ทายาทซาฟารีเวิลด์ เบรกแผนลุยร้านอาหารญี่ปุ่น หลังสึนามิกระหน่ำคนญี่ปุ่นเจ็บหนัก ซ้ำร้ายกระทบต่อยอดขายรวมไอศกรีมร้าน พาร์เฟ่ต์ริโอ้ วูบ 30% ยังเดินหน้าขยายธุรกิจต่อ ปีนี้ทุ่มอีก 50 ล้านบาท ผุด 7 สาขา เปิดตัวบัตรสมาชิก ฟรีดอม การ์ด ดันยอดขายสิ้นปีโต 15-20% ปีหน้าเล็งผุดครัวกลางที่ภูเก็ต
นายฤทธิ์ คิ้วคชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท คชา บราเธอร์ส จำกัด ผู้บริหารร้านขนมหวานและไอศกรีมภายใต้แบรนด์สฟรี ,พาร์เฟ่ต์ริโอ้ บาย สฟรี, สฟรี เจอาร์ และออลดี้ คอฟฟี่ไลท์ ในเครือซาฟารีเวิลด์ เปิดเผยว่า บริษัทฯตัดสินใจชะลอแผนการเปิดตัวธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นออกไปก่อน จากเดิมที่จะเปิดตัวปีนี้ โดยจะรอดูสถานการณ์อีกระยะหนึ่งก่อน เนื่องจากผลกระทบจากภัยพิบัติสึนามิ ส่งผลให้คนญี่ปุ่นเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศลดลง ส่วนคนญี่ปุ่นในไทยก็ปรับลดค่าใช้จ่ายลง
ขณะเดียวกันภัยพิบัติดังกล่าว ยังกระทบต่อธุรกิจไอศกรีมและขนมหวานแบรนด์พาร์เฟ่ต์ริโอ้ ด้วย ที่ยอดขายลดลงตามลำดับ เพราะว่าแบรนด์ดังกล่าวจับกลุ่มเป้าหมายคนญี่ปุ่นด้วย โดยช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมานี้ ยอดขายลดลงกว่า 30% แล้ว
“แต่บริษัทมั่นใจว่าสถานการณ์และผลกระทบดังกล่าวจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้น เพราะยอดขายเดิมก่อนที่จะเกิดสึนามิ มีการเติบโตประมาณ 20% ซึ่งสูงพอสมควร” นายฤทธิ์กล่าว
ทั้งนี้บริษัทยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจต่อเนื่อง โดยช่วงครึ่งปีหลังนี้ วางแผนลงทุนขยายร้านในเครือ 3 แบรนด์คือ สฟรี ,พาร์เฟ่ต์ริโอ้ บาย สฟรี, สฟรี เจอาร์ ซึ่งจะเปิดสาขาใหม่รวมจำนวน 7 สาขา ด้วยงบลงทุนรวมประมาณ 50 ล้านบาท เช่น เดอะมอลล์บางแค เซ็นทรัลบางนา เซ็นทรัลพระรามเก้า เมกะบางนา (ต้นปี 2555) ส่วนแบรนด์ร้านกาแฟออลดี้คอฟฟี่ไลฟ์ท์ที่เป็นกาแฟเพื่อสุขภาพ เปิดสาขาแรกแล้วที่ศูนย์การค้าพาราไดซ์พาร์ค ได้รับผลตอบรับดี แต่จะยังไม่ขยายสาขาเพิ่ม เนื่องจากพฤติกรรมคนไทยยังไม่คุ้นเคยกับกาแฟเพื่อสุขภาพเท่าใดนัก
นอกจากนั้นยังมีแผนจะลงทุนสร้างครัวกลางอีกแห่งที่ภูเก็ต ลงทุนไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท เพื่อรองรับสาขาใหม่ได้อีก 5 สาขา จากเดิมมีที่รามอินทราแห่งเดียว คาดจะลงทุนได้ปีหน้า ส่วนปีหน้าบริษัทมีแผนที่จะขยายสาขาร้านขนมหวานและไอศกรีมในเครือให้ครบ 50 สาขา ปัจจุบันบริษัทฯมีร้านในเครือรวม 17 สาขา แบ่งเป็น สฟรี 10 สาขา, พาร์เฟ่ต์ริโอบายสฟรี 3 สาขา, สฟรีเจอาร์ 4 สาขา
ล่าสุดได้เปิดตัวบัตรสมาชิก ฟรีดอม การ์ด มอบสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้าด้วยส่วนลดสูงสุด 15% โดยใช้ได้กับร้านขนมหวานและไอศกรีมในเครือทั้ง 4 แบรนด์ ซึ่งหลังจากเปิดตัวบัตรอย่างเป็นทางการคาดว่าสิ้นปีจะมียอดสมาชิก 20,000 ราย และมีรายได้รวมเติบโตตามเป้าหมายที่15-20%
นายฤทธิ์ คิ้วคชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท คชา บราเธอร์ส จำกัด ผู้บริหารร้านขนมหวานและไอศกรีมภายใต้แบรนด์สฟรี ,พาร์เฟ่ต์ริโอ้ บาย สฟรี, สฟรี เจอาร์ และออลดี้ คอฟฟี่ไลท์ ในเครือซาฟารีเวิลด์ เปิดเผยว่า บริษัทฯตัดสินใจชะลอแผนการเปิดตัวธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นออกไปก่อน จากเดิมที่จะเปิดตัวปีนี้ โดยจะรอดูสถานการณ์อีกระยะหนึ่งก่อน เนื่องจากผลกระทบจากภัยพิบัติสึนามิ ส่งผลให้คนญี่ปุ่นเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศลดลง ส่วนคนญี่ปุ่นในไทยก็ปรับลดค่าใช้จ่ายลง
ขณะเดียวกันภัยพิบัติดังกล่าว ยังกระทบต่อธุรกิจไอศกรีมและขนมหวานแบรนด์พาร์เฟ่ต์ริโอ้ ด้วย ที่ยอดขายลดลงตามลำดับ เพราะว่าแบรนด์ดังกล่าวจับกลุ่มเป้าหมายคนญี่ปุ่นด้วย โดยช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมานี้ ยอดขายลดลงกว่า 30% แล้ว
“แต่บริษัทมั่นใจว่าสถานการณ์และผลกระทบดังกล่าวจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้น เพราะยอดขายเดิมก่อนที่จะเกิดสึนามิ มีการเติบโตประมาณ 20% ซึ่งสูงพอสมควร” นายฤทธิ์กล่าว
ทั้งนี้บริษัทยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจต่อเนื่อง โดยช่วงครึ่งปีหลังนี้ วางแผนลงทุนขยายร้านในเครือ 3 แบรนด์คือ สฟรี ,พาร์เฟ่ต์ริโอ้ บาย สฟรี, สฟรี เจอาร์ ซึ่งจะเปิดสาขาใหม่รวมจำนวน 7 สาขา ด้วยงบลงทุนรวมประมาณ 50 ล้านบาท เช่น เดอะมอลล์บางแค เซ็นทรัลบางนา เซ็นทรัลพระรามเก้า เมกะบางนา (ต้นปี 2555) ส่วนแบรนด์ร้านกาแฟออลดี้คอฟฟี่ไลฟ์ท์ที่เป็นกาแฟเพื่อสุขภาพ เปิดสาขาแรกแล้วที่ศูนย์การค้าพาราไดซ์พาร์ค ได้รับผลตอบรับดี แต่จะยังไม่ขยายสาขาเพิ่ม เนื่องจากพฤติกรรมคนไทยยังไม่คุ้นเคยกับกาแฟเพื่อสุขภาพเท่าใดนัก
นอกจากนั้นยังมีแผนจะลงทุนสร้างครัวกลางอีกแห่งที่ภูเก็ต ลงทุนไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท เพื่อรองรับสาขาใหม่ได้อีก 5 สาขา จากเดิมมีที่รามอินทราแห่งเดียว คาดจะลงทุนได้ปีหน้า ส่วนปีหน้าบริษัทมีแผนที่จะขยายสาขาร้านขนมหวานและไอศกรีมในเครือให้ครบ 50 สาขา ปัจจุบันบริษัทฯมีร้านในเครือรวม 17 สาขา แบ่งเป็น สฟรี 10 สาขา, พาร์เฟ่ต์ริโอบายสฟรี 3 สาขา, สฟรีเจอาร์ 4 สาขา
ล่าสุดได้เปิดตัวบัตรสมาชิก ฟรีดอม การ์ด มอบสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้าด้วยส่วนลดสูงสุด 15% โดยใช้ได้กับร้านขนมหวานและไอศกรีมในเครือทั้ง 4 แบรนด์ ซึ่งหลังจากเปิดตัวบัตรอย่างเป็นทางการคาดว่าสิ้นปีจะมียอดสมาชิก 20,000 ราย และมีรายได้รวมเติบโตตามเป้าหมายที่15-20%
