ศรส.ลต.ตร.ชี้ โค้งสุดท้ายเลือกตั้งเข้มข้นและรุนแรงมากขึ้น สั่งจับตาดูแลใกล้ชิด เขต 7 สมุทรปราการ ส่งส่วนกลางลงพื้นที่พูดคุยกับผู้สมัคร-หัวคะแนน เพื่อลดความรุนแรง ขณะที่การทำลายป้ายหาเสียงเริ่มน้อยลง ส่วนผลสอบโพลสันติบาลระบุไม่มีการทำโพล แค่เป็นการตรวจสอบความเคลื่อนไหวในพื้นที่ที่มีการแข่งขันสูง
วันนี้ (16 มิ.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ที่ปรึกษา (สบ10) แถลงข่าวภายหลังการประชุม ศรส.ลต.ตร.ว่า การประชุมในวันนี้ เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งมีการแข็งขันเข้มข้นมากขึ้น มีการงัดกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อให้เลือกพรรคของตนเอง ซึ่ง 77 จังหวัด แบ่งเป็นพื้นที่สีขาวไม่มีเหตุรุนแรง 27 จังหวัด สีเหลือง 21 จังหวัด สีส้ม 24 จังหวัด และสีแดง 5 จังหวัด และสีแดงเข้มเฝ้าระวังพิเศษ 1 จังหวัด คือ สมุทรปราการเขต 7 ที่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดที่สุด และวันนี้ ทาง ภ.1 ได้รายงานว่า มีการประสานผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ และผู้บังคับการจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อลงพื้นที่ดูปัจจัยที่มีผลต่อความรุนแรงอย่างใกล้ชิด ก่อนจะประเมินพื้นที่ว่าจะต้องเฝ้าระวังสูงสุดอีกหรือไม่ นอกจากนั้นยังให้ลงไปพูดคุยทำความเข้าใจกับผู้สมัครเขต 7 จ.สมุทรปราการทุกคนเพื่อลดความรุนแรงรวมทั้งพูดคุยกับหัวคะแนนและผู้สนับสนุนด้วย
“ยืนยันว่า การกำหนดเขตพื้นที่เฝ้าระวังนั้นไม่ได้เป็นการประจาน เพราะถ้าไม่ทำอย่างนี้ ไม่ใช้มาตรการกดดันมือปืน ผู้แนวโน้มกระทำความผิดหรือใช้ความรุนแรง และผู้ที่มีแนวโน้มทำผิดเลือกตั้งใช้วิธีนอกระบบเพื่อเอาชนะเลือกตั้งก็ไม่สามารถที่จะควบคุมสถานการณ์ได้ ซึ่งหากสามารถลดปัจจัยที่จะก่อให้เกิดความรุนแรงก็สามารถลดระดับการเฝ้าระวังได้ ส่วนคดียิงนายประชา ประสพดี ผู้สมัคร ส.ส.เขต 7 สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ในทางสืบสวนพอรู้ตัวกลุ่มผู้ทำผิด แต่ในทางสอบสวนยังไม่มีพยานหลังฐานเพียงพอที่จะออกหมายจับ ซึ่งทาง ผบ.ตร.ได้ให้ พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร.และ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองผบ.ตร.ลงไปดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อคลี่คลายคดีให้ได้” พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าว
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวต่อว่า สำหรับการทำลายป้ายหาเสียงเริ่มลดน้อยลงเรื่อยๆ อย่างวันนี้ก็น้อยที่สุด ตั้งแต่เปิดศูนย์ ศรส.ลต.ตร.มา รวมป้ายที่ถูกทำลายทั้งหมด 1,726 ป้าย ภ.1 398 ป้าย ภ.5 318 ป้าย ภ.4 218 ป้าย ซึ่งได้ให้ประสานกับพรรคการเมือง หรือผู้สมัคร ส.ส.ให้ดำเนินคดีกับผู้ที่ทำลายป้าย ตำรวจยังเป็นห่วงไม่อยากให้ป้ายที่ถูกทำลายจนพัง และป้ายที่ถูกขีดเขียนจนดูไม่ดี อยู่ในลักษณะเดิมเพราะจะเข้าใจไปได้ว่าป้ายถูกทำลายทุกวัน ก็ประสานไปแต่ละพรรค ว่า ป้ายที่ถูกทำลายจะทำอย่างไร จะเปลี่ยนป้าย หรือนำไปเก็บได้หรือไม่ หรือถ้ายินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บก็จะดำเนินการไปเก็บไว้ที่สถานีตำรวจ สำหรับการขอกำลังไปอารักขาความปลอดภัยผู้สมัคร ส.ส.โค้งสุดท้ายเริ่มเพิ่มมากขึ้นในทุกภาค ตัวเลขอยู่ที่ 352 ท่าน ส่งกำลังตำรวจไปดูแล 2 คนต่อหนึ่งท่านแต่พื้นที่ไหนมีความเสี่ยงรุนแรงมากก็เพิ่มจำนวนไป ส่วนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ใช้กำลังตำรวจ 10 นายต่อผู้สมัคร 1 คน และหากใครต้องการตำรวจไปดูแลก็ยังสามารถขอเข้ามาได้
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวต่อว่า สำหรับคดีที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งทั้งหมด 72 คดี เป็นคดีโดยตรง 9 คดี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องการซื้อสิทธิขายเสียง การแจ้งความเรื่องการเอาธนบัตรใบละร้อยแนบไปกับบัตรแนะนำตัวหรือใบปลิว ซึ่งผู้สมัคร ส.ส.ก็มาแจ้งความว่าโดนกลั่นแกล้ง ให้ตำรวจดำเนินการหาตัวผู้กระทำการดังกล่าว นอกจากนั้นยังมีประชาชนโทร.มาแจ้งผ่านหมายเลข 1599 ว่า มีการจ้างให้ประชาชนไปฟังการปราศรัยหาเสียง และปราศรัยเสร็จก็ให้รางวัลด้วย ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ สำหรับการขนส่งบัตรเลือกตั้งไปยัง กกต.พื้นที่เพื่อเลือกตั้งล้วงหน้านั้นเป็นไปด้วยความเรียบร้อยตำรวจพร้อมดูแลทุกขั้นตอน ทั้งการขนส่งและการส่งกลับมายังเขตเพื่อนับคะแนนพร้อมกันในวันเลือกตั้งจริง
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวถึงโพลสันติบาล ว่า พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง จเรตำรวจแห่งชาติ ได้ตรวจสอบเสร็จสิ้นและรายงานให้ทาง พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.ทราบแล้วสรุปได้ว่าสันติบาลไม่มีการทำโพล ยังเป็นการทำงานที่อยู่ในกรอบตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ไป การทำงานของสันติบาลนั้นเป็นการดำเนินการตรวจสอบความเคลื่อนไหวในพื้นที่ที่มีการแข่งขันกันสูง เพื่อจะดูว่าผู้สมัครคนใดมีแนวโน้มที่จะต้องจัดกำลังไปดูแลมากหรือน้อยอย่างไร ส่วนกรณีที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าวนั้นจากการสอบปากคำและขอความร่วมมือสื่อมวลชนหลายๆท่านสรุปได้ว่าสื่อมวลชนได้ข้อมูลมาจากหลายๆ ส่วนไม่เฉพาะแต่จากสันติบาล แล้วเอาข้อมูลมาวิเคราะห์ ไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเป็นการทำโพลของสันติบาล อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.วิเชียร ได้กำชับเรื่องการวางตัวเป็นกลางของสันติบาลไม่ให้มีการดำเนินการที่สามารถวิเคราะห์ไปได้ว่าใครจะได้รับการเลือกตั้ง
