ASTVผู้จัดการรายวัน – ไอซ์สเก็ตลมหวน “ไอซ์แพลนเน็ต” ปักธงลุยธุรกิจลานสก็ตน้ำแข็งเต็มสูบ ทุ่ม 180 ล้านบาท เนรมิตร ลานไอซ์สเก็ตบนชั้น 7 สยามดิสคัฟเวอรี่ หวัง 3-4 ปีคุ้มทุน พร้อมต่อยอดรายได้ กรุยทางสร้างแบรนด์ร้านกาแฟ คาเฟ่1819 เดินหน้ามองหาโอกาสเติบโตในพื้นที่ต่างจังหวัดในอนาคต
นายธนากร กัลยาณมิตร ประธานกรรมการ บริษัท ไอซ์แพลนเน็ต ไทยแลนด์ จำกัด เปิดเผยว่า เดิมทำธุรกิจด้านไอที แต่จากการที่คลุกคลีอยู่กับวงการกีฬาไอซ์สเก็ต และลูกสาวชื่นชอบกีฬาดังกล่าว บวกกับมองเห็นโอกาสว่ากีฬาไอซ์สเก็ตกำลังกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง หลังจากเงียบหายไปกว่า 10 ปี จึงได้ตัดสินใจทุ่มงบลงทุนกว่า 180 ล้านบาท สร้างลานไอซ์สเก็ตขึ้นมา ภายใต้ชื่อ
“ไอซ์แพลนเน็ต” พื้นที่กว่า 2,000 ตารางเมตร บนชั้น 7 ของสยามดิสคัฟเวอรี่ พร้อมยกระดับมาตรฐานลานไอซ์สเก็ตให้ทัดเทียมกับต่างประเทศ จับกลุ่มวัยรุ่น ครอบครัว และคนทำงานทั่วไป เปิดให้บริการตั้งแต่เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา พบว่าลูกค้าให้การตอบรับที่ดี เฉลี่ยวันละ 300 คน
สำหรับไอซ์แพลนเน็ตถูกดีไซน์ให้มีความทันสมัย สวยงาม ประกอบด้วย พื้นที่ลานไอซ์สเก็ต 900 ตารางเมตร และพื้นที่ที่เหลือจัดเป็นมุมร้านกาแฟ ภายใต้ชื่อ คาเฟ่1819 รวมถึงพื้นที่สังสรรค์อีกส่วนหนึ่ง ดังนั้นรายได้หลักของไอซ์แพลนเน็ตที่วางไว้ จึงมาจาก 2 ช่องทางหลัก คือ 1.ค่าบริการของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการลานไอซ์สเก็ต คิดค่าบริการที่ 90 นาที ราคา 250 บาท
ราคาเดียวทั้งเด็กและผู้ใหญ่ รวมค่ารองเท้าและล็อกเกอร์ และแบบเหมาจ่ายทั้งวันที่ 500 บาท นอกจากนี้ยังมีบริการแบบแพกเกจค่าสมาชิกรายปีที่ 25,000 บาท ตั้งเป้าไว้ที่ 500 รายในปีแรก จากปัจจุบันมีสมาชิกแล้ว 30 ราย มั่นใจว่าต่อเดือนจะมีรายได้จากค่าบริการเหล่านี้ ที่ 2 ล้านบาท
2.การให้เช่าพื้นที่จัดงานอีเว้นท์ และจัดงานเปิดตัวสินค้า จัดเลี้ยงต่างๆ ตั้งเป้าเดือนละ 2 งาน ค่าบริการเฉลี่ยงานละ 4 แสนบาท นอกจากนี้ไอซ์แพลนเน็ตยังมีรายได้จากส่วนอื่นๆเข้ามาเสริมด้วย เช่น สปอนเซอร์ และการขายสินค้าที่ระลึก รวมแล้วต่อปีคาดว่าจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท หรือภายใน 3-4 ปี คาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุน
สำหรับ 6 เดือนแรกนี้ บริษัทใช้งบกว่า 2 ล้านบาท เพื่อการโฆษณาและประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มเป้าหมายทั้งสื่อแมสและสื่ออนไลน์ รวมถึงจับมือวางแผนทำโปรโมชั่นร่วมกับลูกค้า ส่งเสริมการจัดกิจกรรมต่างๆนพื้นที่ไอซ์แพลนเน็ต
นายธนากร กล่าวต่อว่า ในช่วง 3 ปีนี้ บริษัทจะมุ่งสร้างแบรนด์ไอซ์แพลนเน็ต รวมถึงสร้างแบรนด์ร้านกาแฟ คาเฟ่ 1819 อย่างต่อเนื่อง โดยในปีหน้าจะขยายร้านกาแฟดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 5 สาขา ลงทุนสาขาละ 10-50 ล้านบาท แล้วแต่พื้นที่ เน้นพื้นที่ที่มีศักยภาพทั้งในศูนย์การค้าและพื้นที่อื่น
ที่สำคัญในส่วนของลานไอซ์สเก็ตนั้น พร้อมลงทุนต่อเนื่อง ล่าสุดขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการพูดคุยกับทางสยามพิวรรธน์ ในการที่จะมีการเปิดตัว ไอซ์แพลนเน็ต แห่งที่สอง ที่ พาราไดซ์พาร์ค ซึ่งมองว่าสถานที่แห่งใหม่นี้ จะมีลานไอซ์สเก็ตใหญ่กว่า 2 เท่า หรือราว 1,800 ตารางเมตร รวมการลงทุนแล้วน่าจะมากกว่า 2 เท่าเทียบกับที่สยามดิสคัฟเวอรี่
นอกจากนี้ยังได้มีการพูดคุยกับผู้ที่สนใจรายอื่นๆด้วย อาทิ เช่น กลุ่มเดอะมอลล์ โดยมองว่าปัจจุบันโอกาสเติบโตในกรุงเทพฯเริ่มตันแล้ว ถ้าจะลงทุนมองว่าจะเน้นไปทางต่างจังหวัด หรือในจังหวัดใหญ่ๆ เช่น เชียงใหม่เป็นต้น ขณะที่ในกรุงเทพฯนั้น มีให้บริการลานไอซ์สเก็ตอยู่แล้ว 6 แห่ง คือ เซ็นทรัลเวิล์ด, สยามดิสคัฟเวอร์รี่, เอสพละนาด รัชดา, เอสพละนาด แคราย, บิ๊กซี
ลาดพร้าว และ อิมพีเรียลเวิล์ด สำโรง
นายธนากร กัลยาณมิตร ประธานกรรมการ บริษัท ไอซ์แพลนเน็ต ไทยแลนด์ จำกัด เปิดเผยว่า เดิมทำธุรกิจด้านไอที แต่จากการที่คลุกคลีอยู่กับวงการกีฬาไอซ์สเก็ต และลูกสาวชื่นชอบกีฬาดังกล่าว บวกกับมองเห็นโอกาสว่ากีฬาไอซ์สเก็ตกำลังกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง หลังจากเงียบหายไปกว่า 10 ปี จึงได้ตัดสินใจทุ่มงบลงทุนกว่า 180 ล้านบาท สร้างลานไอซ์สเก็ตขึ้นมา ภายใต้ชื่อ
“ไอซ์แพลนเน็ต” พื้นที่กว่า 2,000 ตารางเมตร บนชั้น 7 ของสยามดิสคัฟเวอรี่ พร้อมยกระดับมาตรฐานลานไอซ์สเก็ตให้ทัดเทียมกับต่างประเทศ จับกลุ่มวัยรุ่น ครอบครัว และคนทำงานทั่วไป เปิดให้บริการตั้งแต่เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา พบว่าลูกค้าให้การตอบรับที่ดี เฉลี่ยวันละ 300 คน
สำหรับไอซ์แพลนเน็ตถูกดีไซน์ให้มีความทันสมัย สวยงาม ประกอบด้วย พื้นที่ลานไอซ์สเก็ต 900 ตารางเมตร และพื้นที่ที่เหลือจัดเป็นมุมร้านกาแฟ ภายใต้ชื่อ คาเฟ่1819 รวมถึงพื้นที่สังสรรค์อีกส่วนหนึ่ง ดังนั้นรายได้หลักของไอซ์แพลนเน็ตที่วางไว้ จึงมาจาก 2 ช่องทางหลัก คือ 1.ค่าบริการของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการลานไอซ์สเก็ต คิดค่าบริการที่ 90 นาที ราคา 250 บาท
ราคาเดียวทั้งเด็กและผู้ใหญ่ รวมค่ารองเท้าและล็อกเกอร์ และแบบเหมาจ่ายทั้งวันที่ 500 บาท นอกจากนี้ยังมีบริการแบบแพกเกจค่าสมาชิกรายปีที่ 25,000 บาท ตั้งเป้าไว้ที่ 500 รายในปีแรก จากปัจจุบันมีสมาชิกแล้ว 30 ราย มั่นใจว่าต่อเดือนจะมีรายได้จากค่าบริการเหล่านี้ ที่ 2 ล้านบาท
2.การให้เช่าพื้นที่จัดงานอีเว้นท์ และจัดงานเปิดตัวสินค้า จัดเลี้ยงต่างๆ ตั้งเป้าเดือนละ 2 งาน ค่าบริการเฉลี่ยงานละ 4 แสนบาท นอกจากนี้ไอซ์แพลนเน็ตยังมีรายได้จากส่วนอื่นๆเข้ามาเสริมด้วย เช่น สปอนเซอร์ และการขายสินค้าที่ระลึก รวมแล้วต่อปีคาดว่าจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท หรือภายใน 3-4 ปี คาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุน
สำหรับ 6 เดือนแรกนี้ บริษัทใช้งบกว่า 2 ล้านบาท เพื่อการโฆษณาและประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มเป้าหมายทั้งสื่อแมสและสื่ออนไลน์ รวมถึงจับมือวางแผนทำโปรโมชั่นร่วมกับลูกค้า ส่งเสริมการจัดกิจกรรมต่างๆนพื้นที่ไอซ์แพลนเน็ต
นายธนากร กล่าวต่อว่า ในช่วง 3 ปีนี้ บริษัทจะมุ่งสร้างแบรนด์ไอซ์แพลนเน็ต รวมถึงสร้างแบรนด์ร้านกาแฟ คาเฟ่ 1819 อย่างต่อเนื่อง โดยในปีหน้าจะขยายร้านกาแฟดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 5 สาขา ลงทุนสาขาละ 10-50 ล้านบาท แล้วแต่พื้นที่ เน้นพื้นที่ที่มีศักยภาพทั้งในศูนย์การค้าและพื้นที่อื่น
ที่สำคัญในส่วนของลานไอซ์สเก็ตนั้น พร้อมลงทุนต่อเนื่อง ล่าสุดขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการพูดคุยกับทางสยามพิวรรธน์ ในการที่จะมีการเปิดตัว ไอซ์แพลนเน็ต แห่งที่สอง ที่ พาราไดซ์พาร์ค ซึ่งมองว่าสถานที่แห่งใหม่นี้ จะมีลานไอซ์สเก็ตใหญ่กว่า 2 เท่า หรือราว 1,800 ตารางเมตร รวมการลงทุนแล้วน่าจะมากกว่า 2 เท่าเทียบกับที่สยามดิสคัฟเวอรี่
นอกจากนี้ยังได้มีการพูดคุยกับผู้ที่สนใจรายอื่นๆด้วย อาทิ เช่น กลุ่มเดอะมอลล์ โดยมองว่าปัจจุบันโอกาสเติบโตในกรุงเทพฯเริ่มตันแล้ว ถ้าจะลงทุนมองว่าจะเน้นไปทางต่างจังหวัด หรือในจังหวัดใหญ่ๆ เช่น เชียงใหม่เป็นต้น ขณะที่ในกรุงเทพฯนั้น มีให้บริการลานไอซ์สเก็ตอยู่แล้ว 6 แห่ง คือ เซ็นทรัลเวิล์ด, สยามดิสคัฟเวอร์รี่, เอสพละนาด รัชดา, เอสพละนาด แคราย, บิ๊กซี
ลาดพร้าว และ อิมพีเรียลเวิล์ด สำโรง
