ASTVผู้จัดการรายวัน - บสก.รอจังหวะดึงนักพัฒนาอสังหาฯร่วมพัฒนาโครงการมูลค่าเกิน100 ล้านหลังกองทุนฯเห็นชอบตามข้อเสนอ แย้มมีทั้งที่ดินสนามกอล์ฟ โครงการอสังหาฯโซนรังสิต รวมถึงจ.เชียงราย เผยนักลงทุนจากจีน ไล่ชอปที่ดิแถบบางนา-บางปะกง ผุดโรงงานอุตฯขนาดใหญ่ รับเมกะโปรเจกต์ เล็งรับโอนหนี้เดิมจาก บสท.กลับพอร์ต มูลค่าตลาด 10,000 ล้านบาท
นายสุเมธ มณีวัฒนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (บสก.) กล่าวถึงการขยายขอบเขตธุรกิจของบสก.ว่า หลังจากได้เสนอแผนธุรกิจแก่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) นั้น ทางกองทุนฯเห็นชอบ 2 ข้อเสนอ ได้แก่ การร่วมทุนกับบริษัทพัฒนาที่อยู่อาศัยและการทำธุรกิจให้เช่า ซึ่งส่วนนี้ดำเนินการอยู่แล้วส่วนธุรกิจประเมินราคาและพัฒนาที่ดินเปล่า ยังไม่ได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นใหญ่
โดยแนวทางการร่วมทุนกับบริษัทอสังหาฯ จะยึดตามกรอบของมูลค่าโครงการ หากเกินกว่า 100ล้านบาทนั้น ทางบสก.คงต้องหาพันธมิตรมาร่วมพัฒนาโครงการ ปัจจุบัน มีหลายโครงการที่มีมูลค่าสูง เช่น โครงการสนามกอล์ฟร้าง , โครงการบริเวณโซนรังสิต รวมถึงที่จ.เชียงราย เป็นต้น ส่วนโครงการที่มีมูลค่าต่ำกว่า 100 ล้านบาททางบสก.น่าจะดำเนินการได้เอง อาทิเช่น โครงการอสังหาฯร้างที่จ.ขอนแก่น เนื้อที่ประมาณ 200 ไร่ จะทำการปรับปรุงใหม่ แบ่งเป็นเฟส เฟสแรกจะพัฒนา 50 หลัง ราคาขายเริ่มต้น 1.9-2 ล้านบาท คาดไตรมาส 3 จะเปิดตัวได้ ทั้งนี้ หลังพัฒนาทั้งหมด จะมีมูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท
สำหรับความเคลื่อนไหวของการจำหน่ายทรัพย์สินรอการขาย(เอ็นพีเอ) นายสุเมธ ชี้ว่ามีนักลงทุนทั้งไทยและเทศให้ความสนใจในทรัพย์ของบสก.อย่างมาก ซึ่งก่อนหน้านี้มีทั้งบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตทฯ , บริษัทแสนสิริฯซื้อที่ดินจากบสก.ไปพัฒนาโครงการ รวมถึงกลุ่มทีซีซี(ของกลุ่มเจริญ สิริวัฒนภักดี) ที่ดินเกี่ยวกับการเกษตร เป็นต้น
อย่างไรก็ดี ในส่วนของนักลงทุนจากต่างประเทศมีจากจีนและมาเลเซียเจรจากับบสก.ในการเลือกแปลงที่ดินสำหรับลงทุนสร้างโรงงานอุตสาหกรรมซึ่งทุนจากจีนจะมองหาทรัพย์ตั้งแต่เส้นบางนา-บางปะกงเพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจอสังหาฯและค้าปลีกขนาดใหญ่ในโซนนี้ ขณะที่ชาวมาเลเซียได้ซื้อที่ดินทางภาคใต้ไปทำสวนปาล์ม
นายสุเมธกล่าวถึงการต่อยอดโครงการ ‘พออยู่ พอกิน กับที่ดิน บสก. ’ ภายใต้แนวคิด“ทำกิน 1 ไร่ ทำได้ 1 แสนบาท ” ว่าได้คัดทรัพย์ประเภที่ดินเปล่าทั่วประเทศ มาจำหน่ายให้แก่ผู้ที่สนใจในราคาพิเศษ นอกจากนี้ยังได้จัดโปรโมชันพิเศษสุดสำหรับลูกค้า ตั้งแต่วันนี้-31 ธ.ค. 54รับฟรีค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ หรือผ่อนชำระกับบสก. ระยะ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 0% โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา สามารถจำหน่ายที่ดินรกร้างว่างเปล่าทั่วประเทศถึง 2,980 ไร่ มูลค่า 207 ล้านบาท
ทั้งนี้ เป้าการดำเนินงานในปี 54 มั่นใจว่าจะสามารถทำผลงานได้ 12,000 ล้านบาทและกำไรสุทธิ 2,800 ล้านบาท โดยครึ่งแรกของปี ทำได้ 6,000 ล้านบาท มีกำไรสุทธิที่ 1,100 ล้านบาท ปัจจุบับ บสก.มีNPL อยู่ในความดูแลจำนวน 230,000 ล้านบาท และมีเอ็นพีเอ ประมาณ 37,000 ล้านบาท โดยช่วง 5 เดือนแรก ได้ซื้อNPL และเอ็นพีเอ ประมาณ 400 กว่าล้านบาท และอยู่ระหว่างเจรจากับสถาบันการเงินอีก 10,000 ล้านบาท.
นายสุเมธ มณีวัฒนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (บสก.) กล่าวถึงการขยายขอบเขตธุรกิจของบสก.ว่า หลังจากได้เสนอแผนธุรกิจแก่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) นั้น ทางกองทุนฯเห็นชอบ 2 ข้อเสนอ ได้แก่ การร่วมทุนกับบริษัทพัฒนาที่อยู่อาศัยและการทำธุรกิจให้เช่า ซึ่งส่วนนี้ดำเนินการอยู่แล้วส่วนธุรกิจประเมินราคาและพัฒนาที่ดินเปล่า ยังไม่ได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นใหญ่
โดยแนวทางการร่วมทุนกับบริษัทอสังหาฯ จะยึดตามกรอบของมูลค่าโครงการ หากเกินกว่า 100ล้านบาทนั้น ทางบสก.คงต้องหาพันธมิตรมาร่วมพัฒนาโครงการ ปัจจุบัน มีหลายโครงการที่มีมูลค่าสูง เช่น โครงการสนามกอล์ฟร้าง , โครงการบริเวณโซนรังสิต รวมถึงที่จ.เชียงราย เป็นต้น ส่วนโครงการที่มีมูลค่าต่ำกว่า 100 ล้านบาททางบสก.น่าจะดำเนินการได้เอง อาทิเช่น โครงการอสังหาฯร้างที่จ.ขอนแก่น เนื้อที่ประมาณ 200 ไร่ จะทำการปรับปรุงใหม่ แบ่งเป็นเฟส เฟสแรกจะพัฒนา 50 หลัง ราคาขายเริ่มต้น 1.9-2 ล้านบาท คาดไตรมาส 3 จะเปิดตัวได้ ทั้งนี้ หลังพัฒนาทั้งหมด จะมีมูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท
สำหรับความเคลื่อนไหวของการจำหน่ายทรัพย์สินรอการขาย(เอ็นพีเอ) นายสุเมธ ชี้ว่ามีนักลงทุนทั้งไทยและเทศให้ความสนใจในทรัพย์ของบสก.อย่างมาก ซึ่งก่อนหน้านี้มีทั้งบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตทฯ , บริษัทแสนสิริฯซื้อที่ดินจากบสก.ไปพัฒนาโครงการ รวมถึงกลุ่มทีซีซี(ของกลุ่มเจริญ สิริวัฒนภักดี) ที่ดินเกี่ยวกับการเกษตร เป็นต้น
อย่างไรก็ดี ในส่วนของนักลงทุนจากต่างประเทศมีจากจีนและมาเลเซียเจรจากับบสก.ในการเลือกแปลงที่ดินสำหรับลงทุนสร้างโรงงานอุตสาหกรรมซึ่งทุนจากจีนจะมองหาทรัพย์ตั้งแต่เส้นบางนา-บางปะกงเพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจอสังหาฯและค้าปลีกขนาดใหญ่ในโซนนี้ ขณะที่ชาวมาเลเซียได้ซื้อที่ดินทางภาคใต้ไปทำสวนปาล์ม
นายสุเมธกล่าวถึงการต่อยอดโครงการ ‘พออยู่ พอกิน กับที่ดิน บสก. ’ ภายใต้แนวคิด“ทำกิน 1 ไร่ ทำได้ 1 แสนบาท ” ว่าได้คัดทรัพย์ประเภที่ดินเปล่าทั่วประเทศ มาจำหน่ายให้แก่ผู้ที่สนใจในราคาพิเศษ นอกจากนี้ยังได้จัดโปรโมชันพิเศษสุดสำหรับลูกค้า ตั้งแต่วันนี้-31 ธ.ค. 54รับฟรีค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ หรือผ่อนชำระกับบสก. ระยะ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 0% โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา สามารถจำหน่ายที่ดินรกร้างว่างเปล่าทั่วประเทศถึง 2,980 ไร่ มูลค่า 207 ล้านบาท
ทั้งนี้ เป้าการดำเนินงานในปี 54 มั่นใจว่าจะสามารถทำผลงานได้ 12,000 ล้านบาทและกำไรสุทธิ 2,800 ล้านบาท โดยครึ่งแรกของปี ทำได้ 6,000 ล้านบาท มีกำไรสุทธิที่ 1,100 ล้านบาท ปัจจุบับ บสก.มีNPL อยู่ในความดูแลจำนวน 230,000 ล้านบาท และมีเอ็นพีเอ ประมาณ 37,000 ล้านบาท โดยช่วง 5 เดือนแรก ได้ซื้อNPL และเอ็นพีเอ ประมาณ 400 กว่าล้านบาท และอยู่ระหว่างเจรจากับสถาบันการเงินอีก 10,000 ล้านบาท.