“ไฮเออร์” ปูพรมสินค้าบุกตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าปีนี้เต็มสูบ ทั้งกลุ่มตู้เย็น เครื่องซักผ้า แอร์ มั่นใจดันยอดขายปีนี้ทะลุ 1,000 ล้านบาท ปลื้มยอดขายทั่วโลกโกย 22,616 ล้านเหรียญสหรัฐ ก้าวสู่ความเป็นโกลบอลแบรนด์เต็มตัว
นายอู๋ หย่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฮเออร์ อิเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ภายใต้แบรนด์ ไฮเออร์ ของจีน เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปีนี้ ทางบริษัทได้นำสินค้าหลายกลุ่มเพื่อเปิดตัวรุ่นใหม่และบุกตลาดในปีนี้ โดยเฉพาะในกลุ่มตู้เย็น เครื่องซักผ้า และเครื่องปรับอากาศ ที่ถือเป็นกลุ่มสินค้ามีมูลค่าครองส่วนแบ่งในตลาดรวมกันกว่า 70% เชื่อมั่นว่าจะส่งผลให้ปีนี้เครื่องใช้ไฟฟ้าไฮเออร์ จะมียอดขายสูงถึง 1,000 ล้านบาท
สำหรับโรงงานไฮเออร์ในเมืองไทยมีกำลังการผลิตตู้เย็นอยู่ที่ 1.3 ล้านเครื่องต่อปี ซึ่งโรงงานการผลิตตู้เย็นของไฮเออร์นั้นมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 1 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยในจำนวนนี้ 20% ผลิตขึ้นเพื่อจำหน่ายภายในประเทศ และ 80% ส่งไปจำหน่ายยังประเทศญี่ปุ่น ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียตะวันออกกลางและแอฟริกา จึงมั่นใจว่าจะมีสินค้าป้อนตลาดได้เพียงพอ
ส่วนเครื่องปรับอากาศนั้น ไฮเออร์มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 500,000 เครื่องต่อปี โดยในจำนวนนี้ 30% ผลิตขึ้นเพื่อจัดจำหน่ายในประเทศ และส่วนที่เหลือส่งไปจำหน่ายยังประเทศในแถบยุโรป ลาตินอเมริกา และประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น มาเลเซีย เวียดนาม และอินโดนีเซีย เป็นต้น
ส่วนเครื่องซักผ้า ไฮเออร์มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 150,000 เครื่องต่อปี ในจำนวนนี้ 65% ผลิตขึ้นเพื่อจำหน่ายภายในประเทศ และที่เหลือจะส่งไปจำหน่ายในประเทศแถบเอเชียใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แอฟริกา ตะวันออกกลาง และลาตินอเมริกา
นายอู๋ ยังกล่าวถึงตลาดโลกด้วยว่า ในปีที่ผ่านมาไฮเออร์ได้พัฒนาแบรนด์โดยใช้กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ที่เน้นความแตกต่าง ตอกย้ำความเป็นแบรนด์สากล และจากการตั้งโรงงานในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชีย ด้วยผลิตภัณฑ์ของไฮเออร์ 19ชนิด ทำให้เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลก ที่มียอดขายรวมไฮเออร์ทั่วโลกในปี 2553 มีมูลค่าสูงถึง 22,616 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2552 ประมาณ 9% ซึ่งมีผลกำไรประมาณ 1,033 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี2552 ประมาณ 75% อีกทั้งตู้เย็น และเครื่องซักผ้าของไฮเออร์ ยังได้รับการจัดอันดับให้เป็น Top Global Brand อีกด้วย
ส่วนตลาดในประเทศไทยนั้นได้เข้ามาตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งได้ตั้งโรงงานที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อยู่ที่อำเภอ กบินทร์บุรี จังหวัด ปราจีนบุรี เพื่อให้เป็นโรงงานผลิตตู้เย็น เครื่องซักผ้า และเครื่องปรับอากาศ พร้อมทำการสร้างแบรนด์และการขายอย่างต่อเนื่อง
นายอู๋ หย่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฮเออร์ อิเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ภายใต้แบรนด์ ไฮเออร์ ของจีน เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปีนี้ ทางบริษัทได้นำสินค้าหลายกลุ่มเพื่อเปิดตัวรุ่นใหม่และบุกตลาดในปีนี้ โดยเฉพาะในกลุ่มตู้เย็น เครื่องซักผ้า และเครื่องปรับอากาศ ที่ถือเป็นกลุ่มสินค้ามีมูลค่าครองส่วนแบ่งในตลาดรวมกันกว่า 70% เชื่อมั่นว่าจะส่งผลให้ปีนี้เครื่องใช้ไฟฟ้าไฮเออร์ จะมียอดขายสูงถึง 1,000 ล้านบาท
สำหรับโรงงานไฮเออร์ในเมืองไทยมีกำลังการผลิตตู้เย็นอยู่ที่ 1.3 ล้านเครื่องต่อปี ซึ่งโรงงานการผลิตตู้เย็นของไฮเออร์นั้นมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 1 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยในจำนวนนี้ 20% ผลิตขึ้นเพื่อจำหน่ายภายในประเทศ และ 80% ส่งไปจำหน่ายยังประเทศญี่ปุ่น ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียตะวันออกกลางและแอฟริกา จึงมั่นใจว่าจะมีสินค้าป้อนตลาดได้เพียงพอ
ส่วนเครื่องปรับอากาศนั้น ไฮเออร์มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 500,000 เครื่องต่อปี โดยในจำนวนนี้ 30% ผลิตขึ้นเพื่อจัดจำหน่ายในประเทศ และส่วนที่เหลือส่งไปจำหน่ายยังประเทศในแถบยุโรป ลาตินอเมริกา และประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น มาเลเซีย เวียดนาม และอินโดนีเซีย เป็นต้น
ส่วนเครื่องซักผ้า ไฮเออร์มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 150,000 เครื่องต่อปี ในจำนวนนี้ 65% ผลิตขึ้นเพื่อจำหน่ายภายในประเทศ และที่เหลือจะส่งไปจำหน่ายในประเทศแถบเอเชียใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แอฟริกา ตะวันออกกลาง และลาตินอเมริกา
นายอู๋ ยังกล่าวถึงตลาดโลกด้วยว่า ในปีที่ผ่านมาไฮเออร์ได้พัฒนาแบรนด์โดยใช้กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ที่เน้นความแตกต่าง ตอกย้ำความเป็นแบรนด์สากล และจากการตั้งโรงงานในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชีย ด้วยผลิตภัณฑ์ของไฮเออร์ 19ชนิด ทำให้เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลก ที่มียอดขายรวมไฮเออร์ทั่วโลกในปี 2553 มีมูลค่าสูงถึง 22,616 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2552 ประมาณ 9% ซึ่งมีผลกำไรประมาณ 1,033 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี2552 ประมาณ 75% อีกทั้งตู้เย็น และเครื่องซักผ้าของไฮเออร์ ยังได้รับการจัดอันดับให้เป็น Top Global Brand อีกด้วย
ส่วนตลาดในประเทศไทยนั้นได้เข้ามาตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งได้ตั้งโรงงานที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อยู่ที่อำเภอ กบินทร์บุรี จังหวัด ปราจีนบุรี เพื่อให้เป็นโรงงานผลิตตู้เย็น เครื่องซักผ้า และเครื่องปรับอากาศ พร้อมทำการสร้างแบรนด์และการขายอย่างต่อเนื่อง
