xs
xsm
sm
md
lg

เพิ่มมาตรการเข้ม สกัดผัก-ผลไม้ยุโรป

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน/เอเอฟพี - สธ.เผย กะหล่ำปลีปมจากเบลเยี่ยมไม่พบเชื้ออี.โคไล ชนิดรุนแรง ด้าน อย.ออกมาตรการเข้มอายัดผักผลไม้ผิวบางจากยุโรป “ราสเบอรี่-บลูเบอรี่” ตรวจหาเชื้อก่อนปล่อยสู่ตลาด ส่วนผลไม้ผิวแข็งสุ่มตรวจปกติ จำหน่ายได้ ส่วนยอดผู้เสียชีวิตจากแบคทีเรีย “อีโคไล” สายพันธุ์มรณะ ซึ่งมีศูนย์กลางการแพร่กระจายอยู่ในเยอรมนี ได้เพิ่มจำนวนขึ้นเป็น 36 คน

วานนี้ ( 13 มิ.ย.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้ากรณีการเฝ้าระวังเชื้ออีโคไล สายพันธ์ โอ 104 ว่า ผลการตรวจกะหล่ำปลีปม นำเข้าจากยุโรป กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ตรวจวิเคราะห์และยืนยันผลเมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ว่า เป็นเชื้ออีโคไลสายพันุ์ที่อยู่ในสภาพแวดล้อมทั่วไป ไม่ใช่สายพันธุ์ที่กำลังระบาดในเยอรมนี โดยในส่วนของ สธ.นั้น ขณะนี้เร่งผลิตเอกสารให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องเชื้ออี โคไล เพิ่มอีก 50,000 เพื่อแจกให้ประชาชนที่เดินทางเข้าออกประเทศในทวีปยุโรป จากเดิมที่แจกไปแล้ว 50,000 ฉบับ

ด้านนพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) กล่าวว่า กะหล่ำปลีปมที่นำเข้าจากเบลเยี่ยมในส่วนของบริษัท สยามฟู้ด เซอร์วิส จำกัด มีจำนวน 12.96 ตันไม่พบการปนเปื้อนของเชื้ออี.โคไล โอ 104 เป็นเพียงอี.โคไลปกติเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่สายพันธุ์รุนแรงที่ก่อให้เกิดอันตรายแต่อย่างใด ส่วนกระหล่ำปลีปมของบริษัท เทสโก้ โลตัส ที่นำเข้าจากเบลเยี่ยมนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจยืนยันเชื้อ อีกทั้ง ยังมีพริกหยวก จากอังกฤษ แครอท และผักผลไม้รวมจากยุโรป คาดว่าผลการตรวจเชื้อจะได้อีกประมาณ 1 สัปดาห์

“อย่างไรก็ตาม อย.ยังคงเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง โดยมาตรการเสริมล่าสุดจะมีการชักตัวอย่างผักผลไม้นำเข้าจากยุโรปทุกชนิด โดยเฉพาะผัก ผลไม้ประเภทผิวบาง อาทิ ราสเบอรี่ บลูเบอรี่ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากเยอรมันจะขออายัดไว้ก่อน ส่วนผลไม้ผิวแข็งที่ต้องปอกเปลือกเมื่อรับประทานจะไม่อายัด แต่จะสุ่มตรวจเหมือนปกติ อย่างไรก็ตาม สำหรับข้อกังวลว่าจะมีการปนเปื้อนในถั่วงอกด้วยหรือไม่ ข้อเท็จจริงแล้วเรื่องนี้ยังเป็นเพียงข้อสันนิษฐาน เนื่องจากทางเยอรมันก็ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน” นพ.พิพัฒน์ กล่าว

ขณะที่ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อทั่วไป กล่าวว่า ขณะนี้ทางเยอรมันระบุเพียงว่าถั่วงอก เป็นแหล่งเกิดโรค แต่ไม่สรุป 100% เนื่องจากเยอรมันระมัดระวังการเผยแพร่เกี่ยวกับเรื่องนี้มาก แต่ขณะนี้ทางเยอรมันได้ออกมาตรการคุมเข้ม โดยใครหรือร้านค้าใดมีเมล็ดถั่วให้รีบทำลายทันที ขณะเดียวกันยังออกมาตรการห้ามจำหน่ายถั่วงอกออกนอกประเทศเด็ดขาด ดังนั้น ประเทศไทยจึงไม่ต้องกังวล

*** ยอดตายเพิ่มเป็น 36 ราย

สถาบันรอแบร์ต คอช (อาร์เคไอ) ซึ่งเป็นหน่วยงานระดับชาติของแดนดอยช์ที่ทำหน้าที่ศึกษาวิจัยเชื้อโรค รายงานวานนี้ว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากการระบาดคราวนี้ได้เพิ่มขึ้นเป็น 36 รายแล้ว แต่อัตราการติดเชื้อรายใหม่ๆ ยังลดลงไปอย่างต่อเนื่อง และอาร์เคไอคิดว่าการระบาดกำลังบรรเทาเบาบางลงแล้ว
ขณะที่แดเนียล บาห์ร รัฐมนตรีสาธารณสุขของเยอรมนีบอกกับหนังสือพิมพ์บิลด์ อัม ซอนน์ทาก ฉบับวันอาทิตย์(12)ว่า การที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ๆ กำลังลดลงไปอย่างต่อเนื่องนั้น ทำให้เราสามารถมองสถานการณ์ในแง่ดีได้ แต่กระนั้นก็ต้องยอมรับว่ายังอาจจะมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อแบคทีเรียอีไคไล ชนิด เอนเทอโรฮีโมเรจิก อี.โคไล (enterohaemorrhagic E. coli หรือ EHEC) นี้เพิ่มขึ้นอีก

ผู้เสียชีวิตจากเชื้อมรณะระลอกนี้ เกือบทั้งหมดอยู่ในเยอรมนี โดยมีเพียง 1 รายเท่านั้นที่เป็นหญิงชาวสวีเดน ซึ่งเพิ่งเดินทางออกจากแดนดอยช์ สำหรับจำนวนผู้ป่วยนั้นมีทั้งสิ้น 3,255 คนใน 14 ประเทศทั่วยุโรป รวมด้วยสหรัฐฯ และ แคนาดา ทั้งนี้ตามรายงานขององค์การอนามัยโลก โดยที่ผู้ป่วยทั้งหมดยกเว้น 5 รายเท่านั้นต่างเป็นผู้ที่พำนักอาศัย หรือเพิ่งเดินทางออกมาจากเยอรมนี
กำลังโหลดความคิดเห็น