วานนี้(30 พ.ค.) นายสมชัย จึงประเสริฐ กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ด้านกิจการสืบสวนสอบสวน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีผู้สมัครรับเลือกตั้ง 123 รายขอตำรวจไปรักษาความปลอดภัยว่า ช่วงนี้ยังไม่ถึงขั้นรุนแรง การขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดูแลรักษาความปลอดภัยนั้นเพราะทุกคนก็ต้องระมัดระวังตัวการป้องกันไว้ก่อนดีกว่าเกิดเหตุแล้วแก้ไขปัญหาภายหลัง ซึ่งเป็นความรอบคอบของผู้สมัคร ทั้งนี้ในส่วนของเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายนั้นโดยตามหลักแล้วถึงแม้จะไม่มีการเลือกตั้งก็มีการทำร้ายร่างกายกันเป็นปกติอยู่แล้ว ตนคิดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ที่ยังเกิดเหตุบ้างอยู่ในระดับที่สามารถรับมือได้และยังไม่ถึงขั้นรุนแรง
ส่วนที่ ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้จับตา 10 จังหวัดที่จะมีความรุนแรงนั้นตรงกับข้อมูลของกกต.หรือไม่ นายสมชัย กล่าวว่า ส่วนของตำรวจนั้นเน้นเรื่องอาชญากรรม ข่มขู่ ทำร้ายร่างกาย เป็นหลัก แต่ในส่วนของกกตจะมุ่งเน้นเรื่องการหาเสียงว่า ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ โดยกำลังประเมินว่ามีจังหวัดใดบ้างที่จะส่งเจ้าหน้าที่กกต.กลางลงพื้นที่ร่วมกับกกต.จังหวัดเป็นพิเศษ
** “ประพันธ์” ย้ำตร.พบเหตุสามารถจัดการได้ทันที
ที่ห้องประชุมศูนย์ราชการอาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา นายประพันธ์ นัยโกวิท คณะกรรมการการเลือกตั้ง ( กกต.) ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวบรรยายในโครงการปฏิบัติการเพื่อเตรียมการรักษาความสงบเรียบร้อยในการเลือกตั้งส.ส. เป็นการทั่วไป โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ตำรวจภูธร ภาค1-9 ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจชายแดนภาคใต้ และตำรวจตชด.ว่า ตนอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเอาจริงเอาจังกับกรณีที่มีการทุจริตการเลือกตั้ง ซึ่งตนเชื่อมั่นว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถดำเนินการได้ทุกอย่าง อยากเน้นย้ำในเรื่องการดำเนินการเลือกตั้งให้ทุกคนทำหน้าที่โดยสุจริตและเที่ยงธรรม ซึ่งทาง ผบ.ตร. ก็มีนโยบายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนอย่างชัดเจนแล้วในเรื่องการวางตัวเป็นกลาง ไม่กลั่นแกล้งใคร
สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ กกต.ต้องใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นจำนวนมาก เพราะกกต.เองก็มีหน่วยเลือกตั้งที่เพิ่มขึ้นมาถึง 94,000 กว่าหน่วย ดังนั้นการรักษาความปลดภัยประจำหน่วยเลือกตั้งครั้งนี้ จะลดเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจเพียงแค่หน่วยละ 1 คน ซึ่งจะเรียกเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ( รปภ. )ประจำหน่วยเลือกตั้ง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการป้องกันไม่ให้เกิดการทุจริตเลือกตั้งของผลคะแนน จึงอยากให้มีการเฝ้าสังเกตการณ์ ทั่งกรรมการประจำหน่วย ผู้มีสิทธิมาใช้สิทธิเลือกตั้ง รวมถึงเรื่องของเจ้าหน้าที่การนับคะแนน หากมีพฤติกรรมที่เข้าลักษณะกระทำการทุจริตก็สามารถดำเนินการได้ และการเลือกตั้งครั้งนี้เชื่อว่าจะไม่สามารถซื้อเสียงแบบยกหน่วยได้ เพราะทาง ผบ.ตร.ได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการนั้น จะต้องไม่เป็นคนในพื้นที่
“อยากให้ตำรวจที่ประจำแต่ละหน่วยเลือกตั้งเอาใจใส่กับการปฏิบัติหน้าที่ และผมขอกำชับรปภ.ประจำหน่วยเลือกตั้ง ขอใหอยู่ที่หน่วยเลือกตั้งแต่เริ่มจนเสร็จสิ้น อย่าละทิ้งการปฏิบัติหน้าที่ของตนเอง หากพบเห็นสิ่งผิดปกติ จะได้สามารถดำเนินการได้ทันที ถ้าพวกท่านจับตาดู เอาใจใส่อย่างจริงจัง เรื่องการนำบัตรเลือกตั้งมาเวียนเทียน ก็จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย" นายประพันธ์ กล่าว
นายประพันธ์ กล่าวว่า กกต.ได้รับการช่วยเหลือจากตร.เป็นอย่างดี ซึ่งจะดูแลการเลือกตั้งทุกขั้นตอนตั้งแต่โรงพิมพ์และเป็นกรรมการรักาาความปลอดภัยที่หน่วยเลือกตั้ง
ส่วนที่นายสุเทพ ระบุมีกระบวนการจ้างคนจัดฉากกลั่นแกล้งผู้สมัครนั้น นายประพันธ์กล่าวว่าขณะนี้กกต.ยังไม่ได้รับเรื่องดังกล่าว
**ผบ.ตร. กำชับผบก.เร่งรัดหาข่าวกลุ่มมือปืน
พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. กล่าวว่า ได้กำชับนายตำรวจระดับผู้บังคับการ เข้าร่วม 285 นาย โดยได้กำชับให้ตำรวจวางตัวเป็นกลาง และการวางมาตรการในการรักษาความปลอดภัยให้กับผู้สมัครรับเลือกตั้ง รวมถึงการเร่งรัดหาข่าวกลุ่มมือปืนรับจ้าง และการกระทำผิดกฎหมายการเลือกตั้ง โดยเฉพาะการทำลายป้ายหาเสียง การซื้อสิทธิขายเสียง
ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยจะลงพื้นที่หาเสียงในภาคใต้ ว่า สามารถทำได้และหากต้องการกำลังในการรักษาความปลอกภัย ขอให้ประสานมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะส่งเจ้าหน้าที่ไปคุ้มกันทันที
**รอง ผบช.น.เชื่อเลือกตั้ง กทม.ไม่รุนแรง
พล.ต.ต.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง ประเมินสถานการณ์ช่วงหาเสียงเลือกตั้งในพื้นที่ กทม.ว่า ไม่น่ามีปัญหา ไม่มีความรุนแรงเหมือนในพื้นที่ต่างจังหวัด จากการตรวจสอบว่า ผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตในพื้นที่ กทม. ทั้งหมด 199 คน ยังไม่พบการกระทำผิดเกี่ยวการเลือกตั้งแต่อย่างใด มีเพียงเหตุยิงหัวคะแนนพรรคการเมืองหนึ่งซึ่งกำลังสืบสวนกันอยู่ เบื้องต้นพบว่าเป็นเรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวกับประเด็นการเมือง
ขณะนี้มีผู้สมัคร ส.ส. จากพรรคเพื่อไทย 1 คน พรรคประชาธิปัตย์ 3 คน และพรรคภูมิใจไทย 1 คน ร้องขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูแลความปลอดภัยแล้ว เนื่องจากเกรงว่าไม่ได้รับความปลอดภัยในการลงพื้นที่หาเสียง จึงส่งตำรวจทั้งหมด 9 นาย ไปอำนวยความสะดวกเรื่องความปลอดภัยและวันที่ 31 พ.ค.-2 มิ.ย. กองบัญชาการตำรวจนครบาลจะมีการอบรมตำรวจเรื่องการรักษาความปลอดภัยผู้สมัครอีก 150 นายด้วย
อย่างไรก็ตาม อยากฝากในเรื่องของความผิด การทำลายป้ายหาเสียงว่า เป็นความผิดตามกฎหมาย ผู้กระทำผิดจะถูกจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท แต่หากมีผู้จ้างวานต้องโทษจำคุก 1 ปี ถึง 10 ปี ปรับ 20,000 -200,000 บาท และถ้าผู้เกี่ยวข้องเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองอาจถูกตัดสิทธิ์พร้อมยุบพรรคการเมืองได้ แต่หากตำรวจเห็นว่ามีการทำลายป้ายหาเสียงสามารถจับกุมได้ทันที
**3 ผู้สมัคร ส.ส.ใต้ขอจนท.คุ้มครองฯ
พล.ต.ท.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผู้บัญชาการศูนย์ปฎิบัติการตำรวจชายแดนภาคใต้ (ผบช.ศชต.)เปิดเผยว่า พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีที่นั่ง ส.ส. ต้องชิงชัย11 ที่นั่ง โดยจังหวัดปัตตานี 4 ที่นั่ง ,นราธิวาส 4 ที่นั่ง และยะลา 3 ที่นั่ง โดยมีผู้สมัคร 3 รายในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส สังกัดพรรคการเมืองใหญ่ 3 พรรค ประกอบด้วยพรรคเพื่อไทย พรรคชาติไทยพัฒนาและพรรคมาตุภูมิ ได้ร้องขอกำลังเจ้าหน้าที่คุ้มครองเป็นกรณีพิเศษ
**รอง ผบ.ตร.สั่งคุมเข้มมือปืนใต้
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีการดูแลรักษาความปลอดภัยพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในช่วงเลือกตั้งว่าได้สั่งการให้ดูแลตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง ส่วนในช่วงเลือกตั้งเนื่องจากกำลังในพื้นที่มีไม่เพียงพอ ก็ได้มีการประสานกำลังจาก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ในการที่จะใช้กำลังทหารเข้ามาใช้ในการรักษาความปลอดภัย เนื่องจากว่าพื้นที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถือเป็นพื้นที่พิเศษ
**เทือกชี้อย่าด่วนสรุปยิงหัวคะแนน เอี่ยวเลือกตั้ง
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ผู้สมัครส.ส.จากทุกพรรคการเมือง สามารถขอรับการคุ้มครองจากเจ้าหน้าที่ได้ ซึ่งตนได้สั่งการไปยังพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.แล้วว่า เมื่อนักการเมืองขอความคุ้มครองขอให้อำนวยความสะดวก รวมทั้งดำเนินการสืบสวนสอบสวนว่าจะมีภัยมาถึงผู้สมัครส.ส.คนนั้นอย่างไร และถ้าเกิดเหตุอะไร กับผู้สมัครให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ที่ต้องคุ้มกันมากเป็นพิเศษก็มีตนและนายกรัฐมนตรี
“ ที่ต้องระวังขณะนี้คือบางพรรคบางพวกกำลังสร้างสถานการณ์ ให้คนเอาปืนไปยิงรถผู้สมัครของตัวเอง เอาระเบิดปิงปอง ประทัดยักษ์ไปโยน จะได้โยนความผิดให้พรรคการเมืองอื่นหรือพรรคคู่แข่ง จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ระมัดระวังและสืบสวนว่าใครรับงานอย่างนี้บ้างในพื้นที่ต่างๆ” รองนายกฯฝ่ายความั่นคง กล่าว
ส่วนที่ล่าสุดมีการลอบยิงหัวคะแนนของนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ จ.พิจิตร นั้น เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ต้องดูกันให้ชัดเจนว่าหัวคะแนนที่ถูกยิงด้วยเรื่องอะไร ไม่ใช่ว่าใครมีปัญหาอะไรก็เทใส่เรื่องการเมืองกันหมด อย่าเพิ่งรีบสรุปว่าเป็นเรื่องการเมือง ตนจะเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการหาผู้กระทำผิดก็จะทราบว่าเรื่องอะไร
**มาร์คเชื่อไม่เป็นเลือกตั้งเลือด
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หน.พรรคปชป. กล่าวว่า ต้องพยายามดูแล แต่เท่าที่รับรายงานบางเรื่องเจ้าหน้าที่ก็ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง แต่คนก็มักจะไปโยงว่าเป็นเรื่องการเมืองทั้งหมด อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ก็ต้องทำงานหนักตอนนี้ก็ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดทั้งเรื่องของบุคคลและอาวุธ
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะกลายเป็นเลือกตั้งเลือดหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ก็พูดกันมาตั้งแต่ต้นและมีคนพยายามที่จะบอกว่ามันวุ่นวายมากแต่โดยภาพรวมตนคิดว่าขณะนี้ทุกพรรคการเมืองและประชาชนก็มีความตื่นตัวในการที่จะเดินหน้าให้การเลือกตั้งเรียบร้อย เพราะเป็นกระบวนการที่ดีที่สุดที่จะเดินหน้าต่อไปก็ขอให้ช่วยกันรักษาบรรยากาศและเจ้าหน้าที่ก็ต้องทำงานให้เข้มแข็ง
ส่วนที่ ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้จับตา 10 จังหวัดที่จะมีความรุนแรงนั้นตรงกับข้อมูลของกกต.หรือไม่ นายสมชัย กล่าวว่า ส่วนของตำรวจนั้นเน้นเรื่องอาชญากรรม ข่มขู่ ทำร้ายร่างกาย เป็นหลัก แต่ในส่วนของกกตจะมุ่งเน้นเรื่องการหาเสียงว่า ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ โดยกำลังประเมินว่ามีจังหวัดใดบ้างที่จะส่งเจ้าหน้าที่กกต.กลางลงพื้นที่ร่วมกับกกต.จังหวัดเป็นพิเศษ
** “ประพันธ์” ย้ำตร.พบเหตุสามารถจัดการได้ทันที
ที่ห้องประชุมศูนย์ราชการอาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา นายประพันธ์ นัยโกวิท คณะกรรมการการเลือกตั้ง ( กกต.) ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวบรรยายในโครงการปฏิบัติการเพื่อเตรียมการรักษาความสงบเรียบร้อยในการเลือกตั้งส.ส. เป็นการทั่วไป โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ตำรวจภูธร ภาค1-9 ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจชายแดนภาคใต้ และตำรวจตชด.ว่า ตนอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเอาจริงเอาจังกับกรณีที่มีการทุจริตการเลือกตั้ง ซึ่งตนเชื่อมั่นว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถดำเนินการได้ทุกอย่าง อยากเน้นย้ำในเรื่องการดำเนินการเลือกตั้งให้ทุกคนทำหน้าที่โดยสุจริตและเที่ยงธรรม ซึ่งทาง ผบ.ตร. ก็มีนโยบายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนอย่างชัดเจนแล้วในเรื่องการวางตัวเป็นกลาง ไม่กลั่นแกล้งใคร
สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ กกต.ต้องใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นจำนวนมาก เพราะกกต.เองก็มีหน่วยเลือกตั้งที่เพิ่มขึ้นมาถึง 94,000 กว่าหน่วย ดังนั้นการรักษาความปลดภัยประจำหน่วยเลือกตั้งครั้งนี้ จะลดเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจเพียงแค่หน่วยละ 1 คน ซึ่งจะเรียกเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ( รปภ. )ประจำหน่วยเลือกตั้ง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการป้องกันไม่ให้เกิดการทุจริตเลือกตั้งของผลคะแนน จึงอยากให้มีการเฝ้าสังเกตการณ์ ทั่งกรรมการประจำหน่วย ผู้มีสิทธิมาใช้สิทธิเลือกตั้ง รวมถึงเรื่องของเจ้าหน้าที่การนับคะแนน หากมีพฤติกรรมที่เข้าลักษณะกระทำการทุจริตก็สามารถดำเนินการได้ และการเลือกตั้งครั้งนี้เชื่อว่าจะไม่สามารถซื้อเสียงแบบยกหน่วยได้ เพราะทาง ผบ.ตร.ได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการนั้น จะต้องไม่เป็นคนในพื้นที่
“อยากให้ตำรวจที่ประจำแต่ละหน่วยเลือกตั้งเอาใจใส่กับการปฏิบัติหน้าที่ และผมขอกำชับรปภ.ประจำหน่วยเลือกตั้ง ขอใหอยู่ที่หน่วยเลือกตั้งแต่เริ่มจนเสร็จสิ้น อย่าละทิ้งการปฏิบัติหน้าที่ของตนเอง หากพบเห็นสิ่งผิดปกติ จะได้สามารถดำเนินการได้ทันที ถ้าพวกท่านจับตาดู เอาใจใส่อย่างจริงจัง เรื่องการนำบัตรเลือกตั้งมาเวียนเทียน ก็จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย" นายประพันธ์ กล่าว
นายประพันธ์ กล่าวว่า กกต.ได้รับการช่วยเหลือจากตร.เป็นอย่างดี ซึ่งจะดูแลการเลือกตั้งทุกขั้นตอนตั้งแต่โรงพิมพ์และเป็นกรรมการรักาาความปลอดภัยที่หน่วยเลือกตั้ง
ส่วนที่นายสุเทพ ระบุมีกระบวนการจ้างคนจัดฉากกลั่นแกล้งผู้สมัครนั้น นายประพันธ์กล่าวว่าขณะนี้กกต.ยังไม่ได้รับเรื่องดังกล่าว
**ผบ.ตร. กำชับผบก.เร่งรัดหาข่าวกลุ่มมือปืน
พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. กล่าวว่า ได้กำชับนายตำรวจระดับผู้บังคับการ เข้าร่วม 285 นาย โดยได้กำชับให้ตำรวจวางตัวเป็นกลาง และการวางมาตรการในการรักษาความปลอดภัยให้กับผู้สมัครรับเลือกตั้ง รวมถึงการเร่งรัดหาข่าวกลุ่มมือปืนรับจ้าง และการกระทำผิดกฎหมายการเลือกตั้ง โดยเฉพาะการทำลายป้ายหาเสียง การซื้อสิทธิขายเสียง
ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยจะลงพื้นที่หาเสียงในภาคใต้ ว่า สามารถทำได้และหากต้องการกำลังในการรักษาความปลอกภัย ขอให้ประสานมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะส่งเจ้าหน้าที่ไปคุ้มกันทันที
**รอง ผบช.น.เชื่อเลือกตั้ง กทม.ไม่รุนแรง
พล.ต.ต.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง ประเมินสถานการณ์ช่วงหาเสียงเลือกตั้งในพื้นที่ กทม.ว่า ไม่น่ามีปัญหา ไม่มีความรุนแรงเหมือนในพื้นที่ต่างจังหวัด จากการตรวจสอบว่า ผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตในพื้นที่ กทม. ทั้งหมด 199 คน ยังไม่พบการกระทำผิดเกี่ยวการเลือกตั้งแต่อย่างใด มีเพียงเหตุยิงหัวคะแนนพรรคการเมืองหนึ่งซึ่งกำลังสืบสวนกันอยู่ เบื้องต้นพบว่าเป็นเรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวกับประเด็นการเมือง
ขณะนี้มีผู้สมัคร ส.ส. จากพรรคเพื่อไทย 1 คน พรรคประชาธิปัตย์ 3 คน และพรรคภูมิใจไทย 1 คน ร้องขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูแลความปลอดภัยแล้ว เนื่องจากเกรงว่าไม่ได้รับความปลอดภัยในการลงพื้นที่หาเสียง จึงส่งตำรวจทั้งหมด 9 นาย ไปอำนวยความสะดวกเรื่องความปลอดภัยและวันที่ 31 พ.ค.-2 มิ.ย. กองบัญชาการตำรวจนครบาลจะมีการอบรมตำรวจเรื่องการรักษาความปลอดภัยผู้สมัครอีก 150 นายด้วย
อย่างไรก็ตาม อยากฝากในเรื่องของความผิด การทำลายป้ายหาเสียงว่า เป็นความผิดตามกฎหมาย ผู้กระทำผิดจะถูกจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท แต่หากมีผู้จ้างวานต้องโทษจำคุก 1 ปี ถึง 10 ปี ปรับ 20,000 -200,000 บาท และถ้าผู้เกี่ยวข้องเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองอาจถูกตัดสิทธิ์พร้อมยุบพรรคการเมืองได้ แต่หากตำรวจเห็นว่ามีการทำลายป้ายหาเสียงสามารถจับกุมได้ทันที
**3 ผู้สมัคร ส.ส.ใต้ขอจนท.คุ้มครองฯ
พล.ต.ท.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผู้บัญชาการศูนย์ปฎิบัติการตำรวจชายแดนภาคใต้ (ผบช.ศชต.)เปิดเผยว่า พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีที่นั่ง ส.ส. ต้องชิงชัย11 ที่นั่ง โดยจังหวัดปัตตานี 4 ที่นั่ง ,นราธิวาส 4 ที่นั่ง และยะลา 3 ที่นั่ง โดยมีผู้สมัคร 3 รายในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส สังกัดพรรคการเมืองใหญ่ 3 พรรค ประกอบด้วยพรรคเพื่อไทย พรรคชาติไทยพัฒนาและพรรคมาตุภูมิ ได้ร้องขอกำลังเจ้าหน้าที่คุ้มครองเป็นกรณีพิเศษ
**รอง ผบ.ตร.สั่งคุมเข้มมือปืนใต้
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีการดูแลรักษาความปลอดภัยพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในช่วงเลือกตั้งว่าได้สั่งการให้ดูแลตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง ส่วนในช่วงเลือกตั้งเนื่องจากกำลังในพื้นที่มีไม่เพียงพอ ก็ได้มีการประสานกำลังจาก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ในการที่จะใช้กำลังทหารเข้ามาใช้ในการรักษาความปลอดภัย เนื่องจากว่าพื้นที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถือเป็นพื้นที่พิเศษ
**เทือกชี้อย่าด่วนสรุปยิงหัวคะแนน เอี่ยวเลือกตั้ง
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ผู้สมัครส.ส.จากทุกพรรคการเมือง สามารถขอรับการคุ้มครองจากเจ้าหน้าที่ได้ ซึ่งตนได้สั่งการไปยังพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.แล้วว่า เมื่อนักการเมืองขอความคุ้มครองขอให้อำนวยความสะดวก รวมทั้งดำเนินการสืบสวนสอบสวนว่าจะมีภัยมาถึงผู้สมัครส.ส.คนนั้นอย่างไร และถ้าเกิดเหตุอะไร กับผู้สมัครให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ที่ต้องคุ้มกันมากเป็นพิเศษก็มีตนและนายกรัฐมนตรี
“ ที่ต้องระวังขณะนี้คือบางพรรคบางพวกกำลังสร้างสถานการณ์ ให้คนเอาปืนไปยิงรถผู้สมัครของตัวเอง เอาระเบิดปิงปอง ประทัดยักษ์ไปโยน จะได้โยนความผิดให้พรรคการเมืองอื่นหรือพรรคคู่แข่ง จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ระมัดระวังและสืบสวนว่าใครรับงานอย่างนี้บ้างในพื้นที่ต่างๆ” รองนายกฯฝ่ายความั่นคง กล่าว
ส่วนที่ล่าสุดมีการลอบยิงหัวคะแนนของนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ จ.พิจิตร นั้น เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ต้องดูกันให้ชัดเจนว่าหัวคะแนนที่ถูกยิงด้วยเรื่องอะไร ไม่ใช่ว่าใครมีปัญหาอะไรก็เทใส่เรื่องการเมืองกันหมด อย่าเพิ่งรีบสรุปว่าเป็นเรื่องการเมือง ตนจะเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการหาผู้กระทำผิดก็จะทราบว่าเรื่องอะไร
**มาร์คเชื่อไม่เป็นเลือกตั้งเลือด
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หน.พรรคปชป. กล่าวว่า ต้องพยายามดูแล แต่เท่าที่รับรายงานบางเรื่องเจ้าหน้าที่ก็ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง แต่คนก็มักจะไปโยงว่าเป็นเรื่องการเมืองทั้งหมด อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ก็ต้องทำงานหนักตอนนี้ก็ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดทั้งเรื่องของบุคคลและอาวุธ
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะกลายเป็นเลือกตั้งเลือดหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ก็พูดกันมาตั้งแต่ต้นและมีคนพยายามที่จะบอกว่ามันวุ่นวายมากแต่โดยภาพรวมตนคิดว่าขณะนี้ทุกพรรคการเมืองและประชาชนก็มีความตื่นตัวในการที่จะเดินหน้าให้การเลือกตั้งเรียบร้อย เพราะเป็นกระบวนการที่ดีที่สุดที่จะเดินหน้าต่อไปก็ขอให้ช่วยกันรักษาบรรยากาศและเจ้าหน้าที่ก็ต้องทำงานให้เข้มแข็ง