ขรก. ทำเนียบฯ หวั่น “แดง”บุก เร่งแพ็กสัมภาระลงกล่อง เตรียมอพยพทำงานนอกสถานที่ชั่วคราว ด้านสำนักเลขาธิการนายกฯ สั่ง 12 มี.ค.แดงเคลื่อนถึงราชดำเนินอนุญาติข้าราชการเพ่นกลับได้ตั้งแต่ 12.00 น. ขณะที่ ผบช.น.สั่งติดตั้งเครื่องขยายเสียงกว่าหมื่นวัตต์ทั่วทำเนียบฯ 5 จุด พีอาร์แพร่ข้อมูลข่าวสารกำลังพลคุมผู้ชุมนุม
วานนี้ (11 มี.ค.) นายเอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์ รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมของข้าราชการทำเนียบรัฐบาลกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงอาจจะบุกยึดทำเนียบรัฐบาล ว่า ฝ่ายข้าราชระดับสูงทำเนียบรัฐบาลได้ประชุมหารือเตรียมความพร้อมซักซ้อมข้าราชการทั้งหมดประมาณ 2,000 ชีวิตไว้เรียบร้อยแล้ว โดยกำชับให้หน่วยงานในทำเนียบรัฐบาลเตรียมความพร้อมกรณีที่ไม่สามารถเข้ามาทำงานในทำเนียบได้ เราจะรองรับข้าราชการที่จะเดินทางเข้ามาทำงานในทำเนียบอย่างไร กรณีที่เอารถมาจอดไม่ได้ หรือมีการกีดขวางทางเข้าออกจะต้องทำกันอย่างไร จะขนส่งข้าราชการกันอย่างไร หากเข้ามาทำงานในทำเนียบไม่ได้ เราจะมีการติดต่อประสานงานกันอย่างไรเพื่อแจ้งให้ข้าราชการทั้งหมดนี้รู้ว่าทำเนียบไม่สามารถเข้าทำงานได้ โดยช่องทางการสื่อสารเราจะแจ้งผ่านเอสเอ็มเอสหรือทางโทรศัพท์
นายเอนก กล่าวต่อว่า สำหรับสถานที่การทำงานชั่วคราวกรณีที่ข้าราชการไม่สามารถเข้าทำเนียบได้ก็มีการตกลงกัน ว่า ข้าราชการส่วนใหญ่จะไปใช้สถานที่ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ ชั่วคราว หากต้องใช้เวลาที่นั่นนานถึง 1 เดือนก็จะเสียค่าเช่าเดือนละ 15,000 บาท แต่ถ้าแค่ 7 วัน เขาไม่คิดเงิน ถือเป็นการอำนวยความสะดวก ในส่วนของสำนักปลัดฯจะโยกไปใช้กรมประชาสัมพันธ์เป็นสถานที่ทำงานชั่วคราว เหมือนสมัยเสื้อเหลืองเราก็ใช้ที่นั่น ทั้งหมดเพื่อให้งานหลายๆ งานที่เกี่ยวพันภาคประชาชนเกิดความต่อเนื่อง สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) จะไปใช้โรงพิมพ์เชิงสะพานซังฮี้ และอีกหลายๆแห่งที่จะแยกย้ายกันไป อย่างไรก็ตาม เราเน้นเรื่องการรักษาความปลอดภัยของสถานที่ทำงาน แม้จะไปทำงานข้างนอกก็ต้องดูแลสถานที่ไม่ให้ได้รับความเสียหายกรณีเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด โดยจะมีการจัดเจ้าหน้าที่ประจำดูแลป้องกันไม่ให้เกิดเหตุเหมือนในอดีตที่เคยเป็นมา
ส่วนขวัญกำลังใจของข้าราชการทำเนียบฯ นายเอนก กล่าวว่า ถือว่าปกติ เราพร้อมรับสถานการณ์ข้าราชการส่วนใหญ่ ยังคิดว่าเหตุการณ์ไม่น่าจะรุนแรง มองว่า เป็นสิทธิ์การเรียกร้องตามกฎหมาย แต่อยากให้เคารพกฎหมายคือทำอะไรไม่ต้องให้บุคคลที่สามเดือดร้อน ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่คิดแบบนี้เป็นเพราะมั่นใจในการเตรียมความพร้อมรับภาคของภาครัฐบาลมากกว่ารัฐบาลในอดีตใช่หรือไม่ นายเอนก กล่าวว่า จากประสบการณ์ที่พันธมิตรฯบุกยึดทำเนียบส่วนราชการทั้งหมดได้รับบทเรียนและเรียนรู้เรื่องเหล่านี้ว่าควรจะต้องเตรียมการอะไร ประเด็นสำคัญคือ เรื่องการประสานงานระหว่างหน่วยงานกันและและราชการภายนอก หากต้องการติดต่อเรื่องอะไรให้ติดต่อที่หมายเลข 1111
“พวกเรายังคิดว่าเหตุการณ์ไม่น่าจะบานปลาย ไม่ได้เตรียมพร้อมที่จะไประจำถาวร ถ้ามีการเดินขบวน 5 วัน ก็เตรียมงานไปให้เพียงพอกับระยะเวลนั้น ถ้าไม่มีอะไรก็จะกลุบมาทำงานในทำเนียบฯตามปกติ แต่วันนี้เราเตรียมพร้อมที่จะแพ็คอุปกรณ์สำคัญลงกล่องเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว หากวันจันทร์เข้าทำงานในทำเนียบไม่ได้เราก็ร้อมที่โยกไปทำงานในสถานที่เตรียมไว้ได้อย่างทันที แต่เรายังเชื่อว่าเขาจะไม่สมารถเข้ามาบุกยึดทำเนียบได้ เพราะการเตรียมความพร้อมของรัฐบาลดูจะหนาแน่นทำให้ข้าราชการมั่นใจมากขึ้น โดยเฉพาะการมีทหาร-ตำรวจเข้ามาดูแลทำเนียบ” นายเอนก กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ไม่ได้มาสั่งการอะไรเป็นพิเศษในเรื่องการเตรียมสถานที่ทำงานของฝข้าราชการทำเนียบ พวกเราทำกันเองในระดับราชการ ซึ่งเป็นไปตามหน้าที่ของเราที่เคยมีประสบการณ์มาแล้วในอดีตที่เป็นบทเรีบนสำคัญ เรื่องวาระการประชุมที่เกี่ยงข้องไม่มีการงดหรือเลื่อนทุกอย่างจะเป็นไตปามปกติ ขึ้นอยู่กับว่าการประชุมนั้นๆเกี่ยวข้องกับหน่วยงานไหนก็จะใช้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรองรับสถานที่การประชุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต้องแต่ช่วงเช้าวันนี้ (11 มี.ค.) บรรดาข้าราชการทำเนียบรัฐบาลต่างพากันเก็บเอกสาร แพ็กลงใส่กล่องกระดาษเตรียมพร้อมขนย้ายไปทำงานนอกทำเนียบตามที่ได้จัดเตรียมสถานที่ไว้ โดยบางกองทยอยขนไปไว้ที่ศูนย์ราชการบ้างแล้ว ทั้งนี้ได้มีคำสั่งจากสำนักเลขาธิการนายกฯ ให้ข้าราชการทำงานปกติในวันที่ 12 มี.ค.แต่หากกลุ่มคนเสื้อแดงเคลื่อนกำลังมาถึงถนนราชดำเนินและมีแนวโน้มปิดล้อมทำเนียบฯให้ข้าราชการเดินทางกลับได้ตั้งแต่เวลา 12.00 น.ขณะเดียวกัน ในวันที่ 15 มี.ค.หากสถานการณ์ปิดล้อมยืดเยื้อให้ข้าราชการย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ที่ศูนย์ราชการ จนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น
วันเดียวกัน คนงานจากร้านเครื่องเสียง ได้มีการตั้งฐานเหล็กเพื่อรองรับเครื่องขยายเสียงขนาดใหญ่กำลังหมื่นกว่าวัตต์ ทั่วทำเนียบรัฐบาลห้าจุด โดยเป็นการประสานจากผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้มีการติดตั้งเครื่องขยายเสียงเพื่อไว้ประชาสัมพันธ์ ถึงกำลังพล ในการปฏิบัติหน้าที่ต่อกลุ่มผู้ชุมนุม และต้องการเผยแพร่ข้อมูลในการปฏิบัติตัวระหว่างชุมนุมหน้าสถานที่ราชการ โดยชุดเครื่องขยายเสียงขนาดใหญ่จะมีการไปติดตั้งที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลด้วย