ASTVผู้จัดการรายวัน-ศาลออกหมายจับ 3 ผู้ต้องหาทีมฆ่า"สุบรรณ หรือ นายกเจี๊ยบ" นายก อบจ.ลพบุรี "ภาณุพงศ์ "เผย 3 คนคือ ผู้ชี้เป้า-ดูเป้าหมาย-มือปืน พบ 1 ใน 3 คล้าย"นายสิระพงศ์ หรือสมบูรณ์ อาจเดช" ที่ถูกออกหมายจับคดียิง"ประชา ประสพดี" พบคนร้ายแบ่งหน้าที่รับผิดชอบชัดเจน เร่งขยายผล ผู้รับงาน และผู้จ้างวาน เชื่อกลุ่มคนร้ายน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องคดียิง"ประชา"
วานนี้ (23 มิ.ย.) เวลา 15.30 น. ที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนนครบาล (บก.สส.บช.น.) พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วยพล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส.บช.น. และ พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา รอง ผบก.สส.บช.น. ได้ร่วมกันแถลงความคืบหน้าคดีคนร้ายประกบยิงนายสุบรรณ จิระพันธุ์วาณิช นายก อบจ.ลพบุรี เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ที่ผ่านมา
พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันเกิดเหตุถึงวันนี้ได้ผ่านมา 7 วันแล้ว ซึ่งหลังจากเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.บช.น. ภูธรภาค 1 บช.ก. กองปราบปราม และกองพิสูจน์หลักฐาน ได้ลงพื้นที่เก็บร่องรอยพยานหลักฐานและพยานแวดล้อมที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดีได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลอาญาออกอนุมัติหมายจับเป็นที่เรียบร้อยแล้วทั้งหมด 3 ราย
โดยรายแรกคือ นายวันชัย หรือกอล์ฟ โพธิปิติ เป็น 1 ในกลุ่มคนร้าย ที่มีหน้าที่คอยชี้เป้าและส่งสัญญาณให้มือปืนลงมือก่อเหตุ ซึ่งในวันเกิดเหตุนายวันชัย ได้มานั่งดื่มเบียร์ในร้านใกล้เคียงที่เกิดเหตุล่วงหน้าก่อน 2 ชั่วโมง ส่วนรายที่สองเป็นการออกหมายจับตามภาพวงจรเปิด ทราบเพียงชื่อเล่นว่า “เอก” มีหน้าที่ดูเป้าหมาย รูปพรรณสัณฐานคนร้ายเป็นชายผิวขาว อายุ 25-30 ปี ในวันเกิดเหตุสวมเชิ๊ตแขนยาวสีขาวพับแขน สวมกางเกงยีนส์ รองเท้าแตะ และได้นั่งดื่มเบียร์อยู่กับนายวันชัย
ส่วนรายที่สาม เป็นการออกหมายตามภาพวงจรปิด ซึ่งมีหน้าที่เป็นมือปืนประกบยิงนายสุบรรณ ซึ่งจากภาพวงจรปิดเป็นชายวัยกลางคนสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีน้ำตาล กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบสีขาว กำลังเดินขึ้นแท็กซี่สีส้ม บริเวณสี่แยกอนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย หลังจากก่อเหตุยิงเรียบร้อยแล้วขึ้นจักรยานยนต์หลบหนี แล้วลงกลางทางขึ้นแท็กซี่หลบหนีอีกทอดหนึ่ง เพื่อให้อยากต่อการจับกุม
อย่างไรก็ตาม จากการสอบประจักษ์พยานทั้งหมดทราบว่า บุคคลดังกล่าวมีรูปพรรณสันฐานและหน้าตาคล้ายนายสิระพงศ์ หรือสมบูรณ์ อาจเดช ที่ทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ออกหมายในคดียิง นายประชา ประสพดี ผู้สมัคร ส.ส. เขต 7 จ.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย และประกอบภาพสเก็ตช์ที่ทางตำรวจได้นำพยานไปสเก๊ตช์นั้นมีความละไมคล้ายนายสิระพงศ์ มากทางเราจึงแน่ใจว่านายสิระพงศ์มีส่วนเกี่ยวทั้งคดียิงนายประชา และยิงนายสุบรรณ
**มั่นใจน่าจะได้ตัวในเร็วๆนี้**
รอง ผบ.ตร. เปิดเผยอีกว่า คดีดังกล่าวทางเราได้ออกติดตามสืบสวนหาข่าวมาเป็นอย่างดี ซึ่งคาดว่าน่าจะได้ตัวในเร็วๆวันนี้ ถ้าใครเกี่ยวข้องกับคดีหรือรู้ว่าตัวเองถูกออกหมายจับให้รีบเข้ามามอบตัวโดยด่วน เพื่อความปลอดภัยของชีวิตเพราะอย่างไงก็หนีเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่รอดอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามคดีที่เราทำมูลเหตุทั้งหมดต้องมาจากพยานหลักฐานพยานแวดล้อมที่เกิดเหตุและทำงานอย่างรอบคอบเป็นอย่างยิ่ง เราไม่ได้ทำงานภายใต้คำสั่งผู้ใด เพราะเราเน้นพยานหลักฐานเป็นหลักในการติดตามจับกุมคนร้าย ซึ่งในคดีนี้เราได้เก็บภาพวงจรปิดมาทั้งหมด 163 ตัว ไม่ว่าจะเป็นกล้องวงใน วงกลาง และวงนอกโดยรอบที่เกิดเหตุ ซึ่งภาพที่บุคคลคล้ายนายสิระพงศ์กำลังเดินขึ้นแท็กซี่นั้น มีพยานในที่เกิดเหตุพบบุคคลทั้งหมดเป็นคนลงมือ และมาเปรีบยเทียบกับภาพสเก๊ตซ์ก็ตรงตามประจักษ์พยาน
“งานนี้กลุ่มคนร้ายเตรียมมาดี แบ่งหน้าที่รับผิดชอบชัดเจน โดยต่อจากนี้ถ้าเราจับได้ก็ต้องขยายผลไปยังกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องอีก ไม่ว่าจะเป็นผู้รับงาน และผู้จ้างวาน ส่วนกลุ่มคนร้ายดังกล่าวน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องคดียิงนายประชา ประสพดี ด้วย เพราะกลุ่มคนร้ายดังกล่าวก็จะพัวพันเกี่ยวกับสิ่งผิดกฎหมาย ไม่ว่า จะเป็นรับงานทวงหนี้ ทำตู้ม้า ในเขตภูธรภาค 1 โดยจะมีแหล่งมั่วสุมอยู่ในเขตภาคกลาง ภาคอีสาน และในกทม.” รอง ผบ.ตร. กล่าวทิ้งท้าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในคดีดังกล่าวยังเหลืออีก 1 คน ที่ยังไม่ได้ออกหมายจับทราบเพียงชื่อเล่นคือนาย “มิน” มีหน้าที่ขับขี่รถจักกรยานยนต์รับส่งมือปืนมาที่เกิดเหตุและพาหลบหนี
**“วิเชียร” ยันคดี “ประชา-สุบรรณ” ไม่มีตอ**
พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดียิง นายประชา ประสพดี ผู้สมัคร ส.ส.เขต 7 จังหวัดสมุทรปราการ และคดียิง นายสุบรรณ จิระพันธุ์วาณิช อบจ.ลพบุรี ว่า คดียิง นายประชา ได้ออกหมายจับไปแล้ว 1 ราย แต่อาจหาตัวยาก เพราะหลบหนีไปก่อน ส่วนคดียิง นายสุบรรณ นั้น ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล รายงานว่า มีความคืบหน้าไปมาก ออกหมายจับแล้ว 3 คน ส่วนผู้บงการหรือจ้างวานทั้งสองคดียังไม่ยืนยันว่าจะได้ตัวหรือไม่ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็พยายามอย่างเต็มที่ในการหาพยานหลักฐานต่างๆ ซึ่งต้องใช้เวลายืนยันว่าคดีนี้ไม่มีตอ ถ้ามีตอก็ฟันตอ แต่เลี่ยงไม่ตอบคนมีสีเกี่ยวข้องหรือไม่
วานนี้ (23 มิ.ย.) เวลา 15.30 น. ที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนนครบาล (บก.สส.บช.น.) พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วยพล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส.บช.น. และ พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา รอง ผบก.สส.บช.น. ได้ร่วมกันแถลงความคืบหน้าคดีคนร้ายประกบยิงนายสุบรรณ จิระพันธุ์วาณิช นายก อบจ.ลพบุรี เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ที่ผ่านมา
พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันเกิดเหตุถึงวันนี้ได้ผ่านมา 7 วันแล้ว ซึ่งหลังจากเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.บช.น. ภูธรภาค 1 บช.ก. กองปราบปราม และกองพิสูจน์หลักฐาน ได้ลงพื้นที่เก็บร่องรอยพยานหลักฐานและพยานแวดล้อมที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดีได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลอาญาออกอนุมัติหมายจับเป็นที่เรียบร้อยแล้วทั้งหมด 3 ราย
โดยรายแรกคือ นายวันชัย หรือกอล์ฟ โพธิปิติ เป็น 1 ในกลุ่มคนร้าย ที่มีหน้าที่คอยชี้เป้าและส่งสัญญาณให้มือปืนลงมือก่อเหตุ ซึ่งในวันเกิดเหตุนายวันชัย ได้มานั่งดื่มเบียร์ในร้านใกล้เคียงที่เกิดเหตุล่วงหน้าก่อน 2 ชั่วโมง ส่วนรายที่สองเป็นการออกหมายจับตามภาพวงจรเปิด ทราบเพียงชื่อเล่นว่า “เอก” มีหน้าที่ดูเป้าหมาย รูปพรรณสัณฐานคนร้ายเป็นชายผิวขาว อายุ 25-30 ปี ในวันเกิดเหตุสวมเชิ๊ตแขนยาวสีขาวพับแขน สวมกางเกงยีนส์ รองเท้าแตะ และได้นั่งดื่มเบียร์อยู่กับนายวันชัย
ส่วนรายที่สาม เป็นการออกหมายตามภาพวงจรปิด ซึ่งมีหน้าที่เป็นมือปืนประกบยิงนายสุบรรณ ซึ่งจากภาพวงจรปิดเป็นชายวัยกลางคนสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีน้ำตาล กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบสีขาว กำลังเดินขึ้นแท็กซี่สีส้ม บริเวณสี่แยกอนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย หลังจากก่อเหตุยิงเรียบร้อยแล้วขึ้นจักรยานยนต์หลบหนี แล้วลงกลางทางขึ้นแท็กซี่หลบหนีอีกทอดหนึ่ง เพื่อให้อยากต่อการจับกุม
อย่างไรก็ตาม จากการสอบประจักษ์พยานทั้งหมดทราบว่า บุคคลดังกล่าวมีรูปพรรณสันฐานและหน้าตาคล้ายนายสิระพงศ์ หรือสมบูรณ์ อาจเดช ที่ทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ออกหมายในคดียิง นายประชา ประสพดี ผู้สมัคร ส.ส. เขต 7 จ.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย และประกอบภาพสเก็ตช์ที่ทางตำรวจได้นำพยานไปสเก๊ตช์นั้นมีความละไมคล้ายนายสิระพงศ์ มากทางเราจึงแน่ใจว่านายสิระพงศ์มีส่วนเกี่ยวทั้งคดียิงนายประชา และยิงนายสุบรรณ
**มั่นใจน่าจะได้ตัวในเร็วๆนี้**
รอง ผบ.ตร. เปิดเผยอีกว่า คดีดังกล่าวทางเราได้ออกติดตามสืบสวนหาข่าวมาเป็นอย่างดี ซึ่งคาดว่าน่าจะได้ตัวในเร็วๆวันนี้ ถ้าใครเกี่ยวข้องกับคดีหรือรู้ว่าตัวเองถูกออกหมายจับให้รีบเข้ามามอบตัวโดยด่วน เพื่อความปลอดภัยของชีวิตเพราะอย่างไงก็หนีเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่รอดอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามคดีที่เราทำมูลเหตุทั้งหมดต้องมาจากพยานหลักฐานพยานแวดล้อมที่เกิดเหตุและทำงานอย่างรอบคอบเป็นอย่างยิ่ง เราไม่ได้ทำงานภายใต้คำสั่งผู้ใด เพราะเราเน้นพยานหลักฐานเป็นหลักในการติดตามจับกุมคนร้าย ซึ่งในคดีนี้เราได้เก็บภาพวงจรปิดมาทั้งหมด 163 ตัว ไม่ว่าจะเป็นกล้องวงใน วงกลาง และวงนอกโดยรอบที่เกิดเหตุ ซึ่งภาพที่บุคคลคล้ายนายสิระพงศ์กำลังเดินขึ้นแท็กซี่นั้น มีพยานในที่เกิดเหตุพบบุคคลทั้งหมดเป็นคนลงมือ และมาเปรีบยเทียบกับภาพสเก๊ตซ์ก็ตรงตามประจักษ์พยาน
“งานนี้กลุ่มคนร้ายเตรียมมาดี แบ่งหน้าที่รับผิดชอบชัดเจน โดยต่อจากนี้ถ้าเราจับได้ก็ต้องขยายผลไปยังกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องอีก ไม่ว่าจะเป็นผู้รับงาน และผู้จ้างวาน ส่วนกลุ่มคนร้ายดังกล่าวน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องคดียิงนายประชา ประสพดี ด้วย เพราะกลุ่มคนร้ายดังกล่าวก็จะพัวพันเกี่ยวกับสิ่งผิดกฎหมาย ไม่ว่า จะเป็นรับงานทวงหนี้ ทำตู้ม้า ในเขตภูธรภาค 1 โดยจะมีแหล่งมั่วสุมอยู่ในเขตภาคกลาง ภาคอีสาน และในกทม.” รอง ผบ.ตร. กล่าวทิ้งท้าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในคดีดังกล่าวยังเหลืออีก 1 คน ที่ยังไม่ได้ออกหมายจับทราบเพียงชื่อเล่นคือนาย “มิน” มีหน้าที่ขับขี่รถจักกรยานยนต์รับส่งมือปืนมาที่เกิดเหตุและพาหลบหนี
**“วิเชียร” ยันคดี “ประชา-สุบรรณ” ไม่มีตอ**
พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดียิง นายประชา ประสพดี ผู้สมัคร ส.ส.เขต 7 จังหวัดสมุทรปราการ และคดียิง นายสุบรรณ จิระพันธุ์วาณิช อบจ.ลพบุรี ว่า คดียิง นายประชา ได้ออกหมายจับไปแล้ว 1 ราย แต่อาจหาตัวยาก เพราะหลบหนีไปก่อน ส่วนคดียิง นายสุบรรณ นั้น ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล รายงานว่า มีความคืบหน้าไปมาก ออกหมายจับแล้ว 3 คน ส่วนผู้บงการหรือจ้างวานทั้งสองคดียังไม่ยืนยันว่าจะได้ตัวหรือไม่ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็พยายามอย่างเต็มที่ในการหาพยานหลักฐานต่างๆ ซึ่งต้องใช้เวลายืนยันว่าคดีนี้ไม่มีตอ ถ้ามีตอก็ฟันตอ แต่เลี่ยงไม่ตอบคนมีสีเกี่ยวข้องหรือไม่