ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- โคราชขุดพบโครงกระดูกมนุษย์โบราณสมบูรณ์ที่สุด พร้อมหลักฐานทางประวัติศาสตร์สำคัญอื้อ ระบุอยู่ใน “ยุคเหล็ก” อายุ 2,500 ปี ชี้ เป็นโครงกระดูกของผู้มีฐานะดี หรือหัวหน้าเผ่า เหตุพบเครื่องประดับทำจากสำริด และอาวุธฝังร่วมกับศพด้วย ถือเป็นการค้นพบครั้งสำคัญทางประวัติศาสตร์ของประเทศไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสริยา ทรรทรานนท์ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย อ.พิมาย จ.นครราชสีมา พร้อม นายดุสิต ทุมมากรณ์ หัวหน้าอุทยานประวัติศาสตร์พิมาย และ นายคนึง ปลอดกระโทก นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ละลมใหม่พัฒนา ได้ร่วมกันตรวจสอบโครงกระดูกมนุษย์โบราณ ที่บริเวณทุ่งนา บ้านกุดจอกน้อย ม.6 ต.ละลมใหม่พัฒนา อ.โชคชัย จ.นครราชสีมาหลังได้รับแจ้งจาก นายนำ ปลอดกระโทก กำนันตำบลละลมใหม่พัฒนา อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ว่า มีชาวบ้านขุดพบโครงกระดูกมนุษย์โบราณ
นางสริยา ทรรทรานนท์ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่า โครงกระดูกมนุษย์โบราณมีสภาพสมบูรณ์ จำนวน 1 โครง ในพื้นที่รอบ ๆ การฝังเครื่องประดับที่ทำจากสำริด เช่น สร้อยคอสำริด กำไลสำริด และ อาวุธที่ทำจากเหล็ก เช่น มีดดาบ หรือ ใบหอก เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นโครงกระดูกมนุษย์ในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย หรือยุคเหล็ก มีอายุประมาณ 2,500 ปีมาแล้ว
โครงกระดูกมนุษย์ที่ขุดพบนี้ คาดว่า น่าจะเป็นโครงกระดูกมนุษย์ของผู้ที่มีฐานะ หรืออาจเป็นถึงผู้นำกลุ่ม ในสมัยนั้น เนื่องจากมีการฝังเครื่องประดับที่ทำจากสำริด ซึ่งการฝังศพเช่นนี้มักจะทำกันเฉพาะพิธีฝังศพของคนมีฐานะ หรือไม่ก็เป็นผู้นำกลุ่มเท่านั้น
สำหรับการขุดพบโครงกระดูกมนุษย์ครั้งนี้ ถือเป็นการขุดพบโบราณวัตถุทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญอีกชิ้นหนึ่งของประเทศไทย เพราะที่ผ่านมามีการขุดพบโครงกระดูกมนุษย์โบราณตามสถานที่ต่างๆ ทั่วไป แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ให้นำไปศึกษามากนัก แต่โครงกระดูกนี้เป็นโครงกระดูกที่ถือว่าสมบูรณ์ที่สุด และมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ให้น่าศึกษาหลายอย่าง ซึ่งภายในสัปดาห์หน้านี้จะให้เจ้าหน้าที่นักโบราณคดีผู้เชี่ยวชาญ จากสำนักศิลปากรที่ 12 นครราชสีมา เข้ามาขุดค้นเพื่อนำโครงกระดูกมนุษย์ที่ขุดพบและหลักฐานต่างๆ ไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ต้องขอความร่วมมือกับประชาชน ว่า ไม่ควรที่จะแตะต้องโครงกระดูกที่ขุดพบ หรือขุดเพิ่มเติมเด็ดขาด เนื่องจากเกรงว่าหากชาวบ้านขุดไม่ถูกวิธี อาจทำให้หลักฐานทางประวัติศาสตร์ได้รับความเสียหายได้ พร้อมกับได้ประสาน อบต.ละลมใหม่พัฒนา และผู้นำชุมชนในพื้นที่ให้จัดเจ้าหน้าที่คอยดูแลรักษาความปลอดภัยแหล่งขุดค้นตลอด 24 ชั่วโมง จนกว่าการขุดค้นของผู้เชี่ยวชาญจะเสร็จสิ้น
ด้าน นางใหญ่ สนปุระ เจ้าของที่นาที่ขุดพบโครงกระดูกมนุษย์โบราณ ดังกล่าว เล่าว่า ขณะที่ชาวบ้านได้มาช่วยกันขุดดินบนที่นาของตน เพื่อนำไปทำฝายกั้นน้ำในหมู่บ้าน เมื่อขุดลึกลงไปประมาณ 1.50 เมตร ก็ต้องตกใจ เพราะพบโครงกระดูกมนุษย์โบราณดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสริยา ทรรทรานนท์ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย อ.พิมาย จ.นครราชสีมา พร้อม นายดุสิต ทุมมากรณ์ หัวหน้าอุทยานประวัติศาสตร์พิมาย และ นายคนึง ปลอดกระโทก นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ละลมใหม่พัฒนา ได้ร่วมกันตรวจสอบโครงกระดูกมนุษย์โบราณ ที่บริเวณทุ่งนา บ้านกุดจอกน้อย ม.6 ต.ละลมใหม่พัฒนา อ.โชคชัย จ.นครราชสีมาหลังได้รับแจ้งจาก นายนำ ปลอดกระโทก กำนันตำบลละลมใหม่พัฒนา อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ว่า มีชาวบ้านขุดพบโครงกระดูกมนุษย์โบราณ
นางสริยา ทรรทรานนท์ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่า โครงกระดูกมนุษย์โบราณมีสภาพสมบูรณ์ จำนวน 1 โครง ในพื้นที่รอบ ๆ การฝังเครื่องประดับที่ทำจากสำริด เช่น สร้อยคอสำริด กำไลสำริด และ อาวุธที่ทำจากเหล็ก เช่น มีดดาบ หรือ ใบหอก เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นโครงกระดูกมนุษย์ในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย หรือยุคเหล็ก มีอายุประมาณ 2,500 ปีมาแล้ว
โครงกระดูกมนุษย์ที่ขุดพบนี้ คาดว่า น่าจะเป็นโครงกระดูกมนุษย์ของผู้ที่มีฐานะ หรืออาจเป็นถึงผู้นำกลุ่ม ในสมัยนั้น เนื่องจากมีการฝังเครื่องประดับที่ทำจากสำริด ซึ่งการฝังศพเช่นนี้มักจะทำกันเฉพาะพิธีฝังศพของคนมีฐานะ หรือไม่ก็เป็นผู้นำกลุ่มเท่านั้น
สำหรับการขุดพบโครงกระดูกมนุษย์ครั้งนี้ ถือเป็นการขุดพบโบราณวัตถุทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญอีกชิ้นหนึ่งของประเทศไทย เพราะที่ผ่านมามีการขุดพบโครงกระดูกมนุษย์โบราณตามสถานที่ต่างๆ ทั่วไป แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ให้นำไปศึกษามากนัก แต่โครงกระดูกนี้เป็นโครงกระดูกที่ถือว่าสมบูรณ์ที่สุด และมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ให้น่าศึกษาหลายอย่าง ซึ่งภายในสัปดาห์หน้านี้จะให้เจ้าหน้าที่นักโบราณคดีผู้เชี่ยวชาญ จากสำนักศิลปากรที่ 12 นครราชสีมา เข้ามาขุดค้นเพื่อนำโครงกระดูกมนุษย์ที่ขุดพบและหลักฐานต่างๆ ไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ต้องขอความร่วมมือกับประชาชน ว่า ไม่ควรที่จะแตะต้องโครงกระดูกที่ขุดพบ หรือขุดเพิ่มเติมเด็ดขาด เนื่องจากเกรงว่าหากชาวบ้านขุดไม่ถูกวิธี อาจทำให้หลักฐานทางประวัติศาสตร์ได้รับความเสียหายได้ พร้อมกับได้ประสาน อบต.ละลมใหม่พัฒนา และผู้นำชุมชนในพื้นที่ให้จัดเจ้าหน้าที่คอยดูแลรักษาความปลอดภัยแหล่งขุดค้นตลอด 24 ชั่วโมง จนกว่าการขุดค้นของผู้เชี่ยวชาญจะเสร็จสิ้น
ด้าน นางใหญ่ สนปุระ เจ้าของที่นาที่ขุดพบโครงกระดูกมนุษย์โบราณ ดังกล่าว เล่าว่า ขณะที่ชาวบ้านได้มาช่วยกันขุดดินบนที่นาของตน เพื่อนำไปทำฝายกั้นน้ำในหมู่บ้าน เมื่อขุดลึกลงไปประมาณ 1.50 เมตร ก็ต้องตกใจ เพราะพบโครงกระดูกมนุษย์โบราณดังกล่าว