xs
xsm
sm
md
lg

“เมีย-ลูกไพโรจน์” ควง “เผาไทย” โคราช จวกเละ! “ผู้ว่าฯเด็กห้อย-นอภ.-ผกก.” ไม่เป็นกลาง-ข่มขู่หัวคะแนน-ปชช.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรรฉวี  แกนนำ ชพน. ควงลูกชาย พร้อมผู้สมัคร พท. โคราช แถลงข่าวซัดเละ ผู้ว่าฯ - นอภ.-ปลัดอภ.- ผกก. และ ขรก.วางตัวไม่เป็นกลาง ใช้อำนาจรัฐข่มขู่คุกคามหัวคะแนน และปชช. ที่ บ้านพัก จ.นครราชสีมา วันนี้ ( 19 มิ.ย.)
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “ระนองรักษ์” เมีย “ไพโรจน์” แกนนำ ชพน.ควงลูกชาย พร้อมผู้สมัคร “เพื่อไทย” โคราช เปิดบ้านแถลงข่าวจวกเละ “ผู้ว่าฯ เด็กห้อย” ยัน นอภ.-ปลัด อภ.-ผกก.และ ขรก.วางตัวไม่เป็นกลาง ทุ่มช่วยพรรคหนึ่งกีดกันคู่แข่ง ใช้อำนาจรัฐข่มขู่คุกคามหัวคะแนนผู้นำท้องถิ่นนายก อบต.-กำนัน-ผญบ.-อสม.และ ปชช.สารพัดวิชามาร ซัดผู้ว่าฯว่างมากไล่ไปแก้ รง.ไก่เน่าซ้ำซาก จิกเป็นขรก.พลเรือนต้ององอาจเป็นราชสีห์ไม่ใช่แมวอยู่ใต้นักการเมือง พ้ออยากปลุกสามีขึ้นมาด่าแทน ลั่นไม่หวั่นอิทธิพลคุกคาม เป็น ส.ส.ต้องกล้าไม่กลัวตาย เผย ส่งคืน ตร.ที่มาคุ้มกันหมดแล้ว อ้างมาคอยจ้องจับผิด

วันนี้ (19 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่บ้านคุณแม่ เลขที่ 3065 ซอยสืบศิริ 47 ถ.สืบศิริ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรรฉวี แกนนำพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน (ชพน.) ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 5 พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา พรรค ชพน.ประกอบด้วย นายพลพีร์ สุวรรณฉวี ผู้สมัคร ส.ส.เขต 9 และ นายพีรพร สุวรรณฉวี ผู้สมัคร ส.ส.เขต 7 บุตรชาย, น.ส.สุธาสินี ศิริโภคานนท์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4, นายอนุวัฒน์ วิเศษจินดาวัฒน์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 8 และมีผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย (พท.) อีกจำนวน 2 คน คือ นายซ้าย ผลกระโทก เขต 10 และ นายรชตะ ด่านกุล เขต 15 รวม ได้เปิดบ้านแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน

ทั้งนี้ เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมในการเลือกตั้ง ส.ส.นครราชสีมา โดยเฉพาะการวางตัวไม่เป็นกลางของข้าราชการระดับสูงในจังหวัดนครราชสีมา ไล่ตั้งแต่ผู้ว่าราชการจังหวัด ไปจนถึง นายอำเภอ, ปลัดอำเภอ, ผู้นำท้องถิ่น และ ข้าราชการตำรวจระดับสูงในพื้นที่

ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี แกนนำพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน เปิดเผยว่า ตนรวมถึงผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต จ.นครราชสีมา พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน รวมถึงผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย มีความอึดอัดทั้งใจและกายเป็นอย่างมาก เพราะถูกข่มขู่จากอำนาจรัฐเหลือเกิน ซึ่งการข่มขู่ผู้สมัครไม่เท่าไหร่ แต่ตอนนี้ไปข่มขู่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ ซึ่งพวกเรารับกันไม่ได้ พฤติกรรมดังกล่าว เช่น ข้าราชการระดับสูงของจังหวัด, ข้าราชการระดับสูงในอำเภอ, ข้าราชการตำรวจ มีการไปพูดจาข่มขู่ลักษณะว่า ไม่ให้ไปช่วยผู้สมัครเบอร์นั้นเบอร์นี้ที่เป็นคู่แข่ง และต้องช่วยเบอร์ของพวกตัวเองเท่านั้น ไม่เช่นนั้นจะถูกย้ายหรืออยู่ไม่เป็นสุขแน่

“การแสดงพฤติกรรมเช่นนี้ ดิฉันคิดว่า มันทำไม่ถูกต้อง เป็นข้าราชการต้องวางตัวเป็นกลาง และเป็นผู้บริหารระดับสูงของจังวัด อำเภอ ตำรวจไม่ใช่ทำตัวแบบนี้ มันทำไม่ได้ จึงขอเรียกร้องให้มาเล่นงานกับผู้สมัครดีกว่า อย่าไปรังแกประชาชนเลย เขาไม่รู้เรื่อง การไปข่มขู่เขา เช่นตอนไปฟังการปราศรัย พอเลิกต่างคนต่างกลับ แต่ประชาชนถูกค้นรถ ถามหาโพยรายชื่อ และเงินซื้อเสียง ทำให้เขาตกใจมาก และมีรถคอยขับตามตลอด ที่จำได้คือ รถหมายเลขทะเบียน 3288 รถโตโยต้า รุ่นฟอร์จูเนอร์ สีบรอนซ์เทา จะขับตามประชาชนในพื้นที่ อ.ชุมพวง กับ อ.ประทาย ข่มขู่เหลือเกินกับประชาชน ไม่ให้เขาไปไหนเลย รวมทั้งข้าราชการระดับสูงของจังหวัด คนนี้ขอบอกว่าเก่งมาก ได้ลงไปพื้นที่เชิญกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายก อบต.มาคุยให้มาช่วยพรรคโน้นพรรคนี้ แต่ไม่ให้ไปช่วยอีกพรรคหนึ่ง” ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ กล่าว

ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ กล่าวต่อว่า ขอเรียกร้องไปยัง กกต.กลาง ว่า ถ้าว่างมากก็ลงพื้นที่มาที่ จ.นครราชสีมา บ้าง ไปใช่ไปแต่ต่างประเทศหมดทั้ง 4 คน ส่วน กกต.จังหวัด ขอถามว่า เขาเป็นกลาง 100% หรือไม่ ที่รู้เรื่องนี้แล้วยังเฉยๆ ขนาดลูกชายคน คือ นายพลพีร์ ได้ไปแจ้งความเรื่องผู้ใหญ่บ้านเก็บบัตรประชาชน ซึ่งตอนนี้มีการเก็บบัตรประชาชน 2 แบบ คือ 1.เก็บไว้เพื่อจดชื่อ ให้เงิน กับ 2.เก็บไว้เพื่อไม่ให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง นี่เป็นวิชามารที่มีมากมายที่โคราช เกิดมาก็เพิ่งเคยได้ยิน

รวมทั้งผู้สมัครพรรคอื่นๆ ก็เจอเหตุการณ์ลักษณะเช่นเดียวกัน อย่างพรรคเพื่อไทย ก็อึดอัดเหมือนกันจึงได้เดินทางมาขอมีส่วนร่วมในการแถลงข่าวด้วย เพื่อต้องการสื่อให้ประชาชน สังคมทั้งประเทศได้รับทราบว่า มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นที่ จ.นครราชสีมา

“ขอบอกน้องๆ นักข่าวนะคะว่า พี่อึดอัดมาก การข่มขู่ ความไม่เป็นกลาง การคุกคามทางการเมือง มันไม่ใช่แล้ว โดยเฉพาะข้าราชการระดับสูงของจังหวัดทุกสมัย ไม่เคยมีใครปฏิบัติตัวอย่างนี้เลย เราได้รับข่าวรับฟังมาจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายก อบต.หรือแม้แต่ อสม.พี่น้องประชาชน นี่มันเกิดอะไรกันนักหนา และนายอำเภอในพื้นที่บางพื้นที่เป็นนายอำเภอสมัยใหม่เรียกขึ้นบนอำเภอแจกตังค์เองเลย บอกว่า ตำแหน่งข้างหน้ากำลังรออยู่ ฉะนั้นต้องช่วยผม พูดได้อย่างไรแบบนี้” ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ กล่าว

นอกจากนี้ ยังมีข้าราชการตำรวจระดับผู้กำกับการ (ผกก.) สถานีตำรวจแห่งหนึ่งในเขต อ.เมืองนครราชสีมา ถึงกับลงไปห้ามประชาชนไม่ให้ไปฟังการปราศรัยในเขต อ.โชคชัย ตนได้รับข้อมูลข่าวมาอย่างนี้ และเราถูกกลั่นแกล้งขนาดไหนก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน รวมทั้งข้าราชการระดับสูงในจังหวัด ตั้งแต่สมัยคุณพ่อ (นายเลิศ หงส์ภักดี อดีตผู้ว่าฯนครราชสีมา) มาไม่เคยมีใครกระทำตัวอย่างนี้ เราเป็นข้าราชการพลเรือนต้องมีความองอาจเป็นราชสีห์ ไม่ใช่เป็นแมว อยู่ใต้พรรคการเมืองพรรคใดพรรคหนึ่ง เพื่อความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานตนว่ามันคงไม่ถูกต้อง ฉะนั้น ขอให้ท่านเป็นราชสีห์ดีกว่า กระทรวงมหาดไทยไม่เคยทำตัวอย่างนี้ ข่าวนี้เรื่องจริงหรือเท็จให้ไปช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย

ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ กล่าวอีกว่า งานที่ท่านจะทำมีอยู่มากทั้งเรื่องการจัดการเรื่องโรงงานชำแหละไก่เน่า ซึ่งทำซ้ำเป็นครั้งที่ 2 แล้วไม่ดำเนินการ เรื่องปัญหาภัยแล้ง เพลี้ยแป้งกินต้นมันสำปะหลัง เรื่องปากท้องความเป็นอยู่ของประชาชนในบ้านในเมืองทำไมไม่ไปทำ กลับมายุ่งเรื่องทางการเมือง ผู้สมัครเขามีความอึดอัด และอย่ามาทำเลยกับประชาชน มาทำกับพวกเราที่เป็นผู้สมัครดีกว่า เดี๋ยวนี้มือปืนเต็มโคราชแล้วไปดูเถอะ กระทรวงมหาดไทยทำอะไร ข้าราชการตำรวจทำอะไร ขอถามแค่นี้

อย่าคิดว่า ครอบครัวเราไม่มีคุณไพโรจน์ (ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี) แล้วทำอะไรไม่ได้ เราก็เรียกร้องความยุติธรรมเป็นเหมือนกัน จันทรุปราคาผ่านไปแล้ว แต่ยังไม่ผ่านจากโคราชสักที ฉะนั้น ขอฝากความยุติธรรม การข่มขู่อย่าเอามาใช้เลย เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ไม่ว่า ตำรวจหรือทหาร ขอเถอะว่าให้วางตัวเป็นกลาง ปล่อยให้ผู้สมัครใช้กลยุทธ์สู้กันเองดีกว่า มันจะสง่างามกว่า หากเป็นเช่นนี้แล้วเราจะมีประชาธิปไตยได้อย่างไร โคราชถูกจับตามากที่สุดเพราะเป็นจังหวัดที่มี ส.ส.ถึง 15 คน พรรคการเมืองแข่งกันไม่กี่พรรค ถ้าข้าราชการมหาดไทยหรือข้าราชการตำรวจวางตัวเป็นกลาง ซึ่งไม่ใช่ไปวางตัวอยู่ตรงกลางพรรคใดพรรคหนึ่ง มันไม่ใช่

“ถ้าปลุกพี่ไพโรจน์ขึ้นมาได้ ก็จะปลุกขึ้นมานั่งพูดแทนเลยคงจะแรงกว่านี้มาก ฉะนั้น ขอวิงวอนผ่านทางสื่อมวลชนด้วย ให้หาความยุติธรรมให้กับประชาชนในโคราช ถ้าผู้สมัครแข่งขันกัน แพ้คือแพ้ ชนะคือชนะ สู้กันเหมือนนักกีฬา แต่อย่าเอาภาครัฐมาข่มขู่อย่างนี้ไม่ถูกต้อง และอยากฝากสื่อไปเฝ้าดูบ้านข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ตลอด 24 ชั่วโมงสัก 3 วัน ดูว่าแต่ละคนออกไปทำอะไรบ้าง มีกิจกรรมหรือภารกิจอะไรที่ทำเพื่อพัฒนาบ้านเมือง ดิฉันเป็นลูกนักปกครอง และเป็นภรรยานักปกครอง รับประกันได้เลยว่าโคราชไม่เคยมีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น เราไม่กลัวอำนาจรัฐ ถ้าอำนาจรัฐถูกต้องเราไม่ว่า แต่ถ้าอำนาจรัฐลงมาข่มขู่ประชาชนรับไม่ได้ พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดินเป็นพรรคของคนโคราช ผู้สมัคร ส.ส.เราเป็นคนโคราช หัวหน้าพรรคก็อยู่โคราช ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนโคราช” ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ กล่าว

ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่พูดทั้งหมดมีพยาน หลักฐาน แต่ผู้ให้ข้อมูลไม่สามารถเปิดเผยตัวได้เพราะไม่มีความปลอดภัย และถ้าไม่จริงตนก็ไม่กล้ามานั่งแถลงข่าวให้ทราบ เช่นนี้หรอก เพราะต้องถูกฟ้องแน่นอน ถูกสบประมาทแน่นอน แต่ที่กล้าออกมาเพื่ออยากให้สาธารณชนรู้ว่า ความเป็นธรรมไม่มี ความเป็นกลางไม่มี มีแต่ความเป็นกลางในพรรคการเมือง ไม่ใช่ความกลางทางการเมือง และตนก็ไม่จำเป็นต้องไปคุยกับข้าราชผู้ใหญ่คนนั้น และอยากถามว่าสิ่งที่เคยรับปาก กับ ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ มันมีความเป็นจริงแค่ไหนที่ผ่านมามีการเรียกกำนัน ผู้ใหญ่ เข้าไปหา ขู่ด้วยว่าถ้าไม่ทำตาม จะถูกปลดออกจากตำแหน่ง

การเปิดแถลงข่าวครั้งนี้ พวกเราไม่เกรงกลัวอิทธิพลอะไรแล้ว ถ้ากลัวก็ไม่ต้องมาเป็น ส.ส.แต่ถ้าท่านจะข่มขู่ขอให้มาข่มขู่ผู้สมัคร อย่าไปทำกับประชาชน อย่าไปรังแกเขา อย่าไปทำกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายก อบต., อสม.แม้แต่เมียกำนัน ผู้ใหญ่บ้านไปทำเขาได้อย่างไร

ขณะนี้ตนได้ทำเรื่องส่งคืนตำรวจที่ได้ขอให้มาคุ้มครองตั้งแต่ตอนแรกกลับไปทั้งหมดแล้ว ครอบครัวเราจะไม่ขอตำรวจเข้ามาคุ้มกันแน่นอน เพราะ เพราะเดี๋ยวจะหาว่าเราไม่เป็นกลาง เอาตำรวจมา เราขอดูแลตัวเองดีกว่า เรามีทีมงานของเราเอง และตำรวจมาก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร มาแล้วก็มาถ่ายวิดีโอทุกซอกทุกมุมเพื่อจะได้ไปรายงาน เราจึงมองว่าเอามาคุ้มครองหรือเอามาคอวจับผิดกันแน่ ฉะนั้นส่งกลับคืนไปดีกว่า และขอย้ำว่าการแถลงข่าวร่วมกับผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยวันนี้ เราไม่ได้ฮั้วอะไรกันเพียงแต่เป็นผู้ที่ต้องการความเป็นธรรมเท่านั้น

ด้าน นายซ้าย ผลกระโทก ผู้สมัคร ส.ส.เขต 10 นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 10 พบปัญหาข้าราชการวางตัวไม่เป็นกลาง โดยเฉพาะที่ อำเภอโชคชัย และ อ.หนองบุญมาก ทั้งนายอำเภอ กับปลัดอำเภออ้างเหตุจัดประชุมเรื่องเพลี้ยแป้ง แต่มีการบังคับให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านจดรายชื่อชาวบ้านเพื่อเตรียมที่จะซื้อเสียงในเขต 10 และในวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีนายตำรวจระดับหัวหน้าสถานี ได้ขับรถตราโล่สำนักงานตำรวจแห่งชาติไปกีดกันชาวบ้านไม่ให้มาฟังการปราศรัยของพรรคเพื่อไทยเขต 10 ที่บ้านกังถม ต.พระพุทธ ซึ่งนายตำรวจคนดังกล่าวเป็นคนสนิทของผู้สมัครคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคู่แข่งขันกันกับตน

“ฉะนั้นจึงขอร้องเรียนความเป็นธรรมตรงนี้ อยากให้ทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและฝ่ายตำรวจได้วางตัวเป็นกลางอย่างแท้จริง เพื่อความเสมอภาคของผู้สมัครทุกพรรคทุกฝ่าย” นายซ้าย กล่าว

ขณะที่ นายรชตะ ด่านกุล ผู้สมัคร ส.ส. เขต 15 นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย เขต 15 กล่าวว่า เขตนี้มีเรื่องข้าราชผู้ใหญ่เข้าไปกดดันกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้เปลี่ยนมาเลือกพรรคการเมืองพรรคหนึ่งโดยตลอด ตนมองว่า จริงๆ แล้วควรที่จะวางตัวให้เป็นกลาง เพื่อให้กระบวนการประชาธิปไตยเดินไปตามระบอบของมัน

ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรรฉวี  แกนนำ ชพน.
สองผู้สมัครฯ พท. โคราช


นายพลพีร์ สุวรรณฉวี ลูกชาย
กำลังโหลดความคิดเห็น