โสภณ องค์การณ์
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์
ถ้าเจ้าหน้าที่บ้านเมืองยังมีจิตสำนึกยึดมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่เพื่อผลประโยชน์ของแผ่นดิน เราคงไม่ต้องเห็นสภาพน่าอนาถเช่นทุกวันนี้ เป็นความเสี่ยงต่อวิกฤติการเมือง เศรษฐกิจ สังคม นำไทยไปสู่รัฐล้มเหลว
ข้าราชการ คนดี มีศักดิ์ศรี เกียรติภูมิ ต้องทนก้มหน้าด้วยความอดสู ดูสภาพตัวเองเหมือนไม่ซีก ไม่กล้างัดไม้ซุงแห่งอำนาจและอิทธิพลให้คุณให้โทษ
กรณีนายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์เป็นตัวอย่าง! ถ้าไม่อดทน คงตัดสินใจลาออกจากราชการ เหมือนข้าราชการมหาดไทยรุ่นก่อนซึ่งไม่ยอมก้มหัวสยบให้นักการเมืองสารเลวเส็งเคร็ง หน้าด้าน จ้องแต่จะโกงบ้านกินเมืองคำโต
ทุกวันนี้ข้าราชการ แม่ทัพนายกอง เปิดปากพูดแต่ละครั้งชาวบ้านรู้ได้ทันทีว่าเป็นคนอย่างไร! ถ้าไม่ปกป้อง ให้ท้ายคนชั่ว อาชญากรในวงการเมือง ก็ทำตัวเป็นกลุ่มสูงส่งในจุดยืน เป็นกลาง ไม่เข้าข้างใคร แต่ไม่ทำอะไรเช่นกัน
ชาวบ้านรู้ว่าการเป็นกลางคือ “แทงกั๊ก” ดูทิศทาง ลมบนลมล่าง ว่าจะไปทางไหน รอเข้าข้างผู้ชนะ ไม่ให้หลุดจากกระแสอำนาจและโอกาสก้าวหน้า ถ้าเป็นพรรคการเมือง การเลือกข้างผิดจะเสียหายร้ายแรงถึงขั้นอดอยากปากแห้ง
พูดแก้ตัว แก้เกี้ยว เบี่ยงเบนประเด็น เป็นแนวทางเพื่อเอาตัวรอด! เราได้รับรู้พฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม หาเหตุผลสารพัดมาอ้างเพื่อรักษาสภาพของตัวเอง ช่วยเหลือทุรชนให้รอดคดี ไร้ศักดิ์ศรีและยางอาย
เราได้รับรู้ขบวนการสีกากีแปรสภาพเป็นแตงโม ยึดมั่นพฤติกรรมกากี ละเลยหน้าที่ หรือทำเกินขอบเขต สร้างความอยุติธรรมในสังคม ดังเช่นอัยการบางกลุ่ม ซึ่งขาดจิตสำนึกในการใช้กฎหมายผดุงความเที่ยงธรรม
ถ้ากระบวนการยุติธรรมขั้นต้น ขั้นกลาง เบี่ยงเบนเพื่อผลประโยฃน์ ยอมก้มหัวให้อำนาจชั่วร้าย ชาวบ้านพึ่งพาใครไม่ได้ บ้านเมืองวุ่นวายไร้ขือแป
ทุกวันนี้ ถ้าไม่หาเรื่องทำคดีกลั่นแกล้งผู้อื่น หวังรับใช้กลุ่มอิทธิพล ก็ใช้คำพูดหาเหตุต่างๆ เพื่อไม่ต้องทำหน้าที่! ขาดความกระเหี้ยนกระหือรือในการเอาตัวอาชญากรมารับโทษตามกระบวนการยุติธรรม อ้างว่าไม่อยู่ในอำนาจ
กรณี “ปู” คู่แด๊นซ์ของ “กี้ร์ อมฮอลล์” นัวเนียสร้างความฮือฮานั้นเป็นกรณีศึกษาสำหรับเจ้าหน้าที่ซึ่งแข่งกันปัดสวะให้พ้นตัว! อัยการ ดีเอสไอและ ป.ป.ช. เหมือนเจอถ่านไฟร้อนกระเด็นตกใส่หน้าตัก โบ้ยกันไปมา
เมื่อหน่วยงานเหล่านี้อ้างว่าไม่ใช่หน้าที่ของตัวเอง ต้องบอกให้ชัดว่าเป็นหน้าที่ของใคร! ในความเอื่อยเฉื่อย แย่งกันไม่ขอรับงานนั้น ยังมีหน่วยงาน กลต. กระเหี้ยนกระหือรือออกมาอธิบายกรณี “ปู” ผู้ถือหุ้นแทนเหลี่ยมร้าย
ไม่มีใครถาม ก็ดันทุรังออกมาเจ๋อ! ย้ำพฤติกรรมเอื้ออาทรซ้ำซากในการช่วยเหลือขบวนการโจรในตลาดหุ้น ผู้บริหารฉาวโฉ่ จนไม่เหลือความน่าเชื่อถือ
ผู้บริหารองค์กรแห่งนี้ได้อาสาเป็นพยานให้การช่วยเหลือจำเลยหรือผู้ถูกร้อง ในคดีที่รัฐเป็นโจทย์ และผู้เสียหาย! ไม่เล่นงานตัวการใหญ่ในคดีหุ้น
สุดยอดคลาสสิค คือ กกต. ผู้รับผิดชอบการเลือกตั้งด้วยงบประมาณ 3.8 พันล้านบาท! เกิดข่าวฉาวเรื่องซื้อเสียงในหลายพื้นที่ มีแต่ กกต. เท่านั้นไม่รู้เรื่อง! มีคดีในศรีสะเกษ และบุรีรัมย์ ยังยื้อให้ยืดเยื้อ ชาวบ้านก็หน่ายเซ็ง
ชาวบ้านสงสัยว่า กกต. ผู้เกี่ยวข้องเปี่ยมด้วยความสามารถยังพยายามหาเหตุผลในการดำเนินคดี หรือหาช่องทางเพื่อไม่ต้องทำคดีกันแน่!
ถ้า กกต. ล้มเหลวในการกลั่นกรองให้มีแต่คนดี ไร้มลทินมาสมัครผู้แทน เท่ากับให้ประชาชนมีทางเลือกเพียง “เอาพวกเลว” หรือ “เลวกว่า” ความผิดพลาด หรือการละเลยหน้าที่ สร้างความเสียหายอย่างมากต่อบ้านเมือง
กรณีเหลี่ยมมอนเตเนโกร หนีคุกไทยอยู่เมืองดูไบยังบงการพรรคการเมือง กกต. ยังไม่พิจารณาว่าเป็นการละเมิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่
กอ.รมน. ได้งบประมาณก้อนใหญ่ทุกปีสำหรับงานด้านความมั่นคงทั้งลับและไม่ลับ! วันดีคืนดีมีสื่อฝรั่งมาเสนอข่าวว่าในภาคอีสานมีหมู่บ้านแดงเกลื่อน ชาวบ้านเลือกสีแดงเป็นเชิงสัญลักษณ์ของการไม่ยอมรับรัฐบาลกลาง
แสดงว่าเป็นความล้มเหลวในโครงสร้างของระบบข่าวกรอง เพราะเรื่องหมู่บ้านแดงนั้นอยู่อย่างเปิดเผย ไม่ซ่อนเร้น ดูรัฐบาลแล้วช่างไร้ราคาจริงๆ
เมื่อเจ้าหน้าที่ไม่ทำหน้าที่ รักษากฎหมายทุรชนย่อมได้ใจ คนดีต่างหลีกหนี กลัวอิทธิพลเถื่อน กลไก กติกาของบ้านเมืองไร้ความศรัทธา ไม่น่าเชื่อถือ
ป้ายหาเสียงของนักการเมือง 2 ฟากถนนทั่วประเทศสะท้อนให้เห็นความพิสดารของโครงสร้างการได้มาซึ่งอำนาจรัฐ และพวกแย่งชิงเก้าอี้สภา!
กลุ่มบุคคลมีเงินก้อนใหญ่มาจากแหล่งใดไม่ปรากฏ ใช้เป็นทุนโฆษณาตัวเอง จ้างวาน ระดมพล ซื้อเสียงแบบไม่ได้เล่ห์ก็เอาด้วยกลทุกรูปแบบ โดยมีงบประมาณแผ่นดินแต่ละปีเป็นเดิมพัน! จ่ายซื้อเสียงครั้งเดียว อยู่ได้นาน 4 ปี
ผู้มีหน้าที่รักษากฎหมายไม่อยากมีปัญหากับผู้กุมอำนาจ! เมื่อถูกท้วงติงก็เดือดแค้น! โบ้ยความผิดให้ผู้อื่น เรียกร้องให้ประชาชนจัดการปัญหาเอาเอง! เมื่อเป็นเช่นนี้ทำไมชาวบ้านต้องทนกับพวกหอกชำรุดด้วยนิ! อิอิอิ!!!