ศูนย์ข่าวศรีราชา - เจาะสนามเลือกตั้งเมืองระยอง วัดพลัง 2 ขั้วการเมืองใหญ่ ระหว่าง ประชาธิปัตย์ ปะทะ เพื่อไทย ใครจะสามารถครองใจคนระยองได้ในภาวะที่เต็มไปด้วยมลพิษ
สนามเลือกตั้งจังหวัดระยองเป็นอีก 1 จังหวัด ที่น่าจับตามองในพื้นที่ภาคตะวันออก และเมืองที่กำลังมีปัญหาเรื่องของมลภาวะที่กำลังร้อนระอุ อีกทั้งในตัวของผู้สมัคร และพรรคการเมืองที่ลงแข่งขันในครั้ง นี้ โดยจังหวัดระยองแบ่งออกเป็น 4 เขต
เริ่มจากเขต 1 โดยมีผู้ลงสนาม เบอร์ 1 คือ นายเพชร เอกกำลังกุล พรรคเพื่อไทย นายชวการ อิฐศรี จากพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน เบอร์ 2 นายสาธิต ปิตุเตชะ พรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 10 นายอภิชา พร้อมเจริญ พรรคไทยเป็นไทย เบอร์ 15 และนายไชยเชษฐ รุ่งหิรัญวัฒน์ พรรคความหวังใหม่ เบอร์ 34
ในเขต 1 คนระยองให้ความสนใจผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยและ พรรคประชาธิปัตย์ ที่คาดว่าจะเป็นคู่แข่งที่น่าจับตามอง ส่วนผู้สมัครคนอื่นยังไม่เห็นป้ายหาเสียงแม้แต่แผ่นเดียว
นายสาธิต ปิตุเตชะ เป็น อดีต ส.ส. 2 สมัย เป็นกรรมการบริหารพรรค ปชป. เป็นผู้ดูแลผู้สมัคร ส.ส.ทั้งภาคกลางและภาคตะวันออก และเป็นประธานคณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร จบการศึกษาปริญญาโทรัฐประศาสนศาสตร์ นโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยบูรพา เป็นคนหนุ่มไฟแรงในตระกูล “ปิตุเตชะ” มีบิดาเป็นอดีตกำนัน ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง คนดังในตระกูล “ปิตุเตชะ” เช่น นายธารา ปิตุเตชะ อดีต ส.ส.พรรคปชป.ครั้งนี้ก็ลงสมัครเขต 3 ในนามพรรค ปชป.อีก 1 คน และที่สำคัญเป็นน้องชาย นายปิยะ ปิตุเตชะ นายก องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ระยอง ซึ่งมีฐานคะแนนเสียงที่หนาแน่น ประชาชนในเขต อ.เมืองระยอง ก็ยังรักพรรค ปชป.อย่างแนบแน่น ประกอบกับนายสาธิต ทำการบ้านสม่ำเสมอ หลังว่างเว้นจากการประชุมสภาผู้แทนราษฎรก็จะลงพื้นที่ตลอด
ส่วนนายเพชร เอกกำลังกุล คู่แข่งที่น่าจับตาเพราะเป็นผู้หนึ่งที่พรรคเพื่อไทยหมายมั่นที่จะยึดเก้าอี้คืน จากนายสาธิต ครั้งนี้ให้ได้ เรียกว่าเป็นพรรคคู่กัด นายเพชรไม่เคยลงสมัคร ส.ส.มาก่อน ครั้งนี้ เป็นครั้งแรกแต่อดีตเป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ระยอง 3 สมัย และอดีตรองนายก อบจ.จบการศึกษา ม.6 ประสบความสำเร็จการบริหารด้านธุรกิจบ้านและที่ดินจัดสรร อาคารพาณิชย์ การตัดสินใจลงเล่นการเมืองระดับประเทศครั้งนี้ ด้วยแรงสนับสนุนจากกลุ่มเสื้อแดง กลุ่มพ่อค้า นักธุรกิจ รวมทั้งกลุ่มนักการเมืองที่เป็นฝ่ายตรงข้ามนาย สาธิต ที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง
การลงต่อสู้กับ นายสาธิต อดีต ส.ส. ของนายเพชร คนระยองถึงกับร้องอุทาน ว่าจะสู้บารมี “สาธิต”ไหวหรือ แต่คนอย่าง “เพชร” นามสมชื่อไม่เคยหวั่นไหวกับเสียงคนบางกลุ่ม ที่บอกว่า “เพชร” เป็นคนมีน้ำใจสูงกับเพื่อนฝูงมาตลอด เป็นคนยิ้มน้อย พูดจาถ่อมตน ช่วยคนยากจนมาตลอด ความดีทั้งหมดนี้ย่อมมีคนรักแน่นอน รวมทั้งนักธุรกิจ พ่อค้าแม่ค้า ที่เคยสัมผัส จะรัก “เพชร”อย่างจริงใจ แฟนคลับนับหมื่นเทคะแนนให้สุดใจ บวกกับนักธุรกิจ พ่อค้าแม่ค้าแต่ ก็ยังถือว่า “เพชร” เป็นรอง ในวงการพนัน ด้านตัว เพชร เอง รู้ดีว่าเป็นรองแต่เมื่อตัดสินใจลงสนามแล้วไม่เคยหวั่นไหวไม่เชื่อแต่อย่าลบหลู่ ปาฏิหาริย์ย่อมเกิดขึ้นได้ทุกเวลา
ส่วนที่เขต 2 พ.ต.อ.พณาเจือเพ็ชร์ กฤษณะราช พรรคเพื่อไทย เบอร์ 1 นายกฤษณ์ อมรินทโรวาท พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน เบอร์ 2 นายแพทย์บัญญัติ เจตนจันทร์ พรรค ปชป. เบอร์ 10 นายจรัญ ความเพียร พรรคภูมิใจไทย เบอร์ 16 นายธนกร หวังภูกลาง พรรคเพื่อฟ้าดิน เบอร์ 18 น.ส.รัชนี สมนึก พรรคเครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย เบอร์ 19 และนายภุชงค์ พรหมอยู่ พรรคชาติไทยพัฒนา เบอร์ 21
ประชาชนคนเดินดินใน เขต 2 อ.แกลง ให้ความสนใจผู้สมัครเพียง 3 คน คือ พ.ต.อ.พณาเจือเพ็ชร์ นายบัญญัติ และ นายจรัญ มาเริ่มดูประวัติของ “พณาเจือเพ็ชร์” เคยลงสมัครนายก อบจ.ระยอง ชนะคะแนนคู่แข่งท่วมท้นแต่ถูกสอยด้วยใบแดง ต่อมาลงสมัคร สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จ.ระยอง ครั้งนี้ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ว.แต่เป็นได้ไม่นานรัฐบาลสมัยนั้นก็ถูกปฏิวัติ คราวนี้ลงสมัคร ส.ส.เขต 2 บรรดาหัวคะแนน ทุ่มเทอย่างเต็มที่หวังจะเป็น ส.ส.ระยองครั้งนี้ให้ได้และก็เป็นความหวังของพรรคเพื่อไทยที่ยึดเก้าอี้ ส.ส.ระยองอีก 1 เขตให้ได้
การลงพื้นที่หาเสียงครั้งนี้ “พณาเจือเพ็ชร์” หาเสียงอย่างสบายใจเพราะที่ผ่านมาทำการบ้านลงพื้นที่มาตลอด เรียกว่าไปหาเสียงงานศพมาไม่ต่ำกว่าหมื่นศพ คะแนนรากหญ้าพร้อมเทคะแนนให้นอกจากนี้ยังชูนโยบายผลักดัน พ.ร.บ.ระยองมหานครเป็นเขตปกครองพิเศษ ภาษีโรงงานอุตสาหกรรม 8 - 9 หมื่นล้านบาท ต้องเสียภาษีที่ระยอง เงินภาษีเหล่านี้จะนำมาพัฒนาระยองให้เจริญรุดหน้า
ส่วนนายบัญญัติ อดีต ส.ส.เก่าจบจากคณะแพทยศาสตร์ ศิริราช มหาวิทยาลัย มหิดล เคยรับราชการอยู่โรงพยาบาลแกลง เปิดคลินิกส่วนตัว เคยลงสมัคร ส.ส.ครั้งแรกเมื่อปี 2548 แพ้ ร.ต.กฤษดา การุญ บุตรชายนายเสริมศักดิ์ การุญ อดีต ส.ส.หลายสมัย จ.ระยอง พ่ายคะแนนเพียง 239 คะแนนเท่านั้น ปี 2550 ลงสมัครในนามพรรค ปชป.อีกครั้งโดยลงคู่กับนายธารา ปิตุเตชะ เนื่องจากในขณะนั้น จ.ระยอง แบ่งเขตการเลือกตั้งพียง 2 เขต ชนะคู่แข่งแบบขาดลอย ปชป.ได้รับเลือกตั้งทั้ง 2 คน แต่การเลือกตั้งครั้งนี้แบบเขตเดียววันแมนโชว์
นายบัญญัติ เผยว่า มีความสบายใจกว่าครั้งที่ผ่านมาเพราะเป็น ส.ส.รั้งตำแหน่งอยู่แล้ว ลงพื้นที่พบชาวบ้านมาตลอดกว่า 3 ปีเต็มทำการบ้านมาตลอดไม่เคยขาด ต้องการจัดทำบันทึกให้เป็นเกียรติประวัติ “เป็นส.ส.แล้วขยัน” ไม่อยากถูกชาวบ้านเรียก “ ส.ส.ขี้เกียจ เวลาเป็นไม่เคยเห็นหน้า” การทำการบ้านมาตลอดคือต้นทุนในการลงสนามเลือกตั้งครั้งนี้โดยไม่มีความหนักใจ อยากให้มีคู่แข่งหลายคน เมื่อแข่งขันแล้วไม่มีคู่แข่งถึงชนะก็ไม่มีความสง่างามแต่ก็ไม่ประมาท ฐานคะแนนเสียงส่วนใหญ่อยู่ที่ชาวบ้านที่เป็นแฟนคลับจำนวนไม่น้อยและที่มีความศรัทธาพรรค ปชป.เป็นทุนอยู่แล้ว
สำหรับนายจรัญ อดีต ส.อบจ.หลายสมัยและอดีต รองประธานสภา อบจ.ระยอง ลงสมัครในนามพรรคภูมิใจไทย เป็นการลงสมัคร ส.ส.เป็นครั้งแรกและเป็นหน้าใหม่ในวงการโดยได้รับการผลักดันจากนายเสริมศักดิ์ การุญ อดีต ส.ส.ระยองรุ่นลายครามหลายสมัย จากการวิเคราะห์ฐานคะแนนเสียง ทั้ง 3 คน ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เพื่อไทยจะพลิก เมื่อ“พณาเจือเพ็ชร์” กำลังมาแรงไม่มีใครต้านทานแรงเบียดได้
ส่วนที่ เขต 3 ดร.มานพ เสถียรเขตต์ พรรคเพื่อไทย เบอร์ 1 นายสุชาติ ปัทมวีรภรณ์ พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน เบอร์ 2 นายธารา ปิตุเตชะ พรรค ปชป. เบอร์ 10 นายนิพนธ์ มงคลสวัสดิ์ พรรคความหวังใหม่ เบอร์ 34 เขต 3 เขตนี้ฟันธงได้เลยว่านายธารา ไม่ต้องหาเสียงก็ชนะเหนือคู่แข่ง ประวัตินายธารา ปิตุเตชะ จบการศึกษาบริหารธุรกิจ((ทรัพยากรมนุษย์) อดีตส.ส.เก่าซึ่งมีฐานเสียงแน่นปึ้ก อาศัยบารมี นายปิยะ ปิตุเตชะ อดีต ส.ส.เก่าปัจจุบันเป็นนายก อบจ.ระยอง ซึ่งเป็นญาติกันที่ปูเส้นทางการเมืองไว้ให้ก่อนหน้านี้ ส่วนคู่แข่งที่น่าจับตาคือ ดร.มานพ เสถียรเขตต์ จากพรรคเพื่อไทย อาชีพทนายความจบการศึกษาปริญญาเอก ประเทศฟิลิปปินส์ เป็นอาจารย์พิเศษมหาวิทยาลัยรัฐและเอกชน เคยลงสมัครส.ส. มา 2 ครั้งแพ้คะแนน นายธาราทั้ง 2 ครั้ง
สุดท้ายที่ เขต 4.นายสมพงษ์ โสภณ พรรคเพื่อไทย เบอร์ 1 น.ส กนกวรรณ โชติธรรมนารี พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน เบอร์ 2 และนายวิชัย ล้ำสุทธิ พรรคปชป. เบอร์ 10 ที่น่าจับตาระหว่างนายสมพงษ์ กับนายวิชัย “วิชัย” มีภาษีเหนือกว่ามีดีกรี เป็นถึง อดีต ส.ส.สมัยที่แล้ว ลงพื้นที่เก็บคะแนนมาตลอด ชาวบ้านยังศรัทธาหนาแน่น
ส่วน “สมพงษ์” ลงสมัคร ส.ส.หน้าใหม่ครั้งแรก แต่หน้าเก่าในวงการเมืองท้องถิ่นมานานกว่า 20 ปี อดีต ส.จ.อดีต นายกเทศมนตรีเมืองมาบตาพุด วุฒิการศึกษาระดับปริญญาโท กลุ่มเสื้อแดงระยองจับมือให้การสนับสนุนเต็มที่ และเป็นผู้สมัครอีกคนหนึ่งที่เป็นความหวังของพรรคเพื่อไทยที่จะยึดเก้าอี้เขตนี้ให้ได้อีกเช่นกัน เลือกตั้งคราวนี้ “ วิชัย ” เจ้าของเก้าอี้เหนื่อยหน่อย หากประมาทเก้าอี้หักแน่