ASTVผู้จัดการรายวัน - กองทุนฟื้นฟู (FIDF) เร่งเคลียร์ทรัพย์สินให้เสร็จก่อนปิดตัว เปิดประมูลขายที่ดิน 3 กลุ่มใหญ่ วางกรอบประเดิมที่ดินรัชดา ตามด้วยที่ดินภูเก็ตและแปลงย่อย 93 รายการ เผยที่ดินรัชดาจำหน่ายใบเสนอราคา 19 ก.ค.ยื่นซอง 17 ส.ค.วางหลักประกัน 70 ล้าน เปิดกว้างบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล มั่นใจหากได้รัฐบาลใหม่สามารถเดินหน้าปิดกองทุนได้เหมือนเดิม
นางทองอุไร ลิ้มปิติ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายจัดการกองทุน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ในฐานะผู้จัดการกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (กองทุนฟื้นฟูฯ) เปิดเผยว่า คณะกรรมการจัดการกองทุน(บอร์ดกองทุนฟื้นฟูฯ)มีมติเปิดขายที่ดินทั้งหมดของกองทุนฟื้นฟูฯ แบ่งเป็น 3 กลุ่ม โดยเป็นที่ดินแปลงใหญ่จำนวน 2 รายการ คือ ที่ดินรัชดาและที่ดินจ.ภูเก็ต และกลุ่มที่ 3 คือ ทรัพย์แปลงย่อย ซึ่งรวมทรัพย์สินจำนวน 93 รายการที่ยึดมาได้จากการสถาบันการเงินที่มีปัญหาในอดีต
“ยังไงเราก็ต้องร่างกฎหมายปิดตัวกองทุนฟื้นฟูฯขึ้นมา ก่อนปี 2556 อยู่แล้ว โดยกองทุนฟื้นฟูฯ ได้ส่งร่างกฎหมายดังกล่าวให้กระทรวงการคลังเรียบร้อยแล้วตามมติบอร์ดกองทุนฟื้นฟูฯ เราก็พยายามจัดการทรัพย์สินทุกอย่างให้แล้วเสร็จเท่าที่จะทำได้ ส่วนกระบวนการกฎหมายเดินหน้าต่อไปรอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่เข้ามาดูแลต่อไป”
ส่วนหุ้นขนาดใหญ่ที่กองทุนฟื้นฟูฯ ถืออยู่ทั้งธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และ บสก.ไม่จำเป็นต้องเร่งขาย เพราะกองทุนฟื้นฟูฯ ยังได้รับเงินปันผลจากหุ้นเหล่านี้ อีกทั้งกองทุนฟื้นฟูฯ มีเงินเพียงพอในการจ่ายคืนชำระพันธบัตรที่จะครบอายุไถ่ถอนในเดือนพ.ย.นี้จำนวน 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งล่าสุดสิ้นเดือนมิ.ย.นี้มีสภาพคล่องเพียงพอแล้ว
อย่างไรก็ตาม ทรัพย์สินใดที่พยายามขายได้ กองทุนฟื้นฟูฯจะพยายามที่จะขายต่อไป แต่หากทรัพย์สินใดที่ยังเหลืออยู่ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินรายการอื่นๆ ที่ต้องไปเฉลี่ยกับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ที่เหลืออยู่นอกจากที่ดินข้างต้นแล้วและหุ้นของสถาบันการเงินที่กองทุนฟื้นฟูฯ ยึดมาได้ ซึ่งถืออยู่ในสัดส่วนเล็กน้อยไม่ถึง 1% กองทุนฟื้นฟูฯจะทำการโอนสิทธิและหน้าที่ไปให้กระทรวงการคลังดูแลต่อไป เพราะมองว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่ต้องทำ
ที่ดินรัชดายื่นซอง 17 ส.ค.วางประกัน 70 ล.
สำหรับการเปิดขายที่ดินรัชดา ติด ถ.เทียมร่วมมิตร แขวงและเขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ จำนวน 4 โฉนด เนื้อที่รวม 33 ไร่เศษ เป็นการเปิดขายครั้งแรก หลังจากที่ได้ที่ดินคืนมาจากคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร โดยจะเปิดขายให้แก่บุคคลทั่วไปทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล เปิดจำหน่ายใบเสนอราคาวันที่ 19 ก.ค.-1 ส.ค.นี้ และวันที่ 17 ส.ค.นี้จะเปิดให้ยื่นซองประกวดราคาในเวลา 09.00-10.30 น. และวันเดียวกันเปิดซองประกวดราคา 11.00-12.00 น. ซึ่งผู้เข้าประกวดราคาต้องวางหลักประกันการเสนอราคาซื้อทรัพย์สินจำนวน 70 ล้านบาท
ที่ดินแปลงใหญ่อีกแห่งที่กองทุนฟื้นฟูฯ นำออกมาขายอีกครั้ง หลังจากวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมาได้มีผู้สนใจกว่า 10 ราย แต่ราคาไม่เป็นที่พอใจของบอร์ดกองทุนฟื้นฟูฯ คือ ที่ดินจ.ภูเก็ต ต.รัษฎา (สั้นใน) อ.เมือง จ.ภูเก็ต จำนวน 6 โฉนด เนื้อที่ 46 ไร่เศษ ซึ่งมองว่าต่อไปความเจริญต่างๆ จะขยายมาทางที่ดินแปลงนี้ เปิดเสนอขายให้แก่บุคคลทั่วไป โดยจำหน่ายใบเสนอราคาในวันที่ 27 มิ.ย.-8 ก.ค.นี้โดยในวันที่ 20 ก.ค. เวลา 09.00-10.30 น.จะให้ผู้สนใจยื่นซองประกวดราคา และต่อมาในเวลา 11.00-12.00 น.วันเดียวกันจะเปิดซองประมูล ผู้เข้าประกวดราคาต้องวางหลักประกันจำนวน 10 ล้านบาท
และรายการสุดท้าย คือ ที่ดินแปลงย่อย แบ่งเป็นที่ดินพร้อมอาคารสำนักงาน 18 รายการ ที่ดินพร้อมอาคารพาณิชย์ 5 รายการ ที่ดินพร้อมบ้านพักอาศัย 16 รายการ ที่ดินพร้อมโกดัง 3 รายการ ที่ดินว่างเปล่า 43 รายการ และห้องชุด 8 ห้อง ซึ่งมีกรรมสิทธิ์ร่วมกับ บสก.โดยผู้เสนอซื้อจะต้องเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยบริษัทบริหารสินทรัพย์ ผู้เข้าประกวดราคาต้องวางหลักประกันจำนวน 10 ล้านบาท และมีการเสนอราคา รวมถึงการยื่นและเปิดซองประกวดราคาพร้อมกับที่ดิน จ.ภูเก็ต
ด้านนายวีระชาติ ศรีบุญมา ผู้อำนวยการ สำนักกฎหมายและติดตามทรัพย์สิน ธปท.กล่าวเพิ่มเติมว่า การเปิดจำหน่ายที่ดินแปลงย่อยจำนวน 93 รายการดังกล่าว ส่วนหนึ่งเพื่อความรวดเร็วในการบริหารจัดการทรัพย์สินให้แล้วเสร็จก่อนการปิดตัวกองทุนฟื้นฟูฯ และเหตุผลสำคัญที่เปิดให้บริษัทบริหารสินทรัพย์มาซื้อไม่ใช่บุคคลทั่วไป เพราะมองว่าที่ดินดังกล่าวมีการบริหารจัดการยาก เพราะเป็นที่ดินที่กระจายในหลายจังหวัดและทุกภูมิภาค จึงต้องใช้มืออาชีพในการสร้างมูลค่า อีกทั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ดังกล่าวก็เป็นนิติบุคคลที่กฎหมายอนุญาตให้สามารถซื้อทรัพย์สินเหล่านี้ได้อยู่แล้ว.
นางทองอุไร ลิ้มปิติ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายจัดการกองทุน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ในฐานะผู้จัดการกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (กองทุนฟื้นฟูฯ) เปิดเผยว่า คณะกรรมการจัดการกองทุน(บอร์ดกองทุนฟื้นฟูฯ)มีมติเปิดขายที่ดินทั้งหมดของกองทุนฟื้นฟูฯ แบ่งเป็น 3 กลุ่ม โดยเป็นที่ดินแปลงใหญ่จำนวน 2 รายการ คือ ที่ดินรัชดาและที่ดินจ.ภูเก็ต และกลุ่มที่ 3 คือ ทรัพย์แปลงย่อย ซึ่งรวมทรัพย์สินจำนวน 93 รายการที่ยึดมาได้จากการสถาบันการเงินที่มีปัญหาในอดีต
“ยังไงเราก็ต้องร่างกฎหมายปิดตัวกองทุนฟื้นฟูฯขึ้นมา ก่อนปี 2556 อยู่แล้ว โดยกองทุนฟื้นฟูฯ ได้ส่งร่างกฎหมายดังกล่าวให้กระทรวงการคลังเรียบร้อยแล้วตามมติบอร์ดกองทุนฟื้นฟูฯ เราก็พยายามจัดการทรัพย์สินทุกอย่างให้แล้วเสร็จเท่าที่จะทำได้ ส่วนกระบวนการกฎหมายเดินหน้าต่อไปรอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่เข้ามาดูแลต่อไป”
ส่วนหุ้นขนาดใหญ่ที่กองทุนฟื้นฟูฯ ถืออยู่ทั้งธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และ บสก.ไม่จำเป็นต้องเร่งขาย เพราะกองทุนฟื้นฟูฯ ยังได้รับเงินปันผลจากหุ้นเหล่านี้ อีกทั้งกองทุนฟื้นฟูฯ มีเงินเพียงพอในการจ่ายคืนชำระพันธบัตรที่จะครบอายุไถ่ถอนในเดือนพ.ย.นี้จำนวน 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งล่าสุดสิ้นเดือนมิ.ย.นี้มีสภาพคล่องเพียงพอแล้ว
อย่างไรก็ตาม ทรัพย์สินใดที่พยายามขายได้ กองทุนฟื้นฟูฯจะพยายามที่จะขายต่อไป แต่หากทรัพย์สินใดที่ยังเหลืออยู่ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินรายการอื่นๆ ที่ต้องไปเฉลี่ยกับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ที่เหลืออยู่นอกจากที่ดินข้างต้นแล้วและหุ้นของสถาบันการเงินที่กองทุนฟื้นฟูฯ ยึดมาได้ ซึ่งถืออยู่ในสัดส่วนเล็กน้อยไม่ถึง 1% กองทุนฟื้นฟูฯจะทำการโอนสิทธิและหน้าที่ไปให้กระทรวงการคลังดูแลต่อไป เพราะมองว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่ต้องทำ
ที่ดินรัชดายื่นซอง 17 ส.ค.วางประกัน 70 ล.
สำหรับการเปิดขายที่ดินรัชดา ติด ถ.เทียมร่วมมิตร แขวงและเขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ จำนวน 4 โฉนด เนื้อที่รวม 33 ไร่เศษ เป็นการเปิดขายครั้งแรก หลังจากที่ได้ที่ดินคืนมาจากคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร โดยจะเปิดขายให้แก่บุคคลทั่วไปทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล เปิดจำหน่ายใบเสนอราคาวันที่ 19 ก.ค.-1 ส.ค.นี้ และวันที่ 17 ส.ค.นี้จะเปิดให้ยื่นซองประกวดราคาในเวลา 09.00-10.30 น. และวันเดียวกันเปิดซองประกวดราคา 11.00-12.00 น. ซึ่งผู้เข้าประกวดราคาต้องวางหลักประกันการเสนอราคาซื้อทรัพย์สินจำนวน 70 ล้านบาท
ที่ดินแปลงใหญ่อีกแห่งที่กองทุนฟื้นฟูฯ นำออกมาขายอีกครั้ง หลังจากวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมาได้มีผู้สนใจกว่า 10 ราย แต่ราคาไม่เป็นที่พอใจของบอร์ดกองทุนฟื้นฟูฯ คือ ที่ดินจ.ภูเก็ต ต.รัษฎา (สั้นใน) อ.เมือง จ.ภูเก็ต จำนวน 6 โฉนด เนื้อที่ 46 ไร่เศษ ซึ่งมองว่าต่อไปความเจริญต่างๆ จะขยายมาทางที่ดินแปลงนี้ เปิดเสนอขายให้แก่บุคคลทั่วไป โดยจำหน่ายใบเสนอราคาในวันที่ 27 มิ.ย.-8 ก.ค.นี้โดยในวันที่ 20 ก.ค. เวลา 09.00-10.30 น.จะให้ผู้สนใจยื่นซองประกวดราคา และต่อมาในเวลา 11.00-12.00 น.วันเดียวกันจะเปิดซองประมูล ผู้เข้าประกวดราคาต้องวางหลักประกันจำนวน 10 ล้านบาท
และรายการสุดท้าย คือ ที่ดินแปลงย่อย แบ่งเป็นที่ดินพร้อมอาคารสำนักงาน 18 รายการ ที่ดินพร้อมอาคารพาณิชย์ 5 รายการ ที่ดินพร้อมบ้านพักอาศัย 16 รายการ ที่ดินพร้อมโกดัง 3 รายการ ที่ดินว่างเปล่า 43 รายการ และห้องชุด 8 ห้อง ซึ่งมีกรรมสิทธิ์ร่วมกับ บสก.โดยผู้เสนอซื้อจะต้องเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยบริษัทบริหารสินทรัพย์ ผู้เข้าประกวดราคาต้องวางหลักประกันจำนวน 10 ล้านบาท และมีการเสนอราคา รวมถึงการยื่นและเปิดซองประกวดราคาพร้อมกับที่ดิน จ.ภูเก็ต
ด้านนายวีระชาติ ศรีบุญมา ผู้อำนวยการ สำนักกฎหมายและติดตามทรัพย์สิน ธปท.กล่าวเพิ่มเติมว่า การเปิดจำหน่ายที่ดินแปลงย่อยจำนวน 93 รายการดังกล่าว ส่วนหนึ่งเพื่อความรวดเร็วในการบริหารจัดการทรัพย์สินให้แล้วเสร็จก่อนการปิดตัวกองทุนฟื้นฟูฯ และเหตุผลสำคัญที่เปิดให้บริษัทบริหารสินทรัพย์มาซื้อไม่ใช่บุคคลทั่วไป เพราะมองว่าที่ดินดังกล่าวมีการบริหารจัดการยาก เพราะเป็นที่ดินที่กระจายในหลายจังหวัดและทุกภูมิภาค จึงต้องใช้มืออาชีพในการสร้างมูลค่า อีกทั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ดังกล่าวก็เป็นนิติบุคคลที่กฎหมายอนุญาตให้สามารถซื้อทรัพย์สินเหล่านี้ได้อยู่แล้ว.