จากปีที่แล้วที่มี 9 แพคเกจ ปีนี้จะเพิ่มเป็น 17 แพคเกจ ล่าสุดออกสินค้าใหม่ 4 รุ่นคือ เครื่องเอวีรีซีฟเวอร์ 5.1 และ 7.1 แชนแนลVSX-521K , VSX-821K, VSX-921K และ VSX-1021K มีฟังก์ชั่นครบครัน รองรับระบบ3 มิติ เชื่อมต่อได้กับอุปกรณ์ดิจิตอลยุคใหม่เช่น ไอโฟน ไอแพด ไอพอด เป็นต้น ซึ่งไพโอเนียร์เน้นตลาดระดับกลางถึงสูง ราคาเฉลี่ย 14,000 บาทขึ้นไป
นอกจากนั้นได้ทำการปรับช่องทางการจำหน่ายใหม่ไปแล้ว โดยบริษัทฯได้ทยอยยกเลิกช่องทางจำหน่ายที่เป็นแบบดิสเคานต์สโตร์ เนื่องจากว่า กลุ่มสินค้าและระดับราคาไม่สอดคล้องกับลูกค้าของดิสเคาน์สโตร์ ซึ่งบริษัทฯจะหันมาเน้นช่องทางที่เป็นร้านสมัยใหม่ ร้านเครื่องเสียงเฉพาะทาง เป็นต้ น
นายโตชิฮารุ กล่าวว่า ขณะที่ยุทธศาสตร์ระยะยาวของบริษัทฯวางเป้าหมายไว้ว่าภายในปี 2559 หรืออีก 4 ปีจากนี้จะมุ่งพัฒนา 5 ด้านที่สำคัญคือ สร้างสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า พัฒนาศักยภาพความคิดสร้างสรรค์แก่พนักงานและวัฒนธรรมองค์กร พัฒนาผลิตภัณฑ์และเพิ่มคุณค่าแก่สินค้า พัฒนาความสัมพันธ์อันดีกับชุมชนและหุ้นส่วนทางธุรกิจ ผลักดันให้นวัตกรรมแบรนด์ไพโอเนียร์เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของผู้บริโภคในทุกสถานที่
