ASTVผู้จัดการรายวัน – ไมเนอร์ฯปรับกลยุทธ์แบรนด์ บอสสินี ตามบริษัทแม่ที่ฮ่องกง หันจับลูกค้ากลุ่มครอบครัว พร้อมปรับโฉมชอปย่านชานเมืองให้ตรงพฤติกรรมกลุ่มเป้าหมาย หวังปีนี้โต 15%
นางสาววิริยาภรณ์ มหาอุดมพันธ์ ผู้จัดการแบรนด์อาวุโส บอสสินี บริษัท อาร์มิน ซิสเต็มส์ จำกัด ในเครือไมเนอร์กรุ๊ป เปิดเผยว่า แบรนด์บอสสินีได้ปรับกลยุทธ์การทำตลาดโดยหันมาจับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นครอบครัว จากเดิมที่จับกลุ่มผู้หญิงเป็นหลักด้วยสัดส่วนรายได้มากถึง 60-70% ซึ่งจากนี้จะให้ความสำคัญกับกลุ่มใหม่มากขึ้น ส่วนตลาดผู้หญิงจะลดสัดส่วนลงเหลือ 50-60% แต่ฐานยอดขายจะมากขึ้น มีสัดส่วนสินค้าผู้ชาย 35-40% และเด็ก สัดส่วนช่วงแรก 5-10%
“กลุ่มเด็ก เราเพิ่งหันกลับมาทำตลาดอีกครั้ง หลังจากที่หยุดไป 2 ปีก่อนนี้ ตอนนี้กลับมาทำใหม่ เพื่อให้ตรงกับคอนเซ็ปท์ที่เราจะเจาะกลุ่มครอบครัวมากขึ้น และทำให้เรามียอดเพิ่มขึ้นด้วย เพราะเท่ากับได้ขยายฐานลูกค้าได้เพิ่มขึ้น โดยปีนี้ตั้งเป้ารายได้เติบโต 2 หลักหรือประมาณ 15% จากยอดขายปีที่แล้ว 300 ล้านบาท”
ทั้งนี้วางกลยุทธ์ปรับรูปแบบที่เป็นชอปใหม่ให้เป็นคอนเซ็ปท์เดียวกัน ทั้งโลโก้ที่ปรับใหม่ และโทนสีที่เปลี่ยนเป็นสีเขียวตามบริษัทแม่ที่ฮ่องกง และได้เริ่มปรับโฉมชอปแรกในไทยแล้วที่แฟชั่นไอส์แลนด์เปิดบริการเมื่อเดือนที่แล้ว สาขาต่อไปจะปรับที่เซ็นทรัลบางนา เสร็จเดือนตุลาคมนี้ และเซ็นทรัลปิ่นเกล้าเสร็จเดือนกรกฎาคมนี้ จากนั้นจะเดินหน้าปรับโฉมชอปที่มีอยู่ให้เป็นโฉมใหม่ทั้งหมด ด้วยงบประมาณรวม 20 ล้านบาท
ปีนี้มีแผนเปิดจุดขายใหม่ที่เป็นเคาน์เตอร์ รวม 4 จุดเช่นที่ เซ็นทรัลเชียงรายเปิดไปแล้ว เซ็นทรัลพระรามเก้า ห้างเซน และพิษณุโลก จากปัจจุบันที่จุดจำหน่ายแยกเป็น ชอป 7 สาขา, เคาน์เตอร์ 50 แห่งและเอาท์เล็ทอีก 6 แห่ง
สาเหตุที่เน้นปรับโฉมสาขาแถบชานเมืองเป็นหลัก เพราะจากการสำรวจพบว่ากลุ่มครัอบครัวรุ่นใหม่ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของเราจะอาศัยอยู่ตามหมู่บ้านชานเมือง และจะชอปปิ้งวันสาร์-อาทิตย์ใกล้บ้าน ทำให้เราต้องปรับสาขาชานเมืองก่อน ซึ่งสาขาแรกที่แฟชั่นส์ไอส์แลนด์เมื่อเปิดบริการแล้วผลตอบรับดี
โดยลูกค้าประจำของเรามีการมาซื้อที่ร้านเฉลี่ย 2-3 ครั้งต่อเดือน อัตราการซื้อเฉลี่ย 2-3 ตัว นอกจากนั้นก็จะจัดกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ลูกค้ากลุ่มครอบครัวมีส่วนร่วม เช่น การคัดเลือกลูกค้าเข้ามาเป็นผู้ถ่ายแบบคอลเลคชั่นใหม่ๆในแคตตาล็อกของบอสสินี เป็นต้น
นางสาววิริยาภรณ์ มหาอุดมพันธ์ ผู้จัดการแบรนด์อาวุโส บอสสินี บริษัท อาร์มิน ซิสเต็มส์ จำกัด ในเครือไมเนอร์กรุ๊ป เปิดเผยว่า แบรนด์บอสสินีได้ปรับกลยุทธ์การทำตลาดโดยหันมาจับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นครอบครัว จากเดิมที่จับกลุ่มผู้หญิงเป็นหลักด้วยสัดส่วนรายได้มากถึง 60-70% ซึ่งจากนี้จะให้ความสำคัญกับกลุ่มใหม่มากขึ้น ส่วนตลาดผู้หญิงจะลดสัดส่วนลงเหลือ 50-60% แต่ฐานยอดขายจะมากขึ้น มีสัดส่วนสินค้าผู้ชาย 35-40% และเด็ก สัดส่วนช่วงแรก 5-10%
“กลุ่มเด็ก เราเพิ่งหันกลับมาทำตลาดอีกครั้ง หลังจากที่หยุดไป 2 ปีก่อนนี้ ตอนนี้กลับมาทำใหม่ เพื่อให้ตรงกับคอนเซ็ปท์ที่เราจะเจาะกลุ่มครอบครัวมากขึ้น และทำให้เรามียอดเพิ่มขึ้นด้วย เพราะเท่ากับได้ขยายฐานลูกค้าได้เพิ่มขึ้น โดยปีนี้ตั้งเป้ารายได้เติบโต 2 หลักหรือประมาณ 15% จากยอดขายปีที่แล้ว 300 ล้านบาท”
ทั้งนี้วางกลยุทธ์ปรับรูปแบบที่เป็นชอปใหม่ให้เป็นคอนเซ็ปท์เดียวกัน ทั้งโลโก้ที่ปรับใหม่ และโทนสีที่เปลี่ยนเป็นสีเขียวตามบริษัทแม่ที่ฮ่องกง และได้เริ่มปรับโฉมชอปแรกในไทยแล้วที่แฟชั่นไอส์แลนด์เปิดบริการเมื่อเดือนที่แล้ว สาขาต่อไปจะปรับที่เซ็นทรัลบางนา เสร็จเดือนตุลาคมนี้ และเซ็นทรัลปิ่นเกล้าเสร็จเดือนกรกฎาคมนี้ จากนั้นจะเดินหน้าปรับโฉมชอปที่มีอยู่ให้เป็นโฉมใหม่ทั้งหมด ด้วยงบประมาณรวม 20 ล้านบาท
ปีนี้มีแผนเปิดจุดขายใหม่ที่เป็นเคาน์เตอร์ รวม 4 จุดเช่นที่ เซ็นทรัลเชียงรายเปิดไปแล้ว เซ็นทรัลพระรามเก้า ห้างเซน และพิษณุโลก จากปัจจุบันที่จุดจำหน่ายแยกเป็น ชอป 7 สาขา, เคาน์เตอร์ 50 แห่งและเอาท์เล็ทอีก 6 แห่ง
สาเหตุที่เน้นปรับโฉมสาขาแถบชานเมืองเป็นหลัก เพราะจากการสำรวจพบว่ากลุ่มครัอบครัวรุ่นใหม่ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของเราจะอาศัยอยู่ตามหมู่บ้านชานเมือง และจะชอปปิ้งวันสาร์-อาทิตย์ใกล้บ้าน ทำให้เราต้องปรับสาขาชานเมืองก่อน ซึ่งสาขาแรกที่แฟชั่นส์ไอส์แลนด์เมื่อเปิดบริการแล้วผลตอบรับดี
โดยลูกค้าประจำของเรามีการมาซื้อที่ร้านเฉลี่ย 2-3 ครั้งต่อเดือน อัตราการซื้อเฉลี่ย 2-3 ตัว นอกจากนั้นก็จะจัดกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ลูกค้ากลุ่มครอบครัวมีส่วนร่วม เช่น การคัดเลือกลูกค้าเข้ามาเป็นผู้ถ่ายแบบคอลเลคชั่นใหม่ๆในแคตตาล็อกของบอสสินี เป็นต้น