การเกิดจันทรุปราคาของวันที่ 16 มิถุนายน 2554 นี้มีหลากหลายมุมมองในกลุ่มการค้นคว้ารวมถึงสังคมอีกหลายส่วนก็จะได้รับข่าวสารในแง่ต่างๆอย่างมากมาย ซึ่งตามปกติการเกิดระบบการโคจรการเรียงตัวกันเป็นเส้นตรงของดวงอาทิตย์ โลกและดวงจันทร์นั้นในแต่ละปีก็มีให้เห็นเป็นระยะๆ ซึ่งเมื่อมองย้อนไปในอดีตการเกิดจันทรุปราคาชาวบ้านสมัยก่อนเรียกมันว่า กบกินเดือน หรือราหูอมจันทร์ ซึ่งในมุมของโหราศาสตร์พระจันทร์คือภพพันธุคือความมั่นคงเป็นตัวแทนของแผ่นดิน เมื่อพระจันทร์ถูกอิทธิพลของดาวราหูซึ่งเป็นดาวฝ่ายยักษา จึงทำให้ความมั่นคงภายในประเทศก็จะค่อยๆถูกการครอบงำจากเหล่าบรรดายักษาเพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งณ.ปัจจุบันนี้ดาวราหูสถิตอยู่ในราศีพิจิกซึ่งเป็นภพมรณะของดวงเมืองและได้ตำแหน่งเป็นมหาอุจจ์อันหมายถึงการแอบซ่อนแฝงตัวของเหล่ามาร อันแสดงให้เห็นตามนัยยะนี้ว่า กลุ่มพญามารร้ายทำลายเมืองกำลังคืบคลานเข้ามาใกล้ตัวเรามากขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะหลังจากนี้ไป อิทธิพลของดาวยักษาราหูก็จะยิ่งทวีคูณความร้ายการทำลาย การกอบโกยและโกงกินแบบรูปธรรมโดยสร้างความชอบธรรมจะบังเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้
ยิ่งเมื่อผนวกระยะเวลาของการบริหารบ้านเมืองในรัฐบาลชุดใหม่เข้าด้วยแล้วยิ่งทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าคณะผู้บริหารงานบ้านเมืองชุดใหม่ภายใต้อิทธิพลของดาวร้ายที่กำลังเข้าครอบงำจะทำให้เกิดความแตกแยก เกิดอภิมหากลโกงและเกิดการเห็นถูกเป็นผิดเห็นผิดเป็นถูกคนดีๆจะถูกกดขี่และทำลายคนร้ายๆจะถูกเชิดชูให้เป็นฮีโร่ ถึงแม้จะมีดาวดีๆคือดาวพฤหัสบดีโคจรเข้าทับลัคนาแต่กระนั้นดาวพฤหัสโคจรมาเที่ยวนี้กลับเดินถอยหน้าถอยหลังหมดแรงหมดพลังเป็นระยะ อันหมายถึงตัวช่วยหรือความถูกต้องจะถูกชักเข้าชักออก มีความพยายามจะยับยั้งคนเลวแต่ก็เพียงชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้นเพราะดาวพฤหัสมาช่วยแค่เพียงปีเดียวแต่ยักษาราหูนั้นสถิตย์สิงอยู่ถึงปีครึ่ง อันจะนำมาซึ่งกลุ่มคนโกงชาติบ้านเมืองจะดำเนินนโยบายหักล้างถางพง ดึงพรรคพวกเดียวกันตั้งแต่ปลายจรดหัวขึ้นมามีอำนาจใหม่อีกครั้ง
อยุธยาไม่สิ้นคนดีฉันใดกรุงรัตนโกสินทร์แต่ไรมาก็มิสิ้นคนดีคนรักชาติบ้านเมืองอย่างแท้จริงฉันนั้น มิเช่นนั้นก็คงจะต้องสิ้นชาติบ้านเมืองอันเนื่องมาจากมรสุมทั้งศึกนอกศึกในมาแล้วตั้งหลายครา อันดาวราหูที่เคลื่อนตัวคืบมาอย่างช้าๆถึงแม้จะมีความร้ายกาจเพียงใดแต่ด้วยพื้นการวางฤกษ์พระชะตาดวงเมืองไทยราชวงศ์จักรีแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ด้วยพระบรมราชวินิจฉัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชรัชกาลที่๑ ซึ่งโปรดให้ดาวอาทิตย์ซึ่งเป็นตัวแทนของพระมหากษัตริย์และประชาชนผู้จงรักภักดีเป็นมหาอุจจ์กุมลัคนาคือมีกำลังอันสูงสุดตั้งแต่ต้นมา เปรียบเสมือนร่างกายคนเราเมื่อยามเกิดมาตั้งแต่แรกมีภูมิต้านทานต่อโรคดีมีความแข็งแรงอย่างที่สุดตั้งแต่ต้น เมื่อยามเข้าเคราะห์โรคภัยเข้ามาเยือนบ้าง เชื้อโรคบางชนิดปลิวเข้ามาให้ป่วยไข้บ้าง เมื่อถึงยามฤกษ์ผาเวลาดีมีพลังจะด้วยภูมิคุ้มกันต่อโรคก็คือความจงรักภักดีต่อบ้านเมือง ด้วยยาดีก็คือประชาชนผู้ที่รักเทิดทูนและหวงแหนรวมถึงปกป้องต่อพระมหากษัตริย์จะเป็นยามที่ดาวร้าย ดวงเคราะห์หรือจะเกิดพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกราหูอมก็มิอาจทำให้คนไทยและประเทศไทยเกิดภัยพิบัติอันจะหาทางแก้ทางออกมิได้เลยนั้นไม่มีทาง...
ถ้าพูดถึงผลกระทบที่มีต่อบุคคลในแต่ละราศีนั้นมีดังนนี้ครับ ชาวราศีเมษ ราศีพฤษภ ราศีเมถุนจะมีการเปลี่ยนแปลงชีวิตครั้งใหม่เช่นเปลี่ยนงาน ย้ายที่อยู่เปลี่ยนแฟน ส่วนราศีพิจิกราศี ราศีกุมภ์จะเกิดความเครียดมีความทุกข์ความเดือดร้อนกายและใจครั้งใหญ่หลังจากนั้นชีวิตจะดีขึ้นมีสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตที่มีความสุขและคนเกิดราศีตุลย์ ราศีมังกรและราศีกรกฎจะประสบความสำเร็จในชีวิตได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งมีคนช่วยเหลืออุปถัมภ์มีโชคลาภครั้งใหญ่ในชีวิต
เหตุจันทรุปราคาต่อสภาพดินฟ้าของโลก เราจะเห็นอดีตอันใกล้ๆที่ผ่านมาว่าโลกเราระยะหลังๆเสมือนคนป่วยที่กำลังจะคายพิษระบายพลังงานที่อัดอั้นออกมา ดังเห็นได้จากภัยพิบัติอันต่อเนื่องครั้งแล้วครั้งเล่าและถี่ขึ้นอย่างน่ากลัว ซึ่งตามหลักโหราศาสตร์การเกิดจันทคราสไปแล้วสักระยะไม่เกินสามเดือนอันสัมพันธ์ของพลังงานและการเชื่อมโยงระบบเชิงมุมของดาวพระอาทิตย์๑ซึ่งโคจรอยู่ในราศีเมถุน พระจันทร์๒โคจรเข้าราศีธนูและพระราหู๘โคจรอยู่ในราศีพิจิก จะทำให้จากนี้ไปไม่เกินสามเดือนคือช่วงวันที่ 16 มิถุนายนจนถึง16 กันยายน จะเกิดพายุใหญ่ เกิดน้ำท่วมหนักแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงรวมถึงสึนามิจนมีผู้บาดเจ็บล้มตายจำนวนมา สิ่งก่อสร้างพังทลายเกิดการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ถือเป็นหายนะของโลกอีกครั้งหนึ่งในปีนี้ซึ่งเมื่อมองย้อนไปในระยะอันใกล้จะเห็นอิทธิพลของการเกิดราหูอมจันทร์แล้วเกิดภัยพิบัติรุนแรงตามมาดังนี้
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 6 ส.ค. 52 ซึ่งเป็นวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 9 เกิดจันทรุปราคาขึ้นหลังจากนั้นวันเดียว คือวันที่
-7 สิงหาคม – พายุไต้ฝุ่นมรกต เคลื่อนที่เข้าถล่มไต้หวัน ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ และเป็นน้ำท่วมครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบ 50 ปีของไต้หวัน
-2 กันยายน - เกิดแผ่นดินไหวที่ชวาตะวันตก พ.ศ. 2552 ขนาด 7.0 ริกเตอร์ ที่จังหวัดชวาตะวันตก ประเทศอินโดนีเซีย
-26 - 30 กันยายน พายุไต้ฝุ่นกิสนา (กฤษณา) พัดผ่านกรุงมะนิลาบนเกาะลูซอนทางตอนเหนือของ ประเทศฟิลิปปินส์ จากนั้นได้เพิ่มความรุนแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น พัดถล่มเวียดนาม กัมพูชา ลาว และไทย
-29 กันยายน - เกิดแผ่นดินไหวที่ซามัว พ.ศ. 2552 ขนาด 8.0 ริกเตอร์ ใกล้หมู่เกาะซามัว ทำให้เกิดคลื่นสึนามิพัดถล่มเกาะซามัวและบริเวณโดยรอบ
-30 กันยายน - เกิดแผ่นดินไหวที่สุมาตรา พ.ศ. 2552 ขนาด 7.9 ริกเตอร์ นอกชายฝั่งเกาะสุมาตราใกล้เมืองปาดัง ประเทศอินโดนีเซีย
ต่อมาเมื่อวันปีใหม่ที่ 1 มกราคม 2553 เกิดจันทคราสอีกครั้งโดยหลังจากนั้นอีกไม่ถึงสองสัปดาห์คือเมื่อ
-13 มกราคม 2553 เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.3 ริกเตอร์ ใกล้กับกรุงปอร์โตแปรงซ์ ประเทศเฮติ ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 230,000 คน
และล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2553 เกิดจันทรุปราคาอีกครั้งในช่วงปลายปีหลังจากนั้นไม่นานได้เกิดทั้งแผ่นดินไหว โคลนถล่มและสึนามิขึ้นเมื่อ
-11 มกราคม2554 - อุทกภัยและโคลนถล่มในรัฐรีโอเดจาเนโรของบราซิล ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 845 คน
-22 กุมภาพันธ์ - เกิดแผ่นดินไหวความรุนแรง 6.3 แมกนิจูด ที่เมืองไครสต์เชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์
-11 มีนาคม - เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 9.0 แมกนิจูดบริเวณตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นทำ ให้เกิดคลื่นสึนามิพัดเข้าถล่มตามมา มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 13,000 คน และอีก 14,000 คนหายสาบสูญ
จะเห็นได้ว่าความสัมพันธ์ต่างๆที่เกิดมันมีผลต่อเนื่องและสอดคล้องกันทั้งในสถิติและมุมดาวอยู่ที่ว่าจะใช้ศาสตร์ใดมาค้นหาคำตอบ นั่นแปลว่าหลังการเกิดจันทรุปราคาในวันที่ 16 มิถุนายน 2554 นี้ไม่เกินสามเดือนประเทศที่ต้องระมัดระวังและต้องป้องกันภัยพิบัติครั้งนี้ก็คือประเทศทางอเมริกาใต้ อาทิเช่นอาร์เจนตินา ชิลี อุรุกกวัย โคลัมเบีย เอกวาดอร์ เวเนซุเอลา โบลิเวีย รวมถึงอิทธิพลของเส้นพาดผ่านของจันคราสทั้งอังกฤษ เยอรมัน โปตุเกส สเปน โปแลนด์ นอร์เวย์ สวีเดนมาจนถึงรัสเซียและทวีปในเอเชียอันได้แก่จีน ไต้หวัน ฮ่องกงเกาหลี ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซียและประเทศไทย ขอพระสยามเทวาธิราชได้ปกปักษ์รักษาประชาชนรวมถึงบ้านเรือนให้อยู่รอดปลอดภัยแล้วแคล้วคลาดจากภัยพิบัติและนักการเมืองที่โกงชาติโกงเมืองด้วยเทอญ
ยิ่งเมื่อผนวกระยะเวลาของการบริหารบ้านเมืองในรัฐบาลชุดใหม่เข้าด้วยแล้วยิ่งทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าคณะผู้บริหารงานบ้านเมืองชุดใหม่ภายใต้อิทธิพลของดาวร้ายที่กำลังเข้าครอบงำจะทำให้เกิดความแตกแยก เกิดอภิมหากลโกงและเกิดการเห็นถูกเป็นผิดเห็นผิดเป็นถูกคนดีๆจะถูกกดขี่และทำลายคนร้ายๆจะถูกเชิดชูให้เป็นฮีโร่ ถึงแม้จะมีดาวดีๆคือดาวพฤหัสบดีโคจรเข้าทับลัคนาแต่กระนั้นดาวพฤหัสโคจรมาเที่ยวนี้กลับเดินถอยหน้าถอยหลังหมดแรงหมดพลังเป็นระยะ อันหมายถึงตัวช่วยหรือความถูกต้องจะถูกชักเข้าชักออก มีความพยายามจะยับยั้งคนเลวแต่ก็เพียงชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้นเพราะดาวพฤหัสมาช่วยแค่เพียงปีเดียวแต่ยักษาราหูนั้นสถิตย์สิงอยู่ถึงปีครึ่ง อันจะนำมาซึ่งกลุ่มคนโกงชาติบ้านเมืองจะดำเนินนโยบายหักล้างถางพง ดึงพรรคพวกเดียวกันตั้งแต่ปลายจรดหัวขึ้นมามีอำนาจใหม่อีกครั้ง
อยุธยาไม่สิ้นคนดีฉันใดกรุงรัตนโกสินทร์แต่ไรมาก็มิสิ้นคนดีคนรักชาติบ้านเมืองอย่างแท้จริงฉันนั้น มิเช่นนั้นก็คงจะต้องสิ้นชาติบ้านเมืองอันเนื่องมาจากมรสุมทั้งศึกนอกศึกในมาแล้วตั้งหลายครา อันดาวราหูที่เคลื่อนตัวคืบมาอย่างช้าๆถึงแม้จะมีความร้ายกาจเพียงใดแต่ด้วยพื้นการวางฤกษ์พระชะตาดวงเมืองไทยราชวงศ์จักรีแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ด้วยพระบรมราชวินิจฉัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชรัชกาลที่๑ ซึ่งโปรดให้ดาวอาทิตย์ซึ่งเป็นตัวแทนของพระมหากษัตริย์และประชาชนผู้จงรักภักดีเป็นมหาอุจจ์กุมลัคนาคือมีกำลังอันสูงสุดตั้งแต่ต้นมา เปรียบเสมือนร่างกายคนเราเมื่อยามเกิดมาตั้งแต่แรกมีภูมิต้านทานต่อโรคดีมีความแข็งแรงอย่างที่สุดตั้งแต่ต้น เมื่อยามเข้าเคราะห์โรคภัยเข้ามาเยือนบ้าง เชื้อโรคบางชนิดปลิวเข้ามาให้ป่วยไข้บ้าง เมื่อถึงยามฤกษ์ผาเวลาดีมีพลังจะด้วยภูมิคุ้มกันต่อโรคก็คือความจงรักภักดีต่อบ้านเมือง ด้วยยาดีก็คือประชาชนผู้ที่รักเทิดทูนและหวงแหนรวมถึงปกป้องต่อพระมหากษัตริย์จะเป็นยามที่ดาวร้าย ดวงเคราะห์หรือจะเกิดพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกราหูอมก็มิอาจทำให้คนไทยและประเทศไทยเกิดภัยพิบัติอันจะหาทางแก้ทางออกมิได้เลยนั้นไม่มีทาง...
ถ้าพูดถึงผลกระทบที่มีต่อบุคคลในแต่ละราศีนั้นมีดังนนี้ครับ ชาวราศีเมษ ราศีพฤษภ ราศีเมถุนจะมีการเปลี่ยนแปลงชีวิตครั้งใหม่เช่นเปลี่ยนงาน ย้ายที่อยู่เปลี่ยนแฟน ส่วนราศีพิจิกราศี ราศีกุมภ์จะเกิดความเครียดมีความทุกข์ความเดือดร้อนกายและใจครั้งใหญ่หลังจากนั้นชีวิตจะดีขึ้นมีสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตที่มีความสุขและคนเกิดราศีตุลย์ ราศีมังกรและราศีกรกฎจะประสบความสำเร็จในชีวิตได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งมีคนช่วยเหลืออุปถัมภ์มีโชคลาภครั้งใหญ่ในชีวิต
เหตุจันทรุปราคาต่อสภาพดินฟ้าของโลก เราจะเห็นอดีตอันใกล้ๆที่ผ่านมาว่าโลกเราระยะหลังๆเสมือนคนป่วยที่กำลังจะคายพิษระบายพลังงานที่อัดอั้นออกมา ดังเห็นได้จากภัยพิบัติอันต่อเนื่องครั้งแล้วครั้งเล่าและถี่ขึ้นอย่างน่ากลัว ซึ่งตามหลักโหราศาสตร์การเกิดจันทคราสไปแล้วสักระยะไม่เกินสามเดือนอันสัมพันธ์ของพลังงานและการเชื่อมโยงระบบเชิงมุมของดาวพระอาทิตย์๑ซึ่งโคจรอยู่ในราศีเมถุน พระจันทร์๒โคจรเข้าราศีธนูและพระราหู๘โคจรอยู่ในราศีพิจิก จะทำให้จากนี้ไปไม่เกินสามเดือนคือช่วงวันที่ 16 มิถุนายนจนถึง16 กันยายน จะเกิดพายุใหญ่ เกิดน้ำท่วมหนักแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงรวมถึงสึนามิจนมีผู้บาดเจ็บล้มตายจำนวนมา สิ่งก่อสร้างพังทลายเกิดการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ถือเป็นหายนะของโลกอีกครั้งหนึ่งในปีนี้ซึ่งเมื่อมองย้อนไปในระยะอันใกล้จะเห็นอิทธิพลของการเกิดราหูอมจันทร์แล้วเกิดภัยพิบัติรุนแรงตามมาดังนี้
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 6 ส.ค. 52 ซึ่งเป็นวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 9 เกิดจันทรุปราคาขึ้นหลังจากนั้นวันเดียว คือวันที่
-7 สิงหาคม – พายุไต้ฝุ่นมรกต เคลื่อนที่เข้าถล่มไต้หวัน ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ และเป็นน้ำท่วมครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบ 50 ปีของไต้หวัน
-2 กันยายน - เกิดแผ่นดินไหวที่ชวาตะวันตก พ.ศ. 2552 ขนาด 7.0 ริกเตอร์ ที่จังหวัดชวาตะวันตก ประเทศอินโดนีเซีย
-26 - 30 กันยายน พายุไต้ฝุ่นกิสนา (กฤษณา) พัดผ่านกรุงมะนิลาบนเกาะลูซอนทางตอนเหนือของ ประเทศฟิลิปปินส์ จากนั้นได้เพิ่มความรุนแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น พัดถล่มเวียดนาม กัมพูชา ลาว และไทย
-29 กันยายน - เกิดแผ่นดินไหวที่ซามัว พ.ศ. 2552 ขนาด 8.0 ริกเตอร์ ใกล้หมู่เกาะซามัว ทำให้เกิดคลื่นสึนามิพัดถล่มเกาะซามัวและบริเวณโดยรอบ
-30 กันยายน - เกิดแผ่นดินไหวที่สุมาตรา พ.ศ. 2552 ขนาด 7.9 ริกเตอร์ นอกชายฝั่งเกาะสุมาตราใกล้เมืองปาดัง ประเทศอินโดนีเซีย
ต่อมาเมื่อวันปีใหม่ที่ 1 มกราคม 2553 เกิดจันทคราสอีกครั้งโดยหลังจากนั้นอีกไม่ถึงสองสัปดาห์คือเมื่อ
-13 มกราคม 2553 เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.3 ริกเตอร์ ใกล้กับกรุงปอร์โตแปรงซ์ ประเทศเฮติ ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 230,000 คน
และล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2553 เกิดจันทรุปราคาอีกครั้งในช่วงปลายปีหลังจากนั้นไม่นานได้เกิดทั้งแผ่นดินไหว โคลนถล่มและสึนามิขึ้นเมื่อ
-11 มกราคม2554 - อุทกภัยและโคลนถล่มในรัฐรีโอเดจาเนโรของบราซิล ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 845 คน
-22 กุมภาพันธ์ - เกิดแผ่นดินไหวความรุนแรง 6.3 แมกนิจูด ที่เมืองไครสต์เชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์
-11 มีนาคม - เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 9.0 แมกนิจูดบริเวณตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นทำ ให้เกิดคลื่นสึนามิพัดเข้าถล่มตามมา มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 13,000 คน และอีก 14,000 คนหายสาบสูญ
จะเห็นได้ว่าความสัมพันธ์ต่างๆที่เกิดมันมีผลต่อเนื่องและสอดคล้องกันทั้งในสถิติและมุมดาวอยู่ที่ว่าจะใช้ศาสตร์ใดมาค้นหาคำตอบ นั่นแปลว่าหลังการเกิดจันทรุปราคาในวันที่ 16 มิถุนายน 2554 นี้ไม่เกินสามเดือนประเทศที่ต้องระมัดระวังและต้องป้องกันภัยพิบัติครั้งนี้ก็คือประเทศทางอเมริกาใต้ อาทิเช่นอาร์เจนตินา ชิลี อุรุกกวัย โคลัมเบีย เอกวาดอร์ เวเนซุเอลา โบลิเวีย รวมถึงอิทธิพลของเส้นพาดผ่านของจันคราสทั้งอังกฤษ เยอรมัน โปตุเกส สเปน โปแลนด์ นอร์เวย์ สวีเดนมาจนถึงรัสเซียและทวีปในเอเชียอันได้แก่จีน ไต้หวัน ฮ่องกงเกาหลี ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซียและประเทศไทย ขอพระสยามเทวาธิราชได้ปกปักษ์รักษาประชาชนรวมถึงบ้านเรือนให้อยู่รอดปลอดภัยแล้วแคล้วคลาดจากภัยพิบัติและนักการเมืองที่โกงชาติโกงเมืองด้วยเทอญ
