เก้าอี้ส.ส.กระบี่ เขต 2 “ปชป.”มีโอกาสเพลี่ยงพล้ำให้ “พท.”

กระบี่-สนามเลือกตั้งเขต 2 จ.กระบี่ หนนี้ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะ “เพื่อไทย” ส่ง “อมต ภูมิภมร” หรือ “ส.จ.โรจน์” ลงชิงเก้าอี้ที่ประชาธิปัตย์ ครองมายาวนาน โดยหนนี้ ส่ง “สุชีน เอ่งฉ้วน” ทายาท “ตูมตาม” ลงสมัครแทนพ่อที่ผันตัวเองไปลงแบบบัญชีรายชื่อ คู่นี้สูสีหน้าใหม่ทั้งคู่ ขณะที่คอการเมืองให้เพื่อไทยเป็นต่อที่ฐานเสียงเหนียวแน่นจากสนามท้องถิ่น ขณะที่ฝ่ายปชป.มีฐานเสียงเดิมที่เหนียวแน่นเช่นกัน แต่เริ่มมีกระแสเอาพรรคไม่เอาคนแถมมีตัวแชร์คะแนนทั้งกลุ่มพันธมิตรฯและกลุ่มคนหลากสี

การเลือกตั้งวันที่ 3 ก.ค. นี้ ทุกสายตาของชาวเมืองดาบ และคอการเมืองในกระบี่ ต่างจับจ้องไปที่เขตเลือกตั้งที่ 2 เพราะเป็นเขตที่มีการแข่งขันดุเดือดที่สุด และโอกาสที่พรรคประชาธิปัตย์จะเสียเก้าอี้ส.ส.ให้แก่พรรคคู่แข่งมีมาก เมื่อ 2 พรรคใหญ่เพื่อไทยและประชาธิปัตย์ ส่งผู้สมัคร ส.ส.หน้าใหม่ลงชิงเก้าอี้ที่ว่างลง จากที่นายอาคม เอ่งฉ้วน อดีต ส.ส.หลายสมัยของจังหวัดกระบี่ และเป็นถึงอดีต รัฐมนตรีช่วยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ผันตัวเองไปลง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งเขตเลือกตั้งนี้จะมีการต่อสู้กันอย่างดุเดือด เป็นการชิงไหวชิงพริบกันระหว่างผู้สมัคร ส.ส.เพื่อแย่งเสียงคะแนนจากชาวบ้านคว้าเก้าอี้เข้าไปนั่งในสภาฯ

โดยพรรคเพื่อไทย ส่งนักการเมืองท้องถิ่นไฟแรง ใจถึง อย่าง “นายอมต (ส.จ.โรจน์) ภูมิภมร” ลงสู้ศึกกับพรรคประชาธิปัตย์ที่ส่ง “นายสุชีน (เคียว) เอ่งฉ้วน” ที่ยังไม่เคยผ่านเวทีการเมืองมาแม้แต่เวทีเดียว ทั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาติ แต่เป็นทายาทของนายอาคม เอ่งฉ้วน อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์หลายสมัย ซึ่งก็ได้ซึมซับการเมืองมาจากพ่อไม่มากก็น้อย

ว่ากันว่าทั้งคู่มีดีคนละอย่าง ด้าน นายอมต ได้เปรียบในเรื่องของการผ่านเวทีการเมืองท้องถิ่นมาก่อน เป็นคนกว้างขวางในวงการการเมืองท้องถิ่น และเป็นคนใจถึงพึ่งได้ แม้จะเพิ่งเข้าไปทำงานในสภาท้องถิ่น อบจ.เพียงสมัยแรก ก็สร้างชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จักไปทั่ว ส่วน นายสุชีน มีพ่อเป็นพี่เลี้ยง ที่เก๋าเกม ผ่านประสบการณ์ทางการเมืองมายาวนานและโชกโชน มีสไตล์การพูดที่เป็นเอกลักษณ์เร้าใจไม่ว่า ขึ้นเวทีไหนทั้งในและนอกสภาฯก็สร้างเสียงฮือฮาได้ตลอด จนได้ฉายา “ตูมตาม”

ที่ผ่านมาใครๆก็มองว่ากระบี่ เป็นฐานที่มั่นของพรรคประชาธิปัตย์ เลือกตั้งทุกครั้งคู่แข่งต้องทำใจ แม้พรรคประชาธิปัตย์ส่งเสาไฟฟ้าลงสมัคร ก็ยังได้รับการเลือกตั้งเหมือนในหลายพื้นที่ของภาคใต้ แต่ช่วงหลังมากระแสชาวบ้านเริ่มเบื่อกับนักการเมืองรุ่นเก่าที่มีแต่ลีลา ผลงานไม่ค่อยเข้าตา เมื่อเลือกตั้งเสร็จก็หายเข้ากลีบเมฆทุกครั้งไม่ลงพื้นที่มาให้เห็นหน้า

การเลือกตั้งครั้งนี้ เขตเลือกตั้งที่ 2 ก็แตกต่างจากที่ผ่านมา เมื่อ ส.ส.รุ่นเก๋า อย่างนายอาคม เอ่งฉ้วน สละเก้าอี้ และส่งลูกชายลงชิงเก้าอี้แทน เพื่อหวังคว้าเก้าอี้ตัวเก่าที่ตนเคยนั่งกลับมาครอบครองอีกครั้ง ยิ่งสร้างกระแสให้ชาวกระบี่เริ่มส่งเสียง “ยี้” กันมากขึ้น มาพร้อมกับกระแส “เอาพรรค ไม่เอาคน” เนื่องจากยังไงก็ยังรักพรรคประชาธิปัตย์

เมื่อ นายอมต เปิดตัวลงสมัครรับเลือกตั้ง ในนามพรรคเพื่อไทย อย่างไม่เกรงกลัวบารมีพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมเสนอตัวเป็นทางเลือกใหม่ของประชาชน ก็สร้างความหวั่นไหวให้แก่ผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ได้ไม่น้อย ทำให้มีกระแสตอบรับจากชาวบ้านดีไม่แพ้ผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ 

ด้วยความที่เป็นคนใจถึงพึ่งได้ เนื่องจากที่ผ่านมาขณะเป็น ส.จ.ก็ได้ฝากผลงานไว้มากมาย ทั้งเงินเดือนทุกบาททุกสตางค์ นายอมต .ก็มอบให้เป็นทุนการศึกษาของนักเรียนที่เรียนดี แต่ยากจนในพื้นที่ ไม่เคยเอาเข้ากระเป๋าตัวเอง และประกอบกับที่เคยเป็น ส.จ.มาก่อนจึงสามารถต่อสายกับเพื่อน ส.จ.ได้เกือบทุกเขตในพื้นที่เลือกตั้งที่ลงสมัคร ที่ทุกคนต่างก็มีฐานเสียงอยู่เดิมเป็นแรงช่วยหนุน

นอกจากนี้ก็ยังได้พี่ชาย ที่เคยเป็นอดีต ส.จ. มาหลายสมัยช่วยหาเสียงอีกแรง และหากว่า นายอมต ขยันหาเสียง ใช้กลยุทธ์เดินเคาะประตูบ้านแนะนำตัวทุกหัวบันได เรียกคะแนนความสงสาร ก็เชื่อว่าหนทางคว้าเก้าอี้ที่ว่างมาครองได้ก็มีมากขึ้นตามไปด้วยอย่างไม่ยากเย็น

ด้าน นายสุชีน เอ่งฉ้วน ที่ได้ชื่อว่าเป็นทายาทผู้เก๋าเกมทางการเมือง ของพรรคประชาธิปัตย์ ก็เชื่อว่าผู้เป็นพ่อคงจะไม่ยอมยกเก้าอี้ให้ใครไปครองแบบง่ายๆอย่างแน่นอน เนื่องจากนายอาคม เองที่ผ่านมาก็เคยฝากผลงานไว้มากมาย มีฐานเสียงของตัวเอง และพรรคประชาธิปัตย์เป็นทุนเดิมอยู่ไม่น้อย ประกอบกับขยันลงพื้นที่หาเสียงเพิ่มขึ้นในช่วงนี้ ก็เชื่อว่าเก้าอี้ตัวเก่านำมาเล่าใหม่ ก็จะกลับมาอยู่ในมือลูกชายได้อย่างไม่ยากเช่นกัน แต่ก็คงจะโคตรหินไม่น้อย เนื่องจากฐานเสียงที่เคยเหนียวแน่นก็ถูกแยกออกเป็นเสี่ยงๆ ทั้งฐานเสียงพรรคประชาธิปัตย์ ฐานเสียงพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และ ฐานเสียงเสื้อแดง

โดยเฉพาะฐานเสียงเสื้อแดง ถึงจะมีอยู่ไม่มากนัก แต่ก็เชื่อว่าคนกลุ่มนี้จะเทคะแนนให้แก่ นายอมต อย่างแน่นอน ส่วนฐานเสียงพรรคประชาธิปัตย์ และฐานเสียงพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็ใช่ว่าจะเทเสียงให้ สุชีน ทั้งหมด

ทั้งนี้ เนื่องจากยังมีผู้สมัครในเขต 2 นี้อีกหลายท่าน ต่างก็มีฐานเสียงด้วยกันทั้งสิ้นและส่วนใหญ่ก็เป็นฐานเสียงเดียวกับผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ เช่น นายแพทย์อธิคม ดำดี แพทย์ศัลยกรรมโรงพยาบาลกระบี่ ซึ่งก็เป็นกลุ่มคนที่เคยเคลื่อนไหวกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือในนามกลุ่มคนเสื้อหลากสี รายนี้ก็มีดีกรีเป็นถึงน้องชายของนายอภิชาต ดำดี อดีต ส.ว.จังหวัดกระบี่ แม้จะเป็นผู้สมัครหน้าใหม่ป้ายแดง ก็เชื่อว่าเมื่ออาศัยชื่อชั้นของพี่ชายก็จะเรียกเสียงคะแนนความนิยมได้ไม่น้อย

อีกคนหนึ่งที่น่าจับตามอง คือ นายภูเบศ สุวรรเนาว์ อดีต ส.ท.เมืองกระบี่ มีฐานเสียงจากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เช่นกัน เคยร่วมต่อสู้กันมาอย่างยาวนาน จึงเชื่อว่า เสียงส่วนหนึ่งในพื้นที่เลือกตั้งเขต 2 แห่งนี้ ก็น่าจะแบ่งๆกันไป

สำหรับเขตเลือกตั้งที่ 2 ประกอบด้วยพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.อ่าวลึก อ.ปลายพระยา อ.เขาพนม มีประชากร จำนวน 141,103 คนมีผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งชิงแชมป์เก้าอี้ว่าง จำนวน 6 คน

การแข่งขันในสนามเลือกตั้งเขต 2 จ.กระบี่ มันตั้งแต่ยกแรก และคาดว่าจนถึงยกสุดท้ายอย่างแน่นอน เพราะทุกคนมองว่ามีสิทธิเท่าเทียมกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็คงต้องให้น้ำหนักไปที่การแข่งกันของสองพรรคใหญ่ อย่างพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีนายสุชีน และพรรคเพื่อไทยมี นายอมต เป็นตัวชูโรง เป็นที่ทราบกันว่าสองพรรคนี้มีทั้งกระแส และกระสุน เสร็จสรรพ พร้อมสู้กันทุกรูปแบบ เชื่อว่าจะมีการแข่งขันกันทั้งบนดินและใต้ดินอย่างดุเดือดแน่นอน