xs
xsm
sm
md
lg

“ฟูจิ”ยันไร้ปลาดิบจากญี่ปุ่น เร่งหาซัพพลายขาเชียวใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“ฟูจิ” ยันไม่มีผลกระทบจากเหตุการณ์สารกัมมันตภาพรังสีแพร่ระบาด ชี้วัตถุดิบนำเข้าจากที่อื่น มีแค่ชาเขียว เท่านั้นมาจากญี่ปุ่นแต่ก่อนเกิดเหตุอีก แต่เข้มงวดซัพพลายเออร์มากขึ้น พร้อมลงทุนต่อเนื่อง ผุดปีนี้อีก 12 สาขา

นายไดซากุ ทานากะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟูจิกรุ๊ป จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นฟุจิ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์สารกัมมันตภาพรังสีรั่วไหลในญี่ปุ่นส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการบริโภคอาหารญี่ปุ่นของคนไทยบ้าง แต่ที่ผ่านมายืนยันว่ายังไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของร้านอาหารญี่ปุ่นฟูจิแต่อย่างใด โดยยังมีลูกค้าเข้าร้านเฉลี่ย 700-80 คนต่อสาขาต่อวัน โดยช่วงไตรมาสแรกนี้เติบโต 10%
บริษัทฯยืนยันว่า วัตถุดิบที่นำมาประกอบอาหารของฟูจินั้น มีการนำเข้ามาจากต่างประเทศประมาณ 70% แต่เป็นการนำเขามาจากญี่ปุ่นเพียง 5% เท่านั้น ส่วนอีก 30% จากซัพพลายเออร์ในไทย โดยเมนูหลักคือ ปลามากกว่า 50% จากที่นำเข้า ส่วนที่นำเข้ามาจากญี่ปุ่นมีเพียง 5% เท่านั้นคือ วัตถุดิบชาเขียว ซึ่งล่าสุดก็นำเข้ามาก่อนเกิดเหตุการณ์และมีสต๊อคเพียงพอถึงปีหน้าด้วย ซึ่งขณะนี้ก็ได้เตรียมการเจรจากับทางผู้ประกอบการในไทยและจีนไว้ในการสั่งเรื่องชาเขียวมาแทนหากเหตุการณ์ในญี่ปุ่นยังไม่คลี่คลายเพื่อสร้างความมั่นใจ
ส่วนวัตถุดิบที่สั่งจากผู้ผลิตคนไทยเช่น ซอส น้ำสลัด ไข่กุ้งแปรรูป ผัก ผลไม้ หมู ไก่ เป็นต้น ทั้งนี้วัตถุดิบที่นำเข้านั้นมาจากหลายแหล่งเช่น ปลาและไข่ปลาแซลมอนมาจากประเทศนอร์เวย์ ชิลีและสก็อตแลนด์ สำหร่ายนำเข้าจากฐานการผลิตในสิงคโปร์ของบริษัทญี่ปุ่นแต่ส่งตรงมาถึงไทย ปลาสดส่วนใหญ่มาจากมหาสมุทรแอตแลนติก ปลาทูน่าจากชิลี อินโดนีเซีย เป็นต้น โดยใช้ปลาซาบะประมาณ 15 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อปี
ส่วนข้าวญี่ปุ่นนั้นขณะนี้ได้ลงทุนด้านโรงสีและใช้วิธีคอนแทรคฟาร์มมิ่งกับเกษตรกรในการปลูกข้าว ที่เชียงราย ด้วยการตั้งบริษัท ทนา เกรน เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้วในการซัพพลายข้าวญี่ปุ่นให้กับฟุจิ และมีแผนที่จะทำเป็นข้าวบรรจุภัณฑ์ถุงเพื่อจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศด้วย คาดอีก 2 ปีเริ่มได้
อย่างไรก็ตาม ขระนี้วัตถุดิบมีการปรับราคาขึ้นเฉลี่ย 5-10% โดยเฉพาะปลาสด แต่ฟุจิยังไม่ปรบราคาอาหารมา 2 ปีกว่าแล้ว ขณะเดียวกันก็จะมีการออกเมนูใหม่เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคในเร็วๆนี้ ซึ่งก่อนน้านี้ได้มีจดหมายเวียนถึงสมาชิกกว่า 200,000 ราย และมีการทำความเข้าใจผ่านหน้าร้านฟูจิ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค และก็มีความเข้มงวดในการตรวจสอบวัตถุดิบจากซัพพลายเออร์มากขึ้นแม้จะมาจากที่อื่นทีไม่ใช่ญี่ปุ่นก็ตาม
นายไดซากุ กล่าวว่า แผนลงทุนปีนี้ของฟูจิยังเป็นไปตามเดิมไม่มีการชะลอ โดยจะเปิดสาขาใหม่ปีนี้ 12 แห่ง มากกว่าปีที่แล้วที่เปิด 10 แห่ง โดยต้นปีนี้เปิดไปแล้ว 2 แห่งที่ เทสโก้โลตัสหาดใหญ่ เซ็นทรัลเชียงราย อะมอรินี่รามอินทรา ลงทุนเฉลี่ย 20 ล้านบาทต่อสาขา จากปัจจุบันมี 72 สาขา โดยใช้งบการตลาดปีนี้ 100 ล้านบาท
ส่วนร้านอาหารไทยในญี่ปุ่นที่โตเกียวชื่อ บางกอกคิทเช่น ของบริษัทฯ 6 สาขายังเปิดบริการตามปรกติ แต่ว่าคนญี่ปุ่นเริ่มทานอาหารนอกบ้านน้อยลงในช่วงนี้
สำหรับผลประกอบการปีนี้ ของร้านอาหารฟูจิ ตั้งไว้ที่ 6,000 ล้านบาท แบ่งเป็น กลุ่มร้านอาหาร 5,000 ล้านบาท และเครื่องดื่มชาเขียวฟูจิชะ 1,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 10% โดยในส่วนของฟูจิชะนั้น เข้าช่องทางโมเดิร์ฯเทรดหมดแล้ว และมีการส่งออกไปที่ มาเลเซียและจะเริ่มขยายไปยังสิงคโปร์เร็วๆนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น