เชียงราย - กองทัพพม่า-ลาว บรรลุข้อตกลงร่วมเพิ่มกำลังติดอาวุธคุมเข้มน่านน้ำโขงเหนือสามเหลี่ยมทองคำ คุ้มกันเรือสินค้าและเรือท่องเที่ยว ที่วิ่งขึ้น-ล่องระหว่างไทย พม่า ลาว จีน หลังถูกกลุ่มกองโจรออกอาละวาดปล้นสะดมเรียกค่าคุ้มครองถี่ยิบ
รอบหลายปีที่ผ่านมาได้เกิดเหตุกองกำลังติดอาวุธพร้อมเรือเร็ว ออกอาละวาดยิงและปล้นเรือสินค้าในแม่น้ำโขง โดยเฉพาะเหนือสามเหลี่ยมทองคำชายแดนพม่า-สปป.ลาว ด้าน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย อย่างต่อเนื่องนั้น ล่าสุดมีรายงานว่าทางการพม่า และ สปป.ลาว ได้จัดประชุมใหญ่กันขึ้นที่บริเวณบ้านต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว เพื่อหาแนวทางป้องกันเรือสินค้าในแม่น้ำโขงที่ส่วนใหญ่เป็นเรือสัญชาติจีนและสปป.ลาว ที่แล่นไปมาระหว่างจีนตอนใต้และเมืองท่าต่างๆ ของพม่าและสปป.ลาว มาจนถึงท่าเรือเชียงแสนแห่งที่ 1
การประชุมครั้งนี้ ฝ่ายพม่ามี พลจัตวา ตาน ทุน อู่ แม่ทัพภาคสามเหลี่ยม ส่วนฝ่าย สปป.ลาว มี พลจัตวาบัวเสี้ยง จำปาพัน รองหัวหน้ากรมใหญ่เสนาธิการ กองทัพประชาชนลาว นำคณะเจ้าหน้าที่ร่วมประชุมหารือเรื่องสถานการณ์ด้านความมั่นคงของทั้งสองฝ่ายที่มีแม่น้ำโขงเป็นพรมแดนนับตั้งแต่แม่น้ำโขงไหลออกมาจากประเทศจีน และไหลทอดยาวเรื่อยมาจนถึงสามเหลี่ยมทองคำก่อนที่แม่น้ำโขงจะกลายเป็นพรมแดนไทย-สปป.ลาว
ในการประชุม มีการตกลงกันว่าจะมีการเพิ่มกำลังทหารของทั้งสองฝ่ายเพื่อดูแลความมั่นคง โดยเฉพาะต่อเรือเดินสินค้าที่มีการสัญจรผ่านไปมาอยู่เป็นประจำด้วย
สำหรับกลุ่มติดอาวุธในแม่น้ำโขงที่ถูกจับตามองมากในขณะนี้คือ กลุ่มของนายหน่อคำ ซึ่งเคลื่อนไหวอยู่แถบชายแดนพม่า-สปป.ลาว บริเวณบ้านย่างคำห่างจากสามเหลี่ยมทองคำขึ้นไปทางทิศเหนือเพียงเล็กน้อย โดยสัญลักษณ์ของกลุ่มนี้จะให้ผู้ร่วมขบวนการติดอาวุธสักยันต์รูปดาวห้าแฉกที่หน้าอกด้านซ้าย พฤติกรรมที่ผ่านมาคือจะคอยเก็บค่าคุ้มครองจากขบวนการค้ายาเสพติดที่ขนยาเสพติดโดยเฉพาะยาบ้าผ่านไปมาเม็ดละ 1-3 บาท
ครั้งหนึ่งเคยมีกระแสว่า กลุ่มนี้ประกาศให้เรือสินค้าที่แล่นผ่านไปมาเหนือสามเหลี่ยมทองคำ ชายแดนท่าขี้เหล็ก-แขวงบ่อแก้ว ให้เปิดผ้าคลุมสินค้าในเรือออก เพื่อให้เห็นสินค้าได้ชัดเจน หากว่าเรือลำใดฝ่าฝืนมักจะนำเรือเร็วหางยาวพร้อมกำลังพลติดอาวุธเข้าประกบและถ้าขัดขืนจะถึงขั้นเข้าปล้นหรือยิงโจมตีเหมือนที่ผ่านๆ มาทันที โดยพฤติกรรมอุกอาจดังกล่าว ทำให้เป็นที่น่าสงสัยว่าจะมีเจ้าหน้าที่รัฐของฝ่ายใดเข้าไปช่วยเหลือหรือไม่ด้วย เนื่องจากมีรายงานว่ามีผู้พบเห็นเจ้าหน้าที่รัฐของบางฝ่าย ยืนดูพฤติกรรมของกลุ่มติดอาวุธนี้ด้วยหลายครั้ง แต่ไม่ดำเนินการใดๆ
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่าเมื่อต้นเดือน เม.ย.ที่ผ่านมากลุ่มนี้เคยเข้าบุกเรือสินค้าสัญชาติจีน 3 ลำ ซึ่งเป็นของกาสิโนแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่สามเหลี่ยมทองคำ ทั้งๆ ที่เรือดังกล่าวบรรทุกเครื่องจักรขุดตักหิน 1 ลำและบรรทุกหิน 2 ลำ เมื่อเข้าประกบได้เข้าปล้นและจับตัวประกันเป็นกัปตันเรือพร้อมลูกเรือ 29 คน ก่อนจะนำเรือไปจอดที่เกาะดอนกลางแม่น้ำโขงตรงกับบ้านเกี๋ยง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว เพื่อเรียกค่าไถ่จากกาสิโนเป็นเงิน 30 ล้านบาท ต่อมามีการต่อรองเหลือ 15 ล้านบาทด้วย
ทั้งนี้นอกจากกลุ่มของนายหน่อคำยังมีรายงานด้วยว่ายังมีกลุ่มอื่นๆ ที่มีอิทธิพลตามแนวแม่น้ำโขงของภูมิภาคนี้หลายกลุ่ม โดยมีพฤติกรรมเช่นเดียวกันแต่ไม่มีชื่อเสียงโด่งดังเหมือนกลุ่มนายหน่อคำ เช่น กลุ่มซานเป๊อะ กลุ่มปิตุชิด ฯลฯ โดยเมื่อหลายปีก่อนถึงขั้นโจมตีเรือลาดตระเวนของตำรวจจีนที่แล่นลงมาถึงบริเวณสามเหลี่ยทองคำ จนทำให้เจ้าหน้าที่จีนได้รับบาดเจ็บต้องหนีมารักษาตัวที่โรงพยาบาลใน จ.เชียงราย และเรือเสียหายอย่างหนัก กระทั่งทางจีนได้ประสานกับพม่าและ สปป.ลาว เพื่อให้แก้ไขสถานการณ์ดังกล่าวมาแล้ว
