xs
xsm
sm
md
lg

เลือกตั้งระอุ! หัวคะแนนเพื่อไทยถูกเป่าดับ “วิเชียร” สั่งคุมเข้มป้องกัน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.
ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้ง เพิ่มความเข้มข้นในการป้องกันสถานการณ์รุนแรง หลังหัวคะแนนพรรคเพื่อไทย เขต 1 อยุธยา ถูกยิงเสียชีวิต โดยมือยิงติดต่อขอมอบตัวต่อผู้ว่าฯ อยุธยาแล้ว ขณะที่คดียิงนายประชา และ อบจ.ลพบุรี มีความคืบหน้าไปมาก ด้านโฆษก ตร.เผย มีผู้สมัคร ส.ส.ร้องขอความคุ้มครองแล้ว 371 ราย จาก 12 พรรคการเมือง

วันนี้ (19 มิ.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ที่ปรึกษา (สบ 10) พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก ตร.แถลงผลการประชุมศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า ขณะนี้การหาเสียงมีความเข้มข้นมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย กองบัญชาการต่างๆ เพิ่มความเข้มข้นในการป้องกันและแก้ไขสถานการณ์รุนแรงต่างๆ

ส่วนกรณี นายรังสรรค์ อินทรสุทธิ์ อายุ 58 ปี หัวคะแนนผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เขต 1 พรรคเพื่อไทย ถูกยิงเสียชีวิต พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า ได้สั่งการให้เร่งดำเนินการจับกุมผู้ก่อเหตุ คือ นายสนองพจน์ อยู่เล็ก อายุ 57 ปี รองประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านใหม่ ภายใน 24 ชั่วโมง โดยล่าสุด นายสนองพจน์ได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวต่อผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแล้ววันนี้ในเวลา 14.00 น. พร้อมได้สั่งการให้เพิ่มความเข้มข้นในการดูแลความเรียบร้อย และดูแลเรื่องการแจ้งความดำเนินคดีของฝ่ายต่างๆ ซึ่งมีมากขึ้น โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะรวบรวมเรื่องร้องเรียน เพื่อส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ทราบ เพื่อ กกต.จะได้พิจารณาความผิดต่อไป

พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวอีกว่า มาตรการหนึ่งที่ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำชับดูแล คือ เรื่องการดูแลบัตรเลือกตั้งก่อนนับคะแนน โดยบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 26 มิถุนายนนี้ เมื่อปิดหีบเลือกตั้งแล้ว จะนำบัตรไปเก็บไว้ที่สำนักงานเขต ส่วนต่างจังหวัดบางแห่งจะเก็บไว้ที่สถานีตำรวจ ทั้งนี้ ในส่วนที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ประสานขอเก็บบัตรเลือกตั้งได้ที่สถานีตำรวจนั้น ทางตำรวจขอให้ กกต.ตั้งคณะกรรมการ 3 ฝ่าย คือ กกต. ตำรวจในพื้นที่ และฝ่ายปกครอง เพื่อรับผิดชอบสถานที่เก็บหีบบัตรเลือกตั้งร่วมกัน

ส่วนความคืบหน้าคดียิงนายประชา ประสพดี ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หัวหน้าชุดสืบสวน เร่งรัดคดีนี้แล้ว สำหรับคดียิงนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลพบุรี ก็มีความคืบหน้าไปพอสมควร สำหรับสาเหตุของการก่อเหตุนั้น แม้จะพุ่งเป้าไปที่ประเด็นการเมือง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นอื่นๆ ทิ้ง

ด้าน พล.ต.ต.ประวุฒิกล่าวว่า ขณะนี้มีผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรร้องขอความคุ้มครองแล้ว 371 ราย จาก 12 พรรคการเมือง ซึ่งได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูแล 776 นาย ส่วนการทำลายป้ายหาเสียง พบว่า ในรอบวันที่ผ่านมา มีการทำลายป้ายหาเสียงน้อยที่สุด โดยเกิดเหตุ 23 ป้าย โดยรวมแล้วที่ผ่านมามีการทำลายป้ายหาเสียงรวมทั้งสิ้น 1,884 ป้าย รวม 58 คดี นอกจากนี้ มีคดีอาญาเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 26 คดี และเป็นการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง 12 คดี นอกจากนี้ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า สำหรับพื้นที่เฝ้าระวังทั่วประเทศนั้น พบว่า มีการลดจำนวนลงจาก 67 เขต เหลือ 63 เขต ซึ่งปัจจับที่ทำให้สามารถลดพื้นที่เฝ้าระวังลงนั้น เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีกระบวนการหาข่าว และกระบวนการตัดความรุนแรง โดยมีการเจรจาระหว่างฝ่ายที่ขัดแย้งกันมากขึ้น

พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ กล่าวว่า ได้กำชับให้ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้งระดับภาคและระดับจังหวัด ควบคุมสถานการณ์รุนแรงการเลือกตั้ง ซึ่งหากมีความเคลื่อนไหวใดที่อาจจะนำไปสู่ความขัดแย้ง ก็ต้องลงไปดำเนินการ และหากเกิดเหตุอุกฉกรรจ์ ก็ต้องจับกุมผู้กระทำผิดให้ได้โดยเร็วที่สุด ส่วนการดูแลการขนส่งบัตรเลือกตั้งในวันพรุ่งนี้ จะมีการขนบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าทั้งวัน โดยส่วนใหญ่จะขนส่งไปยังปริมณฑลและทุกเขตในกรุงเทพมหานคร โดยมีศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้ง กองบัญชาการตำรวจนครบาล คอยดูแลความปลอดภัยในการขนส่งบัตรเลือกตั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จากนั้นในส่วนปริมณฑลจะมีตำรวจพื้นที่คอยดูแลต่อ ส่วนการขนส่งบัตรเลือกตั้งจริงในวันที่ 3 กรกฎาคมนั้น จะมีการขนส่งแล้วเสร็จทุกเขตภายในสัปดาห์นี้

พล.ต.อ.พงศพัศยังกล่าวถึงการทำลายป้ายหาเสียงว่า ล่าสุดมีการจับกุมผู้ก่อเหตุเผาทำลายป้ายได้ 2 ราย ที่อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี และที่อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย ซึ่งการดำเนินคดีต่อผู้เผาป้ายหาเสียงนั้น นอกจากจะต้องถูกดำเนินคดีทั้งข้อหาทำให้เสียทรัพย์แล้วยังมีการแจ้งข้อหาวางเพลิงให้เสียทรัพย์ ซึ่งมีโทษหนักด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น