ASTVผู้จัดการรายวัน - ยูนิลีเวอร์ เผยผุดรายการ”ไทยแลนด์ก็อตทาเลนท์” สร้างแบรนด์สินค้าอันแยบยล หวังระยะยาวมัดใจผู้บริโภคแห่ซื้อสินค้า จ่อคิวต่อซีซั่น 2 ตอกย้ำกลยุทธ์สร้างสรรค์เนื้อหารายการ ตอบโจทย์ผู้บริโภคเป็นมากกว่าการขายของ อ้างเงื่อนไขลิขสิทธิ์ห้ามโชว์คะแนนโหวต หลังปิดฉากแบบข้อกังขา
ฮือฮาและโด่งดังเป็นพลุแตกสำหรับรายการ”ไทยแลนด์ก็อตทาเลนท์” วาไรตี้โชว์ที่เป็นที่กล่าวขวัญถึงของคนไทย โดยการสร้างเรตติ้งพุ่งสูงสุด 16 และมีอันดับเฉลี่ยอยู่ที่ 13 นับว่าเป็นรายการที่มีเรตติ้งสูงที่สุดในประเทศไทย และไม่ว่าปีนี้ผลโหวตจะออกมาเป็นยังไง จะเป็นไปตามคาดหรือพลิกล็อคแค่ไหน แต่งานนี้”ยูนิลีเวอร์” ผู้ซื้อลิขสิทธิ์ก็อตทาเลนต์
ได้รับผลประโยชน์จากการสร้างแบรนด์รวมทั้งยอดขายไปเต็มๆ
เป็นที่รู้กันว่ารายการไทยแลนด์ก็อตทาเลนท์ บริษัทยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค อาทิ แชมพูซันซิล และผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายเรโซน่า ฯลฯ เป็นผู้ซื้อลิขสิทธิ์ภายใต้การทุ่มงบถึง 200ล้านบาท ถือว่าเป็นเม็ดเงินลงทุนการโฆษณาหรือการสร้างแบรนด์ที่คุ้มค่ายิ่ง จากปกติยูนิลีเวอร์ใช้เม็ดเงินในการโฆษณากว่า 1,000
ล้านบาทในทุกไตรมาส และแทบจะเป็นบริษัทที่ใช้เม็ดเงินสูงที่สุดทุกไตรมาส จากการสำรวจของเอซีเนลสัน
***สอดแทรกการสร้างแบรนด์-ขายของ***
การปรับกลยุทธ์การสื่อสารของยูนิลีเวอร์ ผ่านทางรายการไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ จากผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคกลายเป็นผู้จัดรายการแทน จากเดิมยูนิลีเวอร์ต้องซื้อเวลาโฆษณาสินค้า โดยการผันตัวมาเป็นผู้จัด ทำให้สามารถจะปรับแต่งเนื้อหาต่างๆ ภายในรายการได้ ด้วยการสอดแทรกมินิสกู๊ป “สร้างให้มั่น ปั้นให้ดัง” ซึ่งจะมีพิธีกร มดดำกับเก๋ ชลดา เป็นผู้ดำเนินรายการ
และรวมไปถึงความพยายามสื่อสารถึงผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายแอ๊กซ์ โดยการนำเหล่านางฟ้ามาเป็นกองเชียร์ในรายการ หรือกระทั่งการจัดโปรโมชันซันซิลและเรโซนาร่วมกับเอไอเอส ซึ่งผู้ที่ซื้อชุดผลิตภัณฑ์ซันซิลแชมพูและครีมนวดผมหรือเรโซนา ดราย สเปรย์ แพกเกจพิเศษ จะสามารถใช้เป็นคะแนนได้ถึง 30โหวต
ที่น่าจับตาเป็นพิเศษ คือ รายการมินิ สกู๊ปสร้างให้มั่น ปั้นให้ดัง โดยการสื่อสารให้ผู้บริโภครับรู้ถึงการเป็นแบรนด์ที่เข้ามาช่วยแนะนำวิธีเสริมสร้างเสน่ห์กับซันซิล และสร้างความมั่นใจกับเรโซนา หรือเป็นการดำเนินกลยุทธ์”คอนซูเมอร์ เซ็นทริค” (Consumer Centric) การทำให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เป็นการมองโดยใช้ความรู้สึก และความต้องการลึกๆ ในมุมมองของลูกค้า
หรือเป็นการเปลี่ยนจากการมุ่งขายสินค้า มาเป็นการเน้นแก้ปัญหาให้ลูกค้า เพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นแก่กลุ่มเป้าหมาย นับว่าเป็นกลยุทธ์การตลาดอันแยบยล ที่ไม่ใช่เป็นแบรนด์ที่มุ่งขายสินค้าอย่างเดียว
**ชี้ก็อตทาเลนต์ระยะยาวดันยอดขาย***
นางวรรณิภา ภักดีบุตร รองประธานกรรมการบริหารด้านการตลาดผลิตภัณฑ์ความงาม บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า กลยุทธ์การตลาดคอนซูเมอร์ เซ็นทริค ผ่านรายการไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ ช่วยให้ผู้บริโภครู้สึกดีต่อแบรนด์ และทำให้ผู้บริโภคเชื่อมโยงกับแบรนด์ได้อย่างชัดเจนมากขึ้น อย่าง การทำรายการสร้างให้มั่น ปั้นให้ดัง โดยซันซิลและเรโซนา
ในไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ ถือว่าเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ของทั้งสองแบรนด์
ในฐานะผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของผู้แข่งขัน
“รายการนี้ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ โดยในระยะสั้นเรายังคงวัดผลไม่ได้ว่ารายการลักษณะดังกล่าว ช่วยสร้างแบรนด์ได้มากน้อยแค่ไหน แต่ในระยะยาวมั่นใจว่าจะทำให้ผู้บริโภครู้สึกดีต่อแบรนด์ และหันมาซื้อสินค้าของยูนิลีเวอร์หรือสินค้าที่เป็นสปอนเซอร์ ขณะนี้ทางเราก็เตรียมคิดทำไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ ซีซั่น 2
ซึ่งจะมีขึ้นอย่างแน่นอนจากปีนี้มีผู้สมัครร่วม 1 หมื่นคน”
***แจงล็อกโหวตขายของ-ทำตลาด***
สำหรับกรณีที่มีกระแสข่าวการล็อกโหวตของ”ไมร่า มณีภัสสร”ผู้เข้าประกวดร้องเพลงโอเปร่า ซึ่งมีเส้นผมที่สวย และได้รับรางวัลที่สุดแห่งการพลิกโฉมจากซันซิล โดยในแง่ของการทำตลาดยูนิลีเวอร์สามารถนำผู้ชนะมาทำตลาด โดยเฉพาะแชมพูซันซิลได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ นางวรรณิภา กล่าาวว่า การเปิดเผยคะแนนโหวตจากบริษัทบีอีซีไอ คอร์ปอเรชั่น
ไม่สามารถทำได้เนื่องจากเงื่อนไขลิขสิทธิ์ก็อตทาเลนต์ห้ามเปิดเผย ซึ่งไม่เฉพาะประเทศไทยที่ห้ามเปิดเผย ทั้ง 43 ประเทศที่ซื้อลิขสิทธิ์ก็อตทาเลนต์ก็ห้ามเปิดเผยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม”ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์”ซีซั่น 2 คงเป็นโจทย์ใหญ่ของยูนิลีเวอร์ เพราะต้องไปลืมว่าเป็นยุคที่ผู้บริโภคมีสิทธิ์ที่จะเลือกรับสื่อ หรือซื้อสินค้า แม้ว่าปีนี้ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์จะเปิดตัวได้อย่างสวยหรู และปิดท้ายด้วยข้อกังหาต่างๆ รวมไปถึงกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ผ่านทางเนื้อหาที่พลั่งพลูไปด้วยการขายสินค้าต่างๆ นานา
ฮือฮาและโด่งดังเป็นพลุแตกสำหรับรายการ”ไทยแลนด์ก็อตทาเลนท์” วาไรตี้โชว์ที่เป็นที่กล่าวขวัญถึงของคนไทย โดยการสร้างเรตติ้งพุ่งสูงสุด 16 และมีอันดับเฉลี่ยอยู่ที่ 13 นับว่าเป็นรายการที่มีเรตติ้งสูงที่สุดในประเทศไทย และไม่ว่าปีนี้ผลโหวตจะออกมาเป็นยังไง จะเป็นไปตามคาดหรือพลิกล็อคแค่ไหน แต่งานนี้”ยูนิลีเวอร์” ผู้ซื้อลิขสิทธิ์ก็อตทาเลนต์
ได้รับผลประโยชน์จากการสร้างแบรนด์รวมทั้งยอดขายไปเต็มๆ
เป็นที่รู้กันว่ารายการไทยแลนด์ก็อตทาเลนท์ บริษัทยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค อาทิ แชมพูซันซิล และผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายเรโซน่า ฯลฯ เป็นผู้ซื้อลิขสิทธิ์ภายใต้การทุ่มงบถึง 200ล้านบาท ถือว่าเป็นเม็ดเงินลงทุนการโฆษณาหรือการสร้างแบรนด์ที่คุ้มค่ายิ่ง จากปกติยูนิลีเวอร์ใช้เม็ดเงินในการโฆษณากว่า 1,000
ล้านบาทในทุกไตรมาส และแทบจะเป็นบริษัทที่ใช้เม็ดเงินสูงที่สุดทุกไตรมาส จากการสำรวจของเอซีเนลสัน
***สอดแทรกการสร้างแบรนด์-ขายของ***
การปรับกลยุทธ์การสื่อสารของยูนิลีเวอร์ ผ่านทางรายการไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ จากผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคกลายเป็นผู้จัดรายการแทน จากเดิมยูนิลีเวอร์ต้องซื้อเวลาโฆษณาสินค้า โดยการผันตัวมาเป็นผู้จัด ทำให้สามารถจะปรับแต่งเนื้อหาต่างๆ ภายในรายการได้ ด้วยการสอดแทรกมินิสกู๊ป “สร้างให้มั่น ปั้นให้ดัง” ซึ่งจะมีพิธีกร มดดำกับเก๋ ชลดา เป็นผู้ดำเนินรายการ
และรวมไปถึงความพยายามสื่อสารถึงผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายแอ๊กซ์ โดยการนำเหล่านางฟ้ามาเป็นกองเชียร์ในรายการ หรือกระทั่งการจัดโปรโมชันซันซิลและเรโซนาร่วมกับเอไอเอส ซึ่งผู้ที่ซื้อชุดผลิตภัณฑ์ซันซิลแชมพูและครีมนวดผมหรือเรโซนา ดราย สเปรย์ แพกเกจพิเศษ จะสามารถใช้เป็นคะแนนได้ถึง 30โหวต
ที่น่าจับตาเป็นพิเศษ คือ รายการมินิ สกู๊ปสร้างให้มั่น ปั้นให้ดัง โดยการสื่อสารให้ผู้บริโภครับรู้ถึงการเป็นแบรนด์ที่เข้ามาช่วยแนะนำวิธีเสริมสร้างเสน่ห์กับซันซิล และสร้างความมั่นใจกับเรโซนา หรือเป็นการดำเนินกลยุทธ์”คอนซูเมอร์ เซ็นทริค” (Consumer Centric) การทำให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เป็นการมองโดยใช้ความรู้สึก และความต้องการลึกๆ ในมุมมองของลูกค้า
หรือเป็นการเปลี่ยนจากการมุ่งขายสินค้า มาเป็นการเน้นแก้ปัญหาให้ลูกค้า เพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นแก่กลุ่มเป้าหมาย นับว่าเป็นกลยุทธ์การตลาดอันแยบยล ที่ไม่ใช่เป็นแบรนด์ที่มุ่งขายสินค้าอย่างเดียว
**ชี้ก็อตทาเลนต์ระยะยาวดันยอดขาย***
นางวรรณิภา ภักดีบุตร รองประธานกรรมการบริหารด้านการตลาดผลิตภัณฑ์ความงาม บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า กลยุทธ์การตลาดคอนซูเมอร์ เซ็นทริค ผ่านรายการไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ ช่วยให้ผู้บริโภครู้สึกดีต่อแบรนด์ และทำให้ผู้บริโภคเชื่อมโยงกับแบรนด์ได้อย่างชัดเจนมากขึ้น อย่าง การทำรายการสร้างให้มั่น ปั้นให้ดัง โดยซันซิลและเรโซนา
ในไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ ถือว่าเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ของทั้งสองแบรนด์
ในฐานะผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของผู้แข่งขัน
“รายการนี้ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ โดยในระยะสั้นเรายังคงวัดผลไม่ได้ว่ารายการลักษณะดังกล่าว ช่วยสร้างแบรนด์ได้มากน้อยแค่ไหน แต่ในระยะยาวมั่นใจว่าจะทำให้ผู้บริโภครู้สึกดีต่อแบรนด์ และหันมาซื้อสินค้าของยูนิลีเวอร์หรือสินค้าที่เป็นสปอนเซอร์ ขณะนี้ทางเราก็เตรียมคิดทำไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ ซีซั่น 2
ซึ่งจะมีขึ้นอย่างแน่นอนจากปีนี้มีผู้สมัครร่วม 1 หมื่นคน”
***แจงล็อกโหวตขายของ-ทำตลาด***
สำหรับกรณีที่มีกระแสข่าวการล็อกโหวตของ”ไมร่า มณีภัสสร”ผู้เข้าประกวดร้องเพลงโอเปร่า ซึ่งมีเส้นผมที่สวย และได้รับรางวัลที่สุดแห่งการพลิกโฉมจากซันซิล โดยในแง่ของการทำตลาดยูนิลีเวอร์สามารถนำผู้ชนะมาทำตลาด โดยเฉพาะแชมพูซันซิลได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ นางวรรณิภา กล่าาวว่า การเปิดเผยคะแนนโหวตจากบริษัทบีอีซีไอ คอร์ปอเรชั่น
ไม่สามารถทำได้เนื่องจากเงื่อนไขลิขสิทธิ์ก็อตทาเลนต์ห้ามเปิดเผย ซึ่งไม่เฉพาะประเทศไทยที่ห้ามเปิดเผย ทั้ง 43 ประเทศที่ซื้อลิขสิทธิ์ก็อตทาเลนต์ก็ห้ามเปิดเผยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม”ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์”ซีซั่น 2 คงเป็นโจทย์ใหญ่ของยูนิลีเวอร์ เพราะต้องไปลืมว่าเป็นยุคที่ผู้บริโภคมีสิทธิ์ที่จะเลือกรับสื่อ หรือซื้อสินค้า แม้ว่าปีนี้ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์จะเปิดตัวได้อย่างสวยหรู และปิดท้ายด้วยข้อกังหาต่างๆ รวมไปถึงกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ผ่านทางเนื้อหาที่พลั่งพลูไปด้วยการขายสินค้าต่างๆ นานา