ASTVผู้จัดการรายวัน – “พานาโซนิค” รับศึกหนักแบรนด์เกาหลีแข่งราคารุนแรง ทุ่มงบตลาด เพิ่มเป็น 2,000 ล้านบาทรับมือเต็มที่
นายฮิโรทากะ มุราคามิ ประธานเจ้าหน้าบริหาร กลุ่มบริษัท พานาโซนิค ประเทศไทย กล่าวว่า จากการที่สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์เกาหลีมีการทำตลาดที่รุนแรง ไม่ว่าจะเป็น เครื่องซักผ้า ตู้เย็น โทรทัศน์ เป็นต้น ปีนี้บริษัทฯจึงใช้งบประมาณกว่า 2,000 ล้านบาท หรือประมาร 10% ของยอดขายรวม เพื่อรุกหนักด้านการตลาด การจัดกิจกรรม และแคมเปญทั้งปี ในทุกกลุ่มสินค้า
อีกทั้งยังได้เพิ่มงบทางด้านการทำซีเอสอาร์อีก 1 เท่าตัว หรือมูลค่ามากกว่า 100 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้วที่ใช้เพียง 50 ล้านบาทเท่านั้น เพื่อดำเนินการโครงการสร้างสรรค์ ฉลาดคิด ผลิตข่าว กับพานาโซนิค 2011 ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ 11 แล้ว และมีการสร้างอาคารเรียน การมอบทุน ในต่างจังหวัดอีกด้วย
สำหรับปัญหาเรื่องการผลิตที่มีก่อนหน้านี้ที่ประเทศญี่ปุ่น จากผลกระทบของสึนามิ ขณะนี้ทุกโรงงานได้กลับมาดำเนินการผลิตตามปกติแล้ว ขณะเดียวกันทางบริษัทแม่ยังได้กระจายโรงงานการผลิตออกไปตามเมืองต่างๆในประเทศญี่ปุ่น เพื่อบริหารความเสี่ยงอีกด้วย
นายฮิโรทากะกล่าวต่อว่า ปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าหมายรายได้ในไทยในปีงบประมาณ(เม.ย.54- มี.ค.55) เติบโต 10% หรือมีรายได้ประมาณ 20,000 ล้านบาท อันเป็นผลมาจากสภาพเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ปัญหาการเมืองลดน้อยลง และหากเลือกตั้งแล้วเสร็จไม่มีปัญหาตามมาก็จะเป็นผลดี ส่วนช่วง 2 เดือนแรกปีงบประมาณปีนี้ บริษัทฯเติบโต 10% ตามเป้าหมาย
นายฮิโรทากะ มุราคามิ ประธานเจ้าหน้าบริหาร กลุ่มบริษัท พานาโซนิค ประเทศไทย กล่าวว่า จากการที่สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์เกาหลีมีการทำตลาดที่รุนแรง ไม่ว่าจะเป็น เครื่องซักผ้า ตู้เย็น โทรทัศน์ เป็นต้น ปีนี้บริษัทฯจึงใช้งบประมาณกว่า 2,000 ล้านบาท หรือประมาร 10% ของยอดขายรวม เพื่อรุกหนักด้านการตลาด การจัดกิจกรรม และแคมเปญทั้งปี ในทุกกลุ่มสินค้า
อีกทั้งยังได้เพิ่มงบทางด้านการทำซีเอสอาร์อีก 1 เท่าตัว หรือมูลค่ามากกว่า 100 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้วที่ใช้เพียง 50 ล้านบาทเท่านั้น เพื่อดำเนินการโครงการสร้างสรรค์ ฉลาดคิด ผลิตข่าว กับพานาโซนิค 2011 ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ 11 แล้ว และมีการสร้างอาคารเรียน การมอบทุน ในต่างจังหวัดอีกด้วย
สำหรับปัญหาเรื่องการผลิตที่มีก่อนหน้านี้ที่ประเทศญี่ปุ่น จากผลกระทบของสึนามิ ขณะนี้ทุกโรงงานได้กลับมาดำเนินการผลิตตามปกติแล้ว ขณะเดียวกันทางบริษัทแม่ยังได้กระจายโรงงานการผลิตออกไปตามเมืองต่างๆในประเทศญี่ปุ่น เพื่อบริหารความเสี่ยงอีกด้วย
นายฮิโรทากะกล่าวต่อว่า ปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าหมายรายได้ในไทยในปีงบประมาณ(เม.ย.54- มี.ค.55) เติบโต 10% หรือมีรายได้ประมาณ 20,000 ล้านบาท อันเป็นผลมาจากสภาพเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ปัญหาการเมืองลดน้อยลง และหากเลือกตั้งแล้วเสร็จไม่มีปัญหาตามมาก็จะเป็นผลดี ส่วนช่วง 2 เดือนแรกปีงบประมาณปีนี้ บริษัทฯเติบโต 10% ตามเป้าหมาย