xs
xsm
sm
md
lg

ธอส.เร่งบ้านหลังแรก ลุยเฟส2อีก2.5หมื่นล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ธอส.เร่งอนุมัติโครงการบ้านหลังแรกให้แล้วเสร็จก่อนสิ้นปี เผยจ่ายเงินไปแล้ว 5 พันล้าน แจงลูกค้ายื่นขอกู้เต็มวงเงินเร็วเกินคาด ส่งผลปิดโครงการเร็วขึ้น ก่อนเริ่มทำโครงการเฟส 2 อีก 2.5 หมื่นล้าน

นายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ผู้สนใจขอยื่นกู้ซื้อที่อยู่อาศัยในโครงการบ้านหลังแรก อัตราดอกเบี้ย 0% นาน 2 ปี ครบตามจำนวน 2.5 หมื่นล้านบาทแล้ว ธอส.จะเร่งอนุมัติให้ผู้กู้ทุกรายแล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคมนี้ หรืออย่างช้าก็เดือนธันวาคม 2554 ซึ่งเร็วกว่ากำหนดเดิมที่กำหนดไว้เดือนมีนาคม 2555 เนื่องจากมีผู้ยื่นขอกู้เงินเข้ามาเต็มวงเงินเร็วภายใน 1 เดือนเท่านั้นจากที่เปิดให้ยื่นได้ถึงสิ้นปี จึงน่าจะปิดโครงการได้เร็วขึ้นและทำให้เสร็จก่อนจะมีโครงการเฟส 2 ตามออกมาอีก 2.5 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาธอส.สามารถอนุมัติสินเชื่อไปแล้ว ประมาณ 5 พันล้านบาท คาดว่าสิ้นเดือนมิถุนายนนี้น่าจะอนุมัติได้อีก 1 หมื่นล้านบาท ที่เหลือก็จะเร่งอนุมัติภายในก.ค.-ส.ค.ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติผู้กู้ด้วย โดยมองว่าจำนวนที่ยื่นขอกู้เข้ามานั้นน่าจะผ่านเกณฑ์ประมาณ 80% ส่วนที่เอกสารยังไม่ครบก็จะขยายเวลาให้ถึงสิ้นปีนี้
“ช่วงแรกมีผู้ยื่นกู้เข้ามามากและและเริ่มชะลอตัวลงทำให้ใช้เวลานานกว่าที่คาดไว้เดิมส่วนหนึ่งเป็นเพราะเงื่อนไขที่กำหนดว่าต้องเป็นบ้านหลังแรกและโครงการอาจจะยังก่อสร้างไม่เสร็จ ซึ่งจากข้อมูลที่ยื่นกู้พบว่าเป็นการซื้อบ้านใหม่มากกว่าบ้านมือสอง ส่วนหนึ่งคงเพราะราคาไม่แตกต่างกันมากโดย 70-80% กู้ซื้อคอนโดและทาวเฮ้าส์และระดับราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 1.38 ล้านบาท ลดลงจากช่วงแรกเฉลี่ยราคา 1.48 ล้านบาท สะท้อนว่าเป็นการขอกู้จากต่างจังหวัดเข้ามามากถึง 55% และมีราคาเฉลี่ยเพียง 9 แสนบาทจึงทำให้ค่าเฉลี่ยลดลงทำให้สามารถช่วยผู้มีบ้านขอตัวเองได้ถึง 1.8-2 หมื่นคน” นายวรวิทย์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม หากเปิดโครงการเฟส 2 อีก 2.5 หมื่นล้านบาทมองว่าน่าจะมีความต้องการอยู่อีกมากแต่อาจจะมีการพิจารณาเรื่องของวงเงินอีกครั้ง ซึ่งจากข้อมูลการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยของระบบธนาคารแต่ละปีมีประมาณ 3 แสนล้านบาท และ 1 ใน 4 หรือ 30% หรือเป็นเงินประมาณ 9 หมื่นล้านบาทเป็นการกู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยหลังแรก หากธอส.ทำโครงการบ้านหลังแรกรวม 5 หมื่นล้านบาทก็น่าจะรองรับความต้องการของประชาชนกลุ่มนี้ได้ โดยเฟส 2 น่าจะเปิดดำเนินการได้ในปีหน้า.
กำลังโหลดความคิดเห็น