วานนี้ (14 มิ.ย.) นายกรพจน์ อัศวินวิจิตร หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ และผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน (ชพน.) นำคณะผู้สมัคร ส.ส.กทม. ขึ้นรถแห่และเดินตลาดหาเสียงกับประชาชน ที่ตลาดวงศกร เขตสายไหม และตลาดยิ่งเจริญ เขตบางเขน โดยระหว่างที่คณะหาเสียงพักรับประทานอาหารกลางวันที่ตลาดยิ่งเจริญ ได้พบกับคณะของหลวงพ่ออลงกต ติกขปัญโญ (พระครูอุดมประชาทร) วัดพระบาทน้ำพุ ต.เขาสามยอด อ.เมือง จ.ลพบุรี น.ต.ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ได้นำอาหารไปถวาย
**ชูวิทย์"คึกคักบุกหาเสียง ม.หอการค้า
เวลา 11.45 น.วที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ลงพื้นที่หาเสียงเพื่อขอคะแนนจากนักศึกษากลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี นักศึกษาต่างเข้ามาขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกร่วมกับนายชูวิทย์นอกจากนี้ยังได้เปิดตัวเว็บไซต์ www.chuwitonline.com และ www.rukthailand.com เพื่อเป็นช่องทางในการหาเสียงผ่านสื่ออินเตอร์เน็ตและโซเชียลเน็ตเวิร์ก โดยคาดหวังว่าจะเป็นช่องทางที่จะถึงประชาชนกว่าล้านคน โดยเว็บไซต์ดังกล่าวจะรวบรวมข่าวและคลิปภาพกิจกรรมการตรวจสอบของนายชูวิทย์ ที่อัพเดตตลอดเวลา เพราะเห็นว่าในอนาคตการหาเสียงทางการเมือง อาจไม่จำเป็นต้องใช้ป้ายและโปสเตอร์หาเสียง แต่เปลี่ยนเวทีมาต่อสู้กันบนอินเตอร์เน็ต
ภายหลังการลงพื้นที่หาเสียง นายชูวิทย์ได้เข้าไปในร้านเปิดให้บริการอินเตอร์เน็ตย่านมหาวิทยาลัยหอการค้า เพื่อเปิดตัวเว็บไซต์ chuwitonline.com และ rukthailand.com ดังกล่าว ซึ่งเว็บดังกล่าวจะบรรจุรายละเอียดเกี่ยวกับนายชูวิทย์ นอกจากนี้ ยังเตรียมเปิดตัวหนังสือการเมืองแบบหมาๆ ซึ่งจะเป็นหนังสือเล่มใหม่ล่าสุด ในวันที่ 4 ก.ค. หลังเลือกตั้ง
** เตือน“เติ้ง”ระวังหัวใจวาย อยากเป็นรบ.
นายชูวิทย์ กล่าวถึงกรณีนายบรรหาร ศิลปอาชา ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาเดินหน้าแนวนโยบายปรองดอง โดยจัดละครปรองดองภาค 2 ว่า ถึงอย่างไรก็ต้องหลังเลือกตั้งวันที่ 4 ก.ค. ในระหว่างนี้เชื่อว่าคงเป็นแค่การพากันไปกินข้าว หรือหูฉลาม เป็นฉากซ้ำๆ ลีลาวนเวียนอยู่อย่างนี้ทำเป็นจีบกัน อย่างไรก็ตามคงจะตกลงกันมาแล้วตั้งแต่คืนวันที่ 3 ก.ค.
ทั้งนี้โดยส่วนตัวเชื่อว่าจะไม่มีการปรองดองเพราะทุกคนต่างแย่งชิงอำนาจรัฐ ทุกคนออกมาพูดว่าอยากปรองดองแต่แท้จริงอยากเป็นรัฐบาล ซึ่งตนไม่เข้าใจว่ารัฐสภามีทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน แต่ไม่มีใครอยากเป็นฝ่ายค้าน ทางที่ดีควรจะสลับกันเป็นฝ่ายค้านและรัฐบาล เพราะฝ่ายค้านจะทำให้รัฐบาลแข็งแกร่งจึงควรสลับกันไปมาเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบบ้าง อย่างไรก็ตามอยากแนะนำนายบรรหารให้เพลาๆ ลงหน่อย กลัวหัวใจจะวายเพราะอยากจะเป็นรัฐบาล
**ชี้ ปชป.มีแต่นักกฎหมาย เหมาะเป็นฝ่ายค้าน
นายชูวิทย์ กล่าวถึงบทบาทพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ตนพูดมาเสมอว่าเป็นเน็กกาทีพแอพโพส เพราะพรรคนี้มีแต่นักกฎหมายและทนายความ จึงมีความถนัดเรื่องการตรวจสอบ เหมาะสมที่จะเป็นฝ่ายค้าน ที่ผ่านมาตนได้เดินทางลงพื้นที่ภาคใต้ตรวจสอบการใช้จ่ายงบฯผู้ประสบภัย พบว่ารัฐบาลไม่ได้ทำงาน ยกตัวอย่างสะพานใน อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ได้รับความเสียหายมากว่า 2 เดือน แต่ยังซ่อมแซมไม่เสร็จ
เมื่อถามถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตอบโต้คนเสื้อแดงที่ไปโจมตีระหว่างการหาเสียงว่าดีแต่พูด นายชูวิทย์กล่าวว่า อยากแนะนำให้นายอภิสิทธิ์ก้มหน้าก้มตาหาเสียงไป ในช่วงนี้ยังพอทำคะแนนสู้กับเขาได้ แต่ต้องยอมรับว่ามีสิ่งผิดพลาดเกิดขึ้นในรัฐบาล โดยส่วนตัวตนกับพรรคประชาธิปัตย์มีสายสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แต่สิ่งที่ผ่านมา รัฐบาลอธิบายไม่ไหวจริงๆ ทั้งปัญหาค่าครองชีพ และปัญหาปากท้อง รวมถึงกรณีการบาดเจ็บล้มตายของประชาชน
**บิ๊กบังชี้ทหารไม่มีสิทธิยุ่งการเมือง
ที่อาคารซันทาวเวอร์ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ ลงพื้นที่ขอเสียงสนับสนุนจากผู้ค้าย่านดังกล่าว โดยทีมงานหาเสียงมี นางปิยะดา บุญยรัตกลิน ภริยาช่วยเดินแจกใบปลิว ทั้งนี้ยังร่วมหาเสียงย่านการค้าและช็อปปิ้งของพนักงานออฟฟิศ ด้านหลังอาคารสำนักงานใหญ่ การบินไทย ก่อนลงพื้นที่ย่านขายส่งตลาดโบ๊เบ๊ในช่วงบ่าย
พล.อ.สนธิกล่าวว่า ขณะนี้ถึงช่วงเวลาของพรรคการเมืองที่หาเสียงมาครึ่งทางแล้ว พรรคมาตุภูมิพยายามทำให้ดีที่สุด จะได้คะแนนเสียงมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับประชาชนในการที่จะตัดสินใจ ถ้าได้มากเราก็มีอำนาจในการต่อรองสูงขึ้น ส่วนการหารือกับแกนนำพรรคการเมืองต่างๆ ในการจัดตั้งรัฐบาลนั้น มีการพบปะพูดคุยกันอยู่แล้วในระดับหนึ่งบางเรื่องต้องรอตัวเลขที่ออกมา เป็นเรื่องของการทำความคุ้นเคยทางการเมืองกันธรรมดา ซึ่งพูดคุยกับทุกพรรค ไม่จำกัดแต่พรรคขนาดกลางและขนาดเล็ก ทั้งนี้ เรื่องการเมืองต้องพูดคุยกันทุกพรรคตลอดอยู่แล้ว สำหรับกระแสข่าวที่ระบุว่ามีการพูดคุยกับนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย เพื่อร่วมมือทางการเมืองนั้น เจอกันก็พูดคุยกันแบบคนรู้จักหลังๆ ไม่ค่อยได้เจอกัน
เมื่อถามว่า การเมืองจะต้องได้รับการยอมรับจากกองทัพหรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า “ทหารไม่มีสิทธิกำหนดในเรื่องพวกนี้ ทหารมีหน้าที่สร้างความเข้มแข็งให้กองทัพ ดูแลภารกิจของตนเองที่มีอยู่ ทั้งการป้องกันประเทศและรักษาความมั่นคงภายใน ก็ทำหน้าที่ของตัวเองไป อย่าไปออกความเห็นทางการเมือง ไม่ใช่หน้าที่ของกองทัพ แต่รัฐบาลและการเมืองเอง ต้องดูว่าปัญหาของบ้านเมืองเกิดอะไรบ้าง ควรคุยกับกองทัพเรื่องอะไร เราต้องแชร์ข้อมูลกันเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติบ้านเมือง”
นายพิเชรษฐ์ พัฒนโชติ สส.บัญชีรายชื่อพรรคมาตุภูมิ กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติที่ก่อนจะมีการเลือกตั้ง จะมีการจับขั้วทางการเมือง หรือจัดตั้งรัฐบาลไว้ล่วงหน้า สำหรับพรรคมาตุภูมินั้น หากมีการหารือ จะเป็นในระดับหัวหน้าพรรคเเละเลขาธิการพรรค ซึ่งทางพรรคมั่นใจว่า จะได้ที่นั่งในสภา 10 เสียงขึ้นไป
**กรพจน์ ปัดแบ่งเค้กขอ “พาณิชย์-คมนาคม”
อีกด้าน จากกระแสข่าวพรรคเล็ก-พรรคกลาง เดินเครื่องจัดเก้าอี้รัฐมนตรีแล้วนั้น นายกรพจน์ อัศวินวิจิตร หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ และผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน กล่าวปฏิเสธกรณีที่มีข่าวว่าแกนนำพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดินได้เจรจาขอโควต้ารัฐมนตรีกับพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อต่อรองเข้าร่วมรัฐบาล ว่า ตนไม่ทราบเรื่องดังกล่าว คงต้องสอบถาม นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค ส่วนตนขอทำหน้าที่ทำงานด้านเศรษฐกิจไห้พรรคไปก่อน เรื่องอื่นนั้นค่อยพูดภายหลัง
เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่ระบุว่านายกรพจน์จะได้รับตำแหน่ง รมช.พาณิชย์ หรือ รมช.คมนาคม นายกรพจน์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ
**“ชาญชัย” ชี้ข่าวโคมลอย จองเก้าอี้
นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน กล่าวถึงข่าวที่ระบุมีการจองเก้าอี้รัฐมนตรีต่างๆ โดยเชื่อว่าเป็นข่าวโคมลอย เพราะขณะนี้แต่ละพรรคยังไม่มีตัวเลขจำนวนส.ส.และยังไม่ได้เจรจาว่าจะเป็นรัฐบาลขั้วไหน จึงคาดว่ายังไม่ถึงเวลา สำหรับเวลาที่เหมาะสมที่แกนนำแต่ละพรรจะคุยถึงการร่วมรัฐบาลคือ หลังวันที่3 ก.ค.
“ชื่อชาญชัย ชัยรุ่งเรืองหายไปไหน เป็นถึงประธานที่ปรึกษาพรรค แล้วชื่อหายไปไหน ข่าวนี้น่าจะเป็นข่าวโคมลอย” นายชาญชัยกล่าว
**“ชุมพล” ยัน ยังไม่มีอะไรจริงๆ
นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า กระแสข่าวว่าพรรคขนาดเล็กและพรรคขนาดกลางส่งกระทรวงที่ต้องการดูแลไปยังแกนนำสองพรรคใหญ่แล้วนั้น ต้องขอขอบคุณที่ช่วยนำเสนอข่าว แต่ยังไม่มีอะไรจริงๆ ต้องรอหลังเลือกตั้ง ตนเป็นหัวหน้าพรรคยังไม่รู้อะไรเลย ไม่มีหรอก ยังไม่ได้คุยอะไร
**จ้องเดินเครื่องผสมพันธุ์รมต.
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านั้นมีกระแสข่าวถึงขั้นที่พรรคร่วมรัฐบาลเดิมได้มีการเตรียมจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรี ของพรรคตัวเองไว้หมดแล้ว โดยได้มีการพูดคุยทาบทามกันแบบหลวมๆกับแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำพรรคเพื่อไทยว่าหากเข้าร่วมรัฐบาลต้องการที่จะรับผิดชอบและดูแลกระทรวงใด ซึ่งหากพรรคเพื่อไทยได้ส.ส.มาเป็นอันดับหนึ่ง พรรคที่จะเชิญเข้าร่วมรัฐบาล คือ พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน
โดยพรรคชาติไทยพัฒนา ในสัดส่วนของนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ได้ขอโควต้าเก้าอี้ กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงกีฬาและการท่องเที่ยว พร้อมทั้งขอโค้วต้ากระทรวงพาณิชย์เพิ่มเติม เพื่อแก้ปัญหาสินค้าทางการเกษตร ทั้งระบบ ส่วนโควต้าในส่วนของพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา หากไม่ได้เสนอชื่อเป็นนายกฯ ก็จะขอสละสิทธิ์ตำแหน่งรมต.ให้กับลูกชายนายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ และขอเก้าอี้รมว.คมนาคมให้กับนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ ส่วนโควต้าของพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ได้ขอโคตารมว.พลังงานให้กับน.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรค และขอกระทรวงไอซีที ให้กับกลุ่มของนายไพโรจน์ สุวรรณฉวี รวมทั้งขอเก้าอี้เพิ่มเติมในกระทรวงพาณิชย์ ให้กับนายกรพจน์ อัศวินวิจิตร หัวหน้าทีมเศรษกิจของพรรค และรมช. คลัง หรือ รมช.คมนาคม ด้วย
**แบ่งสูตรหลายสูตรแลกกระทรวง
ทั้งนี้ หากพรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ พรรคประชาธิปัตย์เตรียมที่จะตั้งรัฐบาลแข่งทันที โดยจะเชิญพรรคภูมิใทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน พรรคมาตภูมิ และพรรคกิจสังคม ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเดิมเข้าร่วม โดยพรรคประชาธิปัตย์ มีเงื่อนไขว่า ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ต้องเว้นไว้ให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เท่านั้น และขอดูแลในกระทรวงหลัก ได้แก่ รองนายกฯด้านความมั่นคง กระทรวงการคลัง กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น โดยพรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ยังคงยื่นโควต้าเดิมที่เสนอให้แกนนำพรรคเพื่อไทยพิจารณา ส่วนพรรคภูมิใจไทย เสนอโควต้ากระทรวงเกรดเอเกือบทั้งหมด ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ ขณะที่พรรคกิจสังคมของนายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคกิจสังคม ยังคงโควต้ารมว.ทรัพยากรฯ และพรรคมาตุภูมิ ของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ที่จะต้องเข้ามาเบียดแทรกเก้าในกระทรวงด้านความมั่นคง อย่าง กระทรวงกลาโหม.
**ชูวิทย์"คึกคักบุกหาเสียง ม.หอการค้า
เวลา 11.45 น.วที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ลงพื้นที่หาเสียงเพื่อขอคะแนนจากนักศึกษากลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี นักศึกษาต่างเข้ามาขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกร่วมกับนายชูวิทย์นอกจากนี้ยังได้เปิดตัวเว็บไซต์ www.chuwitonline.com และ www.rukthailand.com เพื่อเป็นช่องทางในการหาเสียงผ่านสื่ออินเตอร์เน็ตและโซเชียลเน็ตเวิร์ก โดยคาดหวังว่าจะเป็นช่องทางที่จะถึงประชาชนกว่าล้านคน โดยเว็บไซต์ดังกล่าวจะรวบรวมข่าวและคลิปภาพกิจกรรมการตรวจสอบของนายชูวิทย์ ที่อัพเดตตลอดเวลา เพราะเห็นว่าในอนาคตการหาเสียงทางการเมือง อาจไม่จำเป็นต้องใช้ป้ายและโปสเตอร์หาเสียง แต่เปลี่ยนเวทีมาต่อสู้กันบนอินเตอร์เน็ต
ภายหลังการลงพื้นที่หาเสียง นายชูวิทย์ได้เข้าไปในร้านเปิดให้บริการอินเตอร์เน็ตย่านมหาวิทยาลัยหอการค้า เพื่อเปิดตัวเว็บไซต์ chuwitonline.com และ rukthailand.com ดังกล่าว ซึ่งเว็บดังกล่าวจะบรรจุรายละเอียดเกี่ยวกับนายชูวิทย์ นอกจากนี้ ยังเตรียมเปิดตัวหนังสือการเมืองแบบหมาๆ ซึ่งจะเป็นหนังสือเล่มใหม่ล่าสุด ในวันที่ 4 ก.ค. หลังเลือกตั้ง
** เตือน“เติ้ง”ระวังหัวใจวาย อยากเป็นรบ.
นายชูวิทย์ กล่าวถึงกรณีนายบรรหาร ศิลปอาชา ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาเดินหน้าแนวนโยบายปรองดอง โดยจัดละครปรองดองภาค 2 ว่า ถึงอย่างไรก็ต้องหลังเลือกตั้งวันที่ 4 ก.ค. ในระหว่างนี้เชื่อว่าคงเป็นแค่การพากันไปกินข้าว หรือหูฉลาม เป็นฉากซ้ำๆ ลีลาวนเวียนอยู่อย่างนี้ทำเป็นจีบกัน อย่างไรก็ตามคงจะตกลงกันมาแล้วตั้งแต่คืนวันที่ 3 ก.ค.
ทั้งนี้โดยส่วนตัวเชื่อว่าจะไม่มีการปรองดองเพราะทุกคนต่างแย่งชิงอำนาจรัฐ ทุกคนออกมาพูดว่าอยากปรองดองแต่แท้จริงอยากเป็นรัฐบาล ซึ่งตนไม่เข้าใจว่ารัฐสภามีทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน แต่ไม่มีใครอยากเป็นฝ่ายค้าน ทางที่ดีควรจะสลับกันเป็นฝ่ายค้านและรัฐบาล เพราะฝ่ายค้านจะทำให้รัฐบาลแข็งแกร่งจึงควรสลับกันไปมาเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบบ้าง อย่างไรก็ตามอยากแนะนำนายบรรหารให้เพลาๆ ลงหน่อย กลัวหัวใจจะวายเพราะอยากจะเป็นรัฐบาล
**ชี้ ปชป.มีแต่นักกฎหมาย เหมาะเป็นฝ่ายค้าน
นายชูวิทย์ กล่าวถึงบทบาทพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ตนพูดมาเสมอว่าเป็นเน็กกาทีพแอพโพส เพราะพรรคนี้มีแต่นักกฎหมายและทนายความ จึงมีความถนัดเรื่องการตรวจสอบ เหมาะสมที่จะเป็นฝ่ายค้าน ที่ผ่านมาตนได้เดินทางลงพื้นที่ภาคใต้ตรวจสอบการใช้จ่ายงบฯผู้ประสบภัย พบว่ารัฐบาลไม่ได้ทำงาน ยกตัวอย่างสะพานใน อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ได้รับความเสียหายมากว่า 2 เดือน แต่ยังซ่อมแซมไม่เสร็จ
เมื่อถามถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตอบโต้คนเสื้อแดงที่ไปโจมตีระหว่างการหาเสียงว่าดีแต่พูด นายชูวิทย์กล่าวว่า อยากแนะนำให้นายอภิสิทธิ์ก้มหน้าก้มตาหาเสียงไป ในช่วงนี้ยังพอทำคะแนนสู้กับเขาได้ แต่ต้องยอมรับว่ามีสิ่งผิดพลาดเกิดขึ้นในรัฐบาล โดยส่วนตัวตนกับพรรคประชาธิปัตย์มีสายสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แต่สิ่งที่ผ่านมา รัฐบาลอธิบายไม่ไหวจริงๆ ทั้งปัญหาค่าครองชีพ และปัญหาปากท้อง รวมถึงกรณีการบาดเจ็บล้มตายของประชาชน
**บิ๊กบังชี้ทหารไม่มีสิทธิยุ่งการเมือง
ที่อาคารซันทาวเวอร์ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ ลงพื้นที่ขอเสียงสนับสนุนจากผู้ค้าย่านดังกล่าว โดยทีมงานหาเสียงมี นางปิยะดา บุญยรัตกลิน ภริยาช่วยเดินแจกใบปลิว ทั้งนี้ยังร่วมหาเสียงย่านการค้าและช็อปปิ้งของพนักงานออฟฟิศ ด้านหลังอาคารสำนักงานใหญ่ การบินไทย ก่อนลงพื้นที่ย่านขายส่งตลาดโบ๊เบ๊ในช่วงบ่าย
พล.อ.สนธิกล่าวว่า ขณะนี้ถึงช่วงเวลาของพรรคการเมืองที่หาเสียงมาครึ่งทางแล้ว พรรคมาตุภูมิพยายามทำให้ดีที่สุด จะได้คะแนนเสียงมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับประชาชนในการที่จะตัดสินใจ ถ้าได้มากเราก็มีอำนาจในการต่อรองสูงขึ้น ส่วนการหารือกับแกนนำพรรคการเมืองต่างๆ ในการจัดตั้งรัฐบาลนั้น มีการพบปะพูดคุยกันอยู่แล้วในระดับหนึ่งบางเรื่องต้องรอตัวเลขที่ออกมา เป็นเรื่องของการทำความคุ้นเคยทางการเมืองกันธรรมดา ซึ่งพูดคุยกับทุกพรรค ไม่จำกัดแต่พรรคขนาดกลางและขนาดเล็ก ทั้งนี้ เรื่องการเมืองต้องพูดคุยกันทุกพรรคตลอดอยู่แล้ว สำหรับกระแสข่าวที่ระบุว่ามีการพูดคุยกับนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย เพื่อร่วมมือทางการเมืองนั้น เจอกันก็พูดคุยกันแบบคนรู้จักหลังๆ ไม่ค่อยได้เจอกัน
เมื่อถามว่า การเมืองจะต้องได้รับการยอมรับจากกองทัพหรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า “ทหารไม่มีสิทธิกำหนดในเรื่องพวกนี้ ทหารมีหน้าที่สร้างความเข้มแข็งให้กองทัพ ดูแลภารกิจของตนเองที่มีอยู่ ทั้งการป้องกันประเทศและรักษาความมั่นคงภายใน ก็ทำหน้าที่ของตัวเองไป อย่าไปออกความเห็นทางการเมือง ไม่ใช่หน้าที่ของกองทัพ แต่รัฐบาลและการเมืองเอง ต้องดูว่าปัญหาของบ้านเมืองเกิดอะไรบ้าง ควรคุยกับกองทัพเรื่องอะไร เราต้องแชร์ข้อมูลกันเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติบ้านเมือง”
นายพิเชรษฐ์ พัฒนโชติ สส.บัญชีรายชื่อพรรคมาตุภูมิ กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติที่ก่อนจะมีการเลือกตั้ง จะมีการจับขั้วทางการเมือง หรือจัดตั้งรัฐบาลไว้ล่วงหน้า สำหรับพรรคมาตุภูมินั้น หากมีการหารือ จะเป็นในระดับหัวหน้าพรรคเเละเลขาธิการพรรค ซึ่งทางพรรคมั่นใจว่า จะได้ที่นั่งในสภา 10 เสียงขึ้นไป
**กรพจน์ ปัดแบ่งเค้กขอ “พาณิชย์-คมนาคม”
อีกด้าน จากกระแสข่าวพรรคเล็ก-พรรคกลาง เดินเครื่องจัดเก้าอี้รัฐมนตรีแล้วนั้น นายกรพจน์ อัศวินวิจิตร หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ และผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน กล่าวปฏิเสธกรณีที่มีข่าวว่าแกนนำพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดินได้เจรจาขอโควต้ารัฐมนตรีกับพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อต่อรองเข้าร่วมรัฐบาล ว่า ตนไม่ทราบเรื่องดังกล่าว คงต้องสอบถาม นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค ส่วนตนขอทำหน้าที่ทำงานด้านเศรษฐกิจไห้พรรคไปก่อน เรื่องอื่นนั้นค่อยพูดภายหลัง
เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่ระบุว่านายกรพจน์จะได้รับตำแหน่ง รมช.พาณิชย์ หรือ รมช.คมนาคม นายกรพจน์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ
**“ชาญชัย” ชี้ข่าวโคมลอย จองเก้าอี้
นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน กล่าวถึงข่าวที่ระบุมีการจองเก้าอี้รัฐมนตรีต่างๆ โดยเชื่อว่าเป็นข่าวโคมลอย เพราะขณะนี้แต่ละพรรคยังไม่มีตัวเลขจำนวนส.ส.และยังไม่ได้เจรจาว่าจะเป็นรัฐบาลขั้วไหน จึงคาดว่ายังไม่ถึงเวลา สำหรับเวลาที่เหมาะสมที่แกนนำแต่ละพรรจะคุยถึงการร่วมรัฐบาลคือ หลังวันที่3 ก.ค.
“ชื่อชาญชัย ชัยรุ่งเรืองหายไปไหน เป็นถึงประธานที่ปรึกษาพรรค แล้วชื่อหายไปไหน ข่าวนี้น่าจะเป็นข่าวโคมลอย” นายชาญชัยกล่าว
**“ชุมพล” ยัน ยังไม่มีอะไรจริงๆ
นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า กระแสข่าวว่าพรรคขนาดเล็กและพรรคขนาดกลางส่งกระทรวงที่ต้องการดูแลไปยังแกนนำสองพรรคใหญ่แล้วนั้น ต้องขอขอบคุณที่ช่วยนำเสนอข่าว แต่ยังไม่มีอะไรจริงๆ ต้องรอหลังเลือกตั้ง ตนเป็นหัวหน้าพรรคยังไม่รู้อะไรเลย ไม่มีหรอก ยังไม่ได้คุยอะไร
**จ้องเดินเครื่องผสมพันธุ์รมต.
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านั้นมีกระแสข่าวถึงขั้นที่พรรคร่วมรัฐบาลเดิมได้มีการเตรียมจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรี ของพรรคตัวเองไว้หมดแล้ว โดยได้มีการพูดคุยทาบทามกันแบบหลวมๆกับแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำพรรคเพื่อไทยว่าหากเข้าร่วมรัฐบาลต้องการที่จะรับผิดชอบและดูแลกระทรวงใด ซึ่งหากพรรคเพื่อไทยได้ส.ส.มาเป็นอันดับหนึ่ง พรรคที่จะเชิญเข้าร่วมรัฐบาล คือ พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน
โดยพรรคชาติไทยพัฒนา ในสัดส่วนของนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ได้ขอโควต้าเก้าอี้ กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงกีฬาและการท่องเที่ยว พร้อมทั้งขอโค้วต้ากระทรวงพาณิชย์เพิ่มเติม เพื่อแก้ปัญหาสินค้าทางการเกษตร ทั้งระบบ ส่วนโควต้าในส่วนของพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา หากไม่ได้เสนอชื่อเป็นนายกฯ ก็จะขอสละสิทธิ์ตำแหน่งรมต.ให้กับลูกชายนายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ และขอเก้าอี้รมว.คมนาคมให้กับนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ ส่วนโควต้าของพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ได้ขอโคตารมว.พลังงานให้กับน.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรค และขอกระทรวงไอซีที ให้กับกลุ่มของนายไพโรจน์ สุวรรณฉวี รวมทั้งขอเก้าอี้เพิ่มเติมในกระทรวงพาณิชย์ ให้กับนายกรพจน์ อัศวินวิจิตร หัวหน้าทีมเศรษกิจของพรรค และรมช. คลัง หรือ รมช.คมนาคม ด้วย
**แบ่งสูตรหลายสูตรแลกกระทรวง
ทั้งนี้ หากพรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ พรรคประชาธิปัตย์เตรียมที่จะตั้งรัฐบาลแข่งทันที โดยจะเชิญพรรคภูมิใทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน พรรคมาตภูมิ และพรรคกิจสังคม ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเดิมเข้าร่วม โดยพรรคประชาธิปัตย์ มีเงื่อนไขว่า ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ต้องเว้นไว้ให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เท่านั้น และขอดูแลในกระทรวงหลัก ได้แก่ รองนายกฯด้านความมั่นคง กระทรวงการคลัง กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น โดยพรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ยังคงยื่นโควต้าเดิมที่เสนอให้แกนนำพรรคเพื่อไทยพิจารณา ส่วนพรรคภูมิใจไทย เสนอโควต้ากระทรวงเกรดเอเกือบทั้งหมด ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ ขณะที่พรรคกิจสังคมของนายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคกิจสังคม ยังคงโควต้ารมว.ทรัพยากรฯ และพรรคมาตุภูมิ ของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ที่จะต้องเข้ามาเบียดแทรกเก้าในกระทรวงด้านความมั่นคง อย่าง กระทรวงกลาโหม.