ASTVผู้จัดการรายวัน - ผู้ต้องหาร่วมทีมฆ่า “นายกเจี๊ยบ” มอบตัวอีก 1 สารภาพแค่รับจ้างตามทะเบียนรถเหยื่อแลกเงินแค่ 4 พันบาท แต่ไม่รู้ชี้เป้าให้สังหารใคร ด้าน “ภาณุพงศ์” ขู่ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีรีบมอบตัวก่อนโดนตามเก็บ ขณะที่ตร.ชนะสงคราม คุมตัว “ไอ้อั้ม” สมาชิกทีมฆ่า “นายกเจี๊ยบ” ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
วานนี้ (26 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.วรพงศ์ ชิวปรีชา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก สตช. พร้อมด้วย พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส.บช.น. ร่วมกันแถลงข่าวการเข้ามอบตัวของนายตระกูล หรือกุ้ง ทองทิพย์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 984/2554 ลงวันที่ 23 มิ.ย. ซึ่งเป็น 1 ในทีมสังหารนายสุบรรณ จิระพันธุ์วาณิช นายก อบจ.ลพบุรี พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง ที่ใช้ติดต่อในวันเกิดเหตุโดยนายตระกูลได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. เมื่อวานที่ผ่านมา
พล.ต.อ.วิเชียรเปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ก่อเหตุยิงนายสุบรรณ นายก อบจ.ลพบุรี โดยหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันสืบสวนจนทราบว่าคนร้ายมีด้วยกัน ทั้งหมด 5 คน ซึ่งเมื่อวานที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาได้แล้ว 1 ราย คือ นายเอกชัย หรืออั้ม ป้อมเผด็จ อายุ 32 ปี ซึ่งทำหน้าที่เป็นคนชี้เป้าและขับจักรยานยนต์พามือปืนหนี ต่อมานายตระกูลได้ติดต่อขอมอบตัวโดยให้การในเบื้องต้นว่าเป็นผู้ต้องหาที่ ปรากฏอยู่ในภาพวงจรปิด โดยวันเกิดเหตุได้นัดเจอกับนายวันชัยหรือก็อต ที่ร้านข้าวสารเซ็นเตอร์ เพื่อคอยดูรถยนต์ของผู้ตายว่าเดินทางมาถึงเมื่อใด ส่วนนายวันชัยเป็นคนเดินไปดูผู้ตายบริเวณคลินิก เมื่อผู้ตายออกมานายวันชัยก็ส่งสัญญาณว่า “ไก่ดูจิวเวลรีอยู่” เพื่อให้มือปืนลั่นไกสังหารทันที
จากการสอบสวนนายตระกูลให้การรับสารภาพว่า ปกติตนมีอาชีพปล่อยยาเสพติด รับจ้างทวงหนี้ ไม่ได้มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง กระทั่งได้รับการชักชวนจากนายก็อตเพื่อให้ทำงานดังกล่าว โดยทำหน้าที่ดูหมายเลขทะเบียนรถ แต่ไม่รู้ว่าเป็นการสังหารใคร คิดว่าแค่ให้มาดูทะเบียนรถยนต์เท่านั้น ได้รับค่าจ้างจำนวน 4 พันบาท ส่วนทะเบียนรถที่นายก็อตให้ตนดูนั้นคือหมายเลขทะเบียน นก 333 ลพบุรี และหมายเลขทะเบียน ก8 ลพบุรี เมื่อรถคนตายมาถึงตนก็บอกกับนายก็อต เมื่อเสร็จงานตนก็กลับไปที่บ้านพักหลังโรงเรียนพาณิชยการราชดำเนิน กระทั่งมาทราบข่าวจากโทรทัศน์ ส่วนนายเอกชัยที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้เป็นคนรู้จักแถวบ้านของตน
พล.ต.อ.ภาณุพงศ์กล่าวว่า ขณะนี้ยังเหลือผู้ต้องหาอีก 3 ราย คือ นายสิระพงศ์ อาจเดช หรือต๋อง วังน้ำเขียว มือปืน นายวันชัย หรือก็อต โพธิปิติ ชี้เป้า และนายอัครวัฒน์ เพชรจันทา คนรับงาน ตนอยากฝากไปถึงทั้ง 3 คนว่าให้เข้ามอบตัว เพราะถ้าหากกลับไปหาผู้จ้างวานอาจจะโดนฆ่าทิ้งได้ แต่ถ้าหากเข้ามอบตัวทางตำรวจก็จะให้ความเป็นธรรมดำเนินคดีไปตามกฎหมาย หลังจากนี้จะนำตัวนายตระกูลส่งพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม ดำเนินคดีต่อไป
ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น.ที่ สน.ชนะสงคราม พ.ต.ท.ณฐกร คุ้มทรัพย์ รองผกก.สส.สน.ชนะสงคราม ควบคุมตัว นายเอกชัย ป้อมเผด็จ หรือ อั้ม หนึ่งในผู้ต้องหาร่วมทีมสังหารนายสุบรรณ จิระพันธุ์วาณิช นายก อบจ.ลพบุรี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพตามจุดต่างๆ ที่ได้ร่วมกับพวกวางแผนลงมือสังหาร นายสุบรรณ ซึ่งมีทั้งสิ้น 11 จุด โดยจุดหลักๆ มีประมาณ 6 จุด
จุดแรกอยู่ฝั่งตรงข้ามห้างสรรพสินค้าพาต้า ปิ่นเกล้า ซึ่งเป็นจุดที่ นายสิระพงษ์ หรือ ต๋อง วังน้ำเขียว มือปืน โทรศัพท์หา นายเอกชัย ให้มาพบ และรับงานสังหาร นายสุบรรณ จากนั้นทีมสังหารทั้งหมดได้มารวมตัวกันภายในฟู๊ดแลนด์ ห้างสรรพสินค้าพาต้าปิ่นเกล้า เพื่อเข้าไปวางแผนในการลงมือก่อเหตุ จากนั้น นายเอกชัย ได้รับเงินจำนวน 2 หมื่นบาท จาก นายสิระพงษ์ ก่อนจะนำไปซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ เพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสารกัน
จุดที่ 2 อยู่บริเวณซอยเจริญกรุง 17 เป็นจุดที่ นายเอกชัย เดินทางไปเอารถ จยย.ฮอนด้าเวฟ สีขาว ไม่ติดแผนป้ายทะเบียน เพื่อใช้เป็นพาหนะในการก่อเหตุ โดยรถคันดังกล่าวเป็นของนายเอกชัย แต่เพื่อนได้ยืมไปใช้ และนำมาจอดคืนให้ที่บริเวณตลาดคลองถม ซอยเจริญกรุง 17 จุดที่ 3 อยู่บริเวณตรอกสาเก (หลังธนาคารออมสิน สาขาราชดำเนิน) เป็นจุดที่ นายเอกชัย นั่งรอมือปืน หลังจากที่มือปืนเดินเข้าไปบริเวณตรอกมะยม เพื่อรอก่อเหตุยิง นายสุบรรณ จุดที่ 4 อยู่ภายในตรอกมะยม ซึ่งเป็นจุดที่ นายเอกชัย ขับรถ จยย.ไปรอรับมือปืนหลังก่อเหตุเสร็จ และยังเป็นคนเดินไปดูผู้ตายหน้าเมดิคอลคลินิกเป็นระยะ ก่อนจะมาสตาร์ทเครื่องรอ จุดที่ 5 อยู่บริเวณซอยด้านข้างบริษัท กรุงไทยพานิชประกันภัย จำกัด ซึ่งเป็นซอยที่นายเอกชัยขับรถ จยย.พามือปืนหลบหนีหลังก่อเหตุเสร็จเรียบร้อยแล้ว
และจุดที่ 6 อยู่บริเวณหน้าโรงแรมมิโด้ ถนนประดิพัทธ์ เป็นจุดที่ นายเอกชัย เดินทางมารับเงินจาก นายสิระพงษ์ หลังจากลงมือก่อเหตุได้ 2 วัน ก่อนจะขึ้นรถแท็กซี่หลบหนีไป กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ โดยหลังจากเสร็จสิ้นการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสมุทรปราการ ได้มารอรับตัวนายเอกชัย ไปทำแผนประกอบในคดีลอบยิงนายประชา ประสพดี ต่อ ก่อนจะส่งตัวกลับคืนมาที่ สน.ชนะสงคราม เพื่อดำเนินคดีต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการทำแผนประกอบคำรับสารภาพการลอบสังหาร นายสุบรรณ จิระพันธุ์วาณิช มีประชาชนมารอดูจำนวนมาก และต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงวันเกิดเหตุ เนื่องจากมีพ่อค้าแม่ค้าบางคนเห็นเหตุการณ์และติดตามข่าวสารมาโดยตลอด ส่วน นายตระกูล หรือ กุ้ง ทองทิพย์ ผู้ต้องหา ที่เข้ามอบตัวเมื่อวานที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้คุมตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพด้วย.
วานนี้ (26 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.วรพงศ์ ชิวปรีชา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก สตช. พร้อมด้วย พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส.บช.น. ร่วมกันแถลงข่าวการเข้ามอบตัวของนายตระกูล หรือกุ้ง ทองทิพย์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 984/2554 ลงวันที่ 23 มิ.ย. ซึ่งเป็น 1 ในทีมสังหารนายสุบรรณ จิระพันธุ์วาณิช นายก อบจ.ลพบุรี พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง ที่ใช้ติดต่อในวันเกิดเหตุโดยนายตระกูลได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. เมื่อวานที่ผ่านมา
พล.ต.อ.วิเชียรเปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ก่อเหตุยิงนายสุบรรณ นายก อบจ.ลพบุรี โดยหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันสืบสวนจนทราบว่าคนร้ายมีด้วยกัน ทั้งหมด 5 คน ซึ่งเมื่อวานที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาได้แล้ว 1 ราย คือ นายเอกชัย หรืออั้ม ป้อมเผด็จ อายุ 32 ปี ซึ่งทำหน้าที่เป็นคนชี้เป้าและขับจักรยานยนต์พามือปืนหนี ต่อมานายตระกูลได้ติดต่อขอมอบตัวโดยให้การในเบื้องต้นว่าเป็นผู้ต้องหาที่ ปรากฏอยู่ในภาพวงจรปิด โดยวันเกิดเหตุได้นัดเจอกับนายวันชัยหรือก็อต ที่ร้านข้าวสารเซ็นเตอร์ เพื่อคอยดูรถยนต์ของผู้ตายว่าเดินทางมาถึงเมื่อใด ส่วนนายวันชัยเป็นคนเดินไปดูผู้ตายบริเวณคลินิก เมื่อผู้ตายออกมานายวันชัยก็ส่งสัญญาณว่า “ไก่ดูจิวเวลรีอยู่” เพื่อให้มือปืนลั่นไกสังหารทันที
จากการสอบสวนนายตระกูลให้การรับสารภาพว่า ปกติตนมีอาชีพปล่อยยาเสพติด รับจ้างทวงหนี้ ไม่ได้มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง กระทั่งได้รับการชักชวนจากนายก็อตเพื่อให้ทำงานดังกล่าว โดยทำหน้าที่ดูหมายเลขทะเบียนรถ แต่ไม่รู้ว่าเป็นการสังหารใคร คิดว่าแค่ให้มาดูทะเบียนรถยนต์เท่านั้น ได้รับค่าจ้างจำนวน 4 พันบาท ส่วนทะเบียนรถที่นายก็อตให้ตนดูนั้นคือหมายเลขทะเบียน นก 333 ลพบุรี และหมายเลขทะเบียน ก8 ลพบุรี เมื่อรถคนตายมาถึงตนก็บอกกับนายก็อต เมื่อเสร็จงานตนก็กลับไปที่บ้านพักหลังโรงเรียนพาณิชยการราชดำเนิน กระทั่งมาทราบข่าวจากโทรทัศน์ ส่วนนายเอกชัยที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้เป็นคนรู้จักแถวบ้านของตน
พล.ต.อ.ภาณุพงศ์กล่าวว่า ขณะนี้ยังเหลือผู้ต้องหาอีก 3 ราย คือ นายสิระพงศ์ อาจเดช หรือต๋อง วังน้ำเขียว มือปืน นายวันชัย หรือก็อต โพธิปิติ ชี้เป้า และนายอัครวัฒน์ เพชรจันทา คนรับงาน ตนอยากฝากไปถึงทั้ง 3 คนว่าให้เข้ามอบตัว เพราะถ้าหากกลับไปหาผู้จ้างวานอาจจะโดนฆ่าทิ้งได้ แต่ถ้าหากเข้ามอบตัวทางตำรวจก็จะให้ความเป็นธรรมดำเนินคดีไปตามกฎหมาย หลังจากนี้จะนำตัวนายตระกูลส่งพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม ดำเนินคดีต่อไป
ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น.ที่ สน.ชนะสงคราม พ.ต.ท.ณฐกร คุ้มทรัพย์ รองผกก.สส.สน.ชนะสงคราม ควบคุมตัว นายเอกชัย ป้อมเผด็จ หรือ อั้ม หนึ่งในผู้ต้องหาร่วมทีมสังหารนายสุบรรณ จิระพันธุ์วาณิช นายก อบจ.ลพบุรี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพตามจุดต่างๆ ที่ได้ร่วมกับพวกวางแผนลงมือสังหาร นายสุบรรณ ซึ่งมีทั้งสิ้น 11 จุด โดยจุดหลักๆ มีประมาณ 6 จุด
จุดแรกอยู่ฝั่งตรงข้ามห้างสรรพสินค้าพาต้า ปิ่นเกล้า ซึ่งเป็นจุดที่ นายสิระพงษ์ หรือ ต๋อง วังน้ำเขียว มือปืน โทรศัพท์หา นายเอกชัย ให้มาพบ และรับงานสังหาร นายสุบรรณ จากนั้นทีมสังหารทั้งหมดได้มารวมตัวกันภายในฟู๊ดแลนด์ ห้างสรรพสินค้าพาต้าปิ่นเกล้า เพื่อเข้าไปวางแผนในการลงมือก่อเหตุ จากนั้น นายเอกชัย ได้รับเงินจำนวน 2 หมื่นบาท จาก นายสิระพงษ์ ก่อนจะนำไปซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ เพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสารกัน
จุดที่ 2 อยู่บริเวณซอยเจริญกรุง 17 เป็นจุดที่ นายเอกชัย เดินทางไปเอารถ จยย.ฮอนด้าเวฟ สีขาว ไม่ติดแผนป้ายทะเบียน เพื่อใช้เป็นพาหนะในการก่อเหตุ โดยรถคันดังกล่าวเป็นของนายเอกชัย แต่เพื่อนได้ยืมไปใช้ และนำมาจอดคืนให้ที่บริเวณตลาดคลองถม ซอยเจริญกรุง 17 จุดที่ 3 อยู่บริเวณตรอกสาเก (หลังธนาคารออมสิน สาขาราชดำเนิน) เป็นจุดที่ นายเอกชัย นั่งรอมือปืน หลังจากที่มือปืนเดินเข้าไปบริเวณตรอกมะยม เพื่อรอก่อเหตุยิง นายสุบรรณ จุดที่ 4 อยู่ภายในตรอกมะยม ซึ่งเป็นจุดที่ นายเอกชัย ขับรถ จยย.ไปรอรับมือปืนหลังก่อเหตุเสร็จ และยังเป็นคนเดินไปดูผู้ตายหน้าเมดิคอลคลินิกเป็นระยะ ก่อนจะมาสตาร์ทเครื่องรอ จุดที่ 5 อยู่บริเวณซอยด้านข้างบริษัท กรุงไทยพานิชประกันภัย จำกัด ซึ่งเป็นซอยที่นายเอกชัยขับรถ จยย.พามือปืนหลบหนีหลังก่อเหตุเสร็จเรียบร้อยแล้ว
และจุดที่ 6 อยู่บริเวณหน้าโรงแรมมิโด้ ถนนประดิพัทธ์ เป็นจุดที่ นายเอกชัย เดินทางมารับเงินจาก นายสิระพงษ์ หลังจากลงมือก่อเหตุได้ 2 วัน ก่อนจะขึ้นรถแท็กซี่หลบหนีไป กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ โดยหลังจากเสร็จสิ้นการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสมุทรปราการ ได้มารอรับตัวนายเอกชัย ไปทำแผนประกอบในคดีลอบยิงนายประชา ประสพดี ต่อ ก่อนจะส่งตัวกลับคืนมาที่ สน.ชนะสงคราม เพื่อดำเนินคดีต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการทำแผนประกอบคำรับสารภาพการลอบสังหาร นายสุบรรณ จิระพันธุ์วาณิช มีประชาชนมารอดูจำนวนมาก และต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงวันเกิดเหตุ เนื่องจากมีพ่อค้าแม่ค้าบางคนเห็นเหตุการณ์และติดตามข่าวสารมาโดยตลอด ส่วน นายตระกูล หรือ กุ้ง ทองทิพย์ ผู้ต้องหา ที่เข้ามอบตัวเมื่อวานที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้คุมตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพด้วย.
