วานนี้ (19 มิ.ย.) ที่บ้านคุณแม่ เลขที่ 299 ถ.สืบศิริ ซ.47 อ.เมือง จ.นครราชสีมา ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี อดีตรมว.เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร ซึ่งเป็นผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 5 พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส. นายพลพีร์ สุวรรณฉวี เขต 9 นายอนุวัฒน์ วิเศษจินดาวัตน์ เขต 8 น.ส.สุธาสินี ศิริโภคานนท์ เขต 4
นอกจากนี้ยังร่วมด้วย นายซ้าย ผลกระโทก ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา เขต 10 พรรคเพื่อไทย และ นายรชตะ ด่านกุล ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา เขต 15 พรรคเดียวกัน ร่วมแถลงข่าว โดยกล่าวอ้างว่า ขณะนี้ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา ในหลายเขตเลือกตั้ง ทั้ง 2 พรรคการเมือง กำลังถูกข้าราชการระดับสูงของจังหวัด ทั้ง ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ใช้อำนาจโดยมิชอบ ขู่บังคับให้ผู้นำชุมชน อาทิ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และ อสม. ชี้นำประชาชนให้เลือกผู้สมัครของพรรคการเมืองหนึ่ง ที่ควบคุมกระทรวงมหาดไทย หากไม่ยอมทำตามจะถูกปลดออกจากตำแหน่ง
ทั้งนี้กลุ่มผู้สมัครที่มาแถลงข่าวทุกคนต่างยืนยันกับสื่อมวลชนว่า ได้รับรู้รับทราบพฤติกรรมนี้มาจากผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำชุมชนในหลายพื้นที่ และระบุชัดเจน มีพยานบุคคลที่สามารถยืนยันได้ แต่ไม่ขอเปิดเผย เนื่องจากเกรงว่าพยานเหล่านั้นจะไม่ปลอดภัย และในวันนี้ไม่ได้ต้องการที่จะร้องเรียนไปยังทางหน่วยงานภาครัฐ ทั้งในส่วนของตำรวจ กกต.หรือ รัฐบาล แต่อยากเรียกร้องให้บุคคลที่กำลังพยายามดำเนินการในเรื่องนี้ ยุติการกระทำ และปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ใช้อำนาจหน้าที่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเลือกตั้งครั้งนี้
"อยากเรียกร้องให้ กกต.กลางลงพื้นที่มาตรวจสอบ พร้อมระบุการที่ กกต.ทั้ง 4 คน เดินทางไปต่างประเทศ โดยเหลือทำงานอยู่เพียงแค่คนเดียวนั้น เป็นเรื่องที่ไม่น่าจะทำ ส่วนการทำงานของ กกต.จังหวัดนั้นตนเองรู้สึกเฉยๆ เพราะไม่มั่นใจในการทำงาน"
ร.ต.หญิงระนองรักษ์ กล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้ นายพลพีร์ สุวรรณฉวี บุตรชาย ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา เขต 3 พรรคเพื่อไทย ได้เข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า มีผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านใน อ.ชุมพวง เก็บบัตรประชาชนของลูกบ้าน เมื่อได้แจ้งความปรากฏว่าบัตรประชาชนก็ถูกนำมาส่งคืนให้ชาวบ้าน ซึ่งสันนิษฐานว่า การเก็บบัตรประชาชน เพื่อเก็บไว้จดรายชื่อเพื่อให้เงินซื้อเสียง และเก็บไว้เพื่อไม่ให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง
นอกจากนี้ยังร่วมด้วย นายซ้าย ผลกระโทก ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา เขต 10 พรรคเพื่อไทย และ นายรชตะ ด่านกุล ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา เขต 15 พรรคเดียวกัน ร่วมแถลงข่าว โดยกล่าวอ้างว่า ขณะนี้ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา ในหลายเขตเลือกตั้ง ทั้ง 2 พรรคการเมือง กำลังถูกข้าราชการระดับสูงของจังหวัด ทั้ง ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ใช้อำนาจโดยมิชอบ ขู่บังคับให้ผู้นำชุมชน อาทิ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และ อสม. ชี้นำประชาชนให้เลือกผู้สมัครของพรรคการเมืองหนึ่ง ที่ควบคุมกระทรวงมหาดไทย หากไม่ยอมทำตามจะถูกปลดออกจากตำแหน่ง
ทั้งนี้กลุ่มผู้สมัครที่มาแถลงข่าวทุกคนต่างยืนยันกับสื่อมวลชนว่า ได้รับรู้รับทราบพฤติกรรมนี้มาจากผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำชุมชนในหลายพื้นที่ และระบุชัดเจน มีพยานบุคคลที่สามารถยืนยันได้ แต่ไม่ขอเปิดเผย เนื่องจากเกรงว่าพยานเหล่านั้นจะไม่ปลอดภัย และในวันนี้ไม่ได้ต้องการที่จะร้องเรียนไปยังทางหน่วยงานภาครัฐ ทั้งในส่วนของตำรวจ กกต.หรือ รัฐบาล แต่อยากเรียกร้องให้บุคคลที่กำลังพยายามดำเนินการในเรื่องนี้ ยุติการกระทำ และปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ใช้อำนาจหน้าที่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเลือกตั้งครั้งนี้
"อยากเรียกร้องให้ กกต.กลางลงพื้นที่มาตรวจสอบ พร้อมระบุการที่ กกต.ทั้ง 4 คน เดินทางไปต่างประเทศ โดยเหลือทำงานอยู่เพียงแค่คนเดียวนั้น เป็นเรื่องที่ไม่น่าจะทำ ส่วนการทำงานของ กกต.จังหวัดนั้นตนเองรู้สึกเฉยๆ เพราะไม่มั่นใจในการทำงาน"
ร.ต.หญิงระนองรักษ์ กล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้ นายพลพีร์ สุวรรณฉวี บุตรชาย ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา เขต 3 พรรคเพื่อไทย ได้เข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า มีผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านใน อ.ชุมพวง เก็บบัตรประชาชนของลูกบ้าน เมื่อได้แจ้งความปรากฏว่าบัตรประชาชนก็ถูกนำมาส่งคืนให้ชาวบ้าน ซึ่งสันนิษฐานว่า การเก็บบัตรประชาชน เพื่อเก็บไว้จดรายชื่อเพื่อให้เงินซื้อเสียง และเก็บไว้เพื่อไม่ให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง
