xs
xsm
sm
md
lg

มาร์คเดินสายตะวันออก ชูปราบยาเสพติดหาเสียง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อเวลา 08.30 น. วานนี้ ( 29 พ.ค. ) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)ได้เดินทางมายังอาคารคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ อิมแพคเมืองทองธานี เพื่อเข้าร่วมงาน ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดโครงการเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์ ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อรายชื่อ โดยเชิญผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ จำนวน 1,410 คน และผู้สนับสนุน จาก 40 พรรคการเมืองเข้าร่วม เพื่อรับทราบกติกาข้อห้าม ข้อควรปฏิบัติในการหาเสียง ตามกฎหมาย และระเบียบที่กกต.กำหนดไว้ รวมทั้งเสริมสร้างแนวคิดการเลือกตั้งสุจริต การรู้รักสามัคคี การรักษาความเป็นมิตรทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้ง
จากนั้น เวลา 9.45 น. นายอภิสิทธิ์ ได้ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ เพื่อออกไปช่วยลูกพรรคหาเสียงที่อ.สัตหีบ และที่บริเวณลานเลียบชายหาดพัทยาเหนือ จ.ชลบุรี หลังจากนั้น จะเดินทางไปช่วยลูกพรรคหาเสียงต่อที่ จ.ฉะเชิงเทรา

** ชูแก้ปัญหายาเสพติดแก้เกมพท.

ผู้สื่อข่าวรายงาน ช่วงที่นายอภิสิทธิ์ และคณะ ช่วยลูกพรรคหาเสียงในพื้นที่ สัตหีบ พัทยา จ.ชลบุรี โดยจุดแรกนายกรัฐมนตรีได้เข้าเยี่ยมผู้อบรมและฝึกงานด้านการบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ยังโรงเรียนวิวัฒน์พลเมืองกองทัพเรือ 3 กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 4 อย่างไรก็ตามในพื้นที่ดังกล่าวไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพหรือทำข่าวแต่อย่างไร
จากนั้นได้ออกมาพบปะประชาชนบริเวณหน้าโรงเรียนวิวัฒน์พลเมือง โดยนายอภิสิทธิ์ ได้กล่าวกับประชาชนว่า ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาได้มีการทำงานอย่างเต็มที่ และแก้ไขปัญหาให้ประชาชน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ซึ่งตอนนี้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวแล้ว แต่ไม่ได้แปลว่าทุกอย่างดี ประชาชนยังเจอของแพง ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ได้พยายามเสนอนโยบาย การแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง
พรรคประชาธิปัตย์รู้ดีว่าเรื่องปัญหาปากท้องเป็นปัญหาใหญ่ แต่อีกอย่างคือ ยาเสพติด จากการมาที่โรงเรียนวิวัฒน์พลเมือง และพบกับผู้ปกครอง โดยตนได้เน้นย้ำไปว่าปัญหาผู้เสพ เป็นเรื่องชีวิตของคนหากปล่อยให้ปัญหาลุกลาม อาจจะกลายเป็นปัญหาความมั่นคงของชาติได้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ปกติเวลาที่มีการหาเสียงเลือกตั้ง ไม่ค่อยมีคนพูดถึงเรื่องนี้ แต่ทางพรรคเห็นเรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วน คือการปราบปราม เพิ่มทีมเฉพาะกิจ และการที่พรรคเพื่อไทยออกมาร้องว่า ถูกกลั่นแกล้งในกรณีที่มี ทหาร ตำรวจ และประชาชน ตั้งด่านสกัดนั้นความจริงแล้ว มันคือความร่วมมือการปราบปรามยาเสพติด ตามนโยบาย 315 ที่จะต้องให้ทหาร และตำรวจ และประชาชน เข้ามาร่วมมือกัน และส่งเสริมเด็ก เยาวชน ให้มีโอกาสมีพื้นที่ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ และกลับคืนสู่สังคม มีอาชีพเป็นกำลังสำคัญต่อบ้านเมืองต่อไป

**"มาร์ค"ลั่นปชป.ไม่โกง - ไม่ขี้เกียจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงที่นายอภิสิทธิ์ ปราศรัยที่บริเวณลานริมชายหาดพัทยาเหนือ เพื่อช่วย นางพจนารถ แก้วผลึก ผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี เขต 7 ปชป.หาเสียง โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ปชป.จึงมีนโยบายในการพัฒนาพัทยา เพื่อผลักดันให้เศรษฐกิจไทยเดินหน้า ทั้งโครงการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนที่ ครม.เพิ่มอนุมัติไปปลายเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา รวมถึงการเดินหน้ารถไฟฟ้าความเร็วสูง จากกทม. มายังภาคตะวันออก ซึ่งเรื่องนี้ทำได้ทันที ต่างจากพรรคการเมืองอื่น ที่สนใจแต่จะแก้ไขปัญหาให้กับนักการเมืองก่อน จะนิรโทษกรรม จะล้างความผิด ต่างกับปชป. ที่ให้ความสำคัญสูงสุดในการแก้ไขปัญหาประชาชน
" 2 ปีกว่า ที่ผมทุ่มเททำงาน หลายเรื่องพี่น้องพอใจ หลายเรื่องผมยังไม่พอใจ เช่นการปราบคอร์รัปชั่น และยาเสพติด หลายเรื่องประชาชนอาจไม่สมหวัง แต่ผมยืนยันได้ว่า ปชป.ทำงานมา 2 ปีกว่า ไม่โกง และไม่ขี้เกียจ ทุกวันที่ตื่นมา ผมคิดแต่จะทำงานให้ประชาชน แม้แต่ป่วยยังไม่กล้าป่วย เพิ่งมาเป็นหวัดหลังยุบสภา ถ้าพี่น้องเลือกให้มาทำงานอีก 4 ปี ก็จะทำงานเต็มที่ ถ้าสั่งเชื้อโรคได้ จะไม่ขอป่วย และกลางเดือนมิ.ย. ผมจะกลับมาปราศรัยใหญ่ที่ จ.ชลบุรี อีกครั้ง เพื่อบอกกล่าวสิ่งที่จะทำให้พี่น้องประชาชน" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

** "มาร์ค"อ้อนชาวบางปะกงขอ 4 ที่นั่ง

ส่วนที่ จ.ฉะเชิงเทรา นายอภิสิทธิ์ ได้ไปช่วยลูกพรรคหาเสียง บริเวณตลาดนัดวัดกลาง บางปะกง โดยกล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย บอกว่าจะแก้ไข ไม่แก้แค้น แต่พอ ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง ขึ้นเวที กลับบอกว่าจะแก้แค้นทั้งนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ทำให้เห็นว่าแนวคิดปรองดองของพรรคเพื่อไทย น่ากลัวมาก การจะเลือกคนต้องเลือกคนเข้ามาสร้างบ้านเมือง วันนี้พรรคประชาธิปัตย์ ไม่สนใจเอาเรื่องพวกเดียวกันมาเป็นสิ่งสำคัญกว่าประชาชน ดังนั้นประชาชนต้องช่วยกันตัดสินใจเลือกรัฐบาล ซึ่งในพื้นที่บางปะกงตรงนี้ ประชาธิปัตย์ ขอ 4 คน และมั่นใจว่า ถ้าได้ทั้ง 4 คน เราได้เป็นรัฐบาลแน่ แต่ถ้าได้ไม่ถึง 4 คน คงต้องลุ้นกันเหนื่อย เที่ยวนี้ ส.ส. อาจมากกว่ากัน1 -2 -3 - 4 คนเท่านั้น ทุกที่นั่งของส.ส.และคะแนนเสียงบัญชีรายชื่อ มีความหมายมาก

**คุยคนอีสานตอบรับปชป.

นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการหาเสียงในพื้นที่ภาคอีสานที่ผ่านมา ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งเป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกว่า ได้รับการต้อนรับจากพี่น้องประชาชนอย่างอบอุ่น และยังได้รับทราบถึงปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตร จากเกษตรกรและเกษตรกรยังได้ยอมรับโครงการประกันรายได้เกษตรกร ว่าเป็นโครงการที่แก้ปัญหาได้จริง เกษตรกรสามารถลืมตาอ้าปากได้ ซึ่งเกษตรกรได้ยืนยันมาว่า ถ้าโครงการนี้ถูกยกเลิกโดยพรรคใดพรรคหนึ่ง เกษตรกรก็จะไม่สนับสนุนพรรคการเมืองนั้น
ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยปราศรัยโดยระบุว่า การปราศรัยที่สวนลุมพินี เพื่อรำลึก การตายของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง นั้น นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่าบริเวณดังกล่าวก็ยังเป็นสถานที่เกิดขึ้นในเวลาเดียวกันที่ประชาชนโดนยิงจรวดเอ็ม 79 บริเวณสถานีรถไฟฟ้า จนมีผู้เสียชีวิตทั้งๆ ที่เป็นผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ แต่ถูกกระทำจากผู้ก่อการร้าย หรือชายชุดดำที่ใช้อาวุธสงครามประหัตประหารประชาชน และเป็นจุดเดียวกันที่เกิดเหตุการณ์กลุ่มคนเสื้อแดงได้บุกไปที่ รพ.จุฬาฯ ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่สมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงอาพาธอยู่จนต้องย้ายโรงพยาบาล
นอกจากนั้นสวนลุมพินี ก็เป็นจุดที่มีการต่อสู้ระหว่างกองกำลังเสื้อดำ ที่เคลื่อนไหวเชื่อมโยงกับผู้เคลื่อนไหวทางการเมือง ถือเป็นบทเรียนสำคัญของคนกรุงเทพฯ ได้เรียนรู้คู่กันกับประชาชนทั่วประเทศ ตอนที่ถูกเผาพร้อมๆ กับศาลากลางจังหวัดหลายสิบแห่ง

** ตอกย้ำเสื้อแดงเชื่อมโยงพท.

สำหรับกรณีที่แกนนำรุ่นใหม่ ของกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย คือ นายทรงชัย วิมลภัตรานนท์ แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาฯได้ระบุว่า จะยื่นฟ้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยกล่าวหาว่านายอภิสิทธิ์ ได้ระบุว่าการคเลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงนปช. และพรรคเพื่อไทย เป็นความเคลื่อนไหวเดียวกันนั้น นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า เป็นข้อเท็จจริงที่ไม่เพียงแต่นายอภิสิทธิ์ หรือพรรคประชาธิปัตย์ แต่คนทั่วไปในสังคมก็ตั้งข้อสังเกต โดยเฉพาะการความเคลื่อนไหวของกลุ่ม 24 มิถุนาฯ เองที่ได้มีการรณรงค์ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 มาก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกันแกนนำนปช. ทันทีที่ได้รักการปล่อยตัว ก็ได้ขึ้นเวทีในวันที่ 10 เม.ย. และกล่าวพาดพิงปลุกระดม เพื่อสร้างความขัดแย้ง และกลุ่มคนเดียวกันก็ได้อานิสงส์ในการขึ้นเป็นผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทย ทำให้สังคมสงสัยว่า กลุ่มคนเสื้อแดง กลุ่ม 24 มิถุนา และพรรคเพื่อไทยมีการขับเคลื่อนทางการเมืองภายใต้กลุ่มเดียวกัน ใช่หรือไม่ เพราะถ้าหากไม่มีการเชื่อมโยงกันแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะสามารถ สั่งให้กลุ่มคนเสื้อแดงถอดเสื้อได้อย่างไร
นอกจากนี้ กรณีนางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ประธานนปช. เดินทางไปพบกับ นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา ซึ่งทนายคนนี้พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ว่าจ้าง เพื่อมาทำลายกระบวนการยุติธรรมของไทยอย่างต่อเนื่องใช่หรือไม่ และนายอัมสเตอร์ดัม ก็ได้ทำรายงานที่มีการพาดพิงถึงสถาบันองคมนตรี และสถาบันยุติธรรมในลักษณะทำลายความน่าเชื่อถือ
เรื่องต่างเหล่านี้ คนที่เกี่ยวข้องต้องออกมาตอบคคำถามสังคมว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่สอดรับอยู่ภายใต้การดำเนินการของบคนๆ เดียวกันใช่หรือไม่ และถ้าสิ่งใดที่สังคมตั้งข้อสงสัย ณ วันนี้เป็นความเท็จแม้แต่เรื่องเดียวก็ขอให้ให้นายทรงชัย ดำเนินการฟ้องร้องได้เต็มที่ แต่ต้องอธิบายถึงเจตนาในการคเลื่อนไหวดังกล่าวว่าทำไปด้วยวัตถุประสงค์คืออะไร

**ปชป.โวฟันส.ส.ไม่ต่ำกว่า 15 ที่นั่ง

นายวิฑูรย์ นามบุตร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ รับผิดชอบการเลือกตั้งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง กล่าวว่า ขณะนี้พื้นที่ซึ่งตน และนายอิสระ สมชัย รับผิดชอบร่วมกันอยู่ ได้แก่ จ.อุบลราชธานี ยโสธร อำนาจเจริญนั้น ผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ มีคะแนนนำพรรคคู่แข่ง และน่าจะได้รับชัยชนะ ประกอบไปด้วย จ.อำนาจเจริญ ทั้ง 2 เขต จ.ยโสธร ที่น่าจะชนะในเขตเลือกตั้งที่ 1 และ 2 รวมถึงจ.อุบลราชธานี ในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 2, 3, 6, 7,8,11 ขณะที่พื้นที่อื่นๆ และแม้ผลสำรวจจะระบุว่า ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์จะไม่ได้มีคะแนนนำ แต่บางพื้นที่มีการแข่งขันที่สูสี และเชื่อได้ว่า เมื่อใกล้จะถึงวันเลือกตั้งจะสามารถเอาชนะคู่แข่งได้
ทั้งนี้ ในพื้นที่ 3 จังหวัดดังกล่าว พรรคประชาธิปัตย์ น่าจะได้จำนวนส.ส.รวมทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 10 ที่นั่ง ซึ่งเมื่อรวมกับจังหวัดอื่นๆ ในภูมิภาคแล้วพรรคประชาธิปัตย์น่าจะได้ส.ส.ไม่ต่ำกว่า 15 ที่นั่ง

**"ยิ่งลักษณ์"ไหว้พระแก้ว-ศาลหลักเมือง

เมื่อเวลา 11.00 น. วานนี้ ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 ของพรรคเพื่อไทย พร้อมทั้ง ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร บุตรชาย และคนในครอบครัว ได้มาสักการะพระแก้วมรกต ภายในพระบรมมหาราชวัง พร้อมทั้งสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เช่น เจ้าแม่กวนอิม ที่บริเวณด้านหน้าพระอุโบสถ โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที จากนั้นน.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมทั้งครอบครัวได้เดินเท้าไปที่ศาลหลักเมือง เพื่อสักการะเจ้าพ่อหลักเมือง และศาลเจ้าพ่อหอกลอง รวมทั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่โดยรอบ นอกจากนี้ ระหว่างทางไปศาลหลักเมืองนั้นยังได้ปล่อยนก เพื่อความเป็นศิริมงคลอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อน.ส.ยิ่งลักษณ์ เดินทางไปถึงศาลหลักเมืองได้ผูกผ้าเจ็ดสีรอบศาลหลักเมืองทั้ง 3 ต้น พร้อมทั้งเติมน้ำมันตะเกียงสำหรับคนเกิดวันพุธกลางคืนร่วมกับบุตรชาย เพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์
ทั้งนี้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้รับความสนใจจากประชาชนทั่วไปที่เดินทางมาทำบุญเป็นจำนวนมาก บางรายตรงเข้ามาขอจับมือ และสวมกอด บางรายขอถ่ายรูปด้วย ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าที่ขายของอยู่บริเวณรอบศาลหลักเมืองนั้น บางคนตะโกนให้ช่วยอุดหนุนดอกไม้ โดยหยอกล้อทีเล่นทีจริงว่า หากไม่อุดหนุนจะโหวตโนให้ดู แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ยิ้มตอบด้วยดี และไม่มีบุคคลใดเข้ามาก่อกวน ทั้งนี้ หลังจากเสร็จภารกิจแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ขอเวลาส่วนตัวเพื่อทำกิจกรรมร่วมกับสมาชิกในครอบครัว

**เตรียมเดินสายลุยภาคใต้

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงโปรแกรมการลงพื้นที่หาเสียงของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่าจะมีการลงพื้นที่หาเสียงในทุกภูมิภาค เพราะเป็นพรรคการเมืองอันดับ 1 ของประเทศไทย ภาคเหนือ และภาคอีสาน เราไปมาแล้ว และสัปดาห์นี้จะไปที่ จ.นครราชสีมา จากนั้นจะไปที่ภาคกลาง ภาคตะวันออก และ ภาคใต้
ทั้งนี้ ทีมงานรณรงค์หาเสียงของพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะน.ส.ยิ่งลักษณ์ นั้นมีแผนที่จะลงพื้นที่ภาคใต้ เพื่อพบปะกับประชาชน นำนโยบายไปมอบให้กับประชาชนในพื้นที่ภาคใต้อย่างแน่นอน


**"ชูวิทย์"บุกหาเสียงขอนแก่น-โคราช

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ เบอร์ 5 พร้อมด้วยทีมงาน ได้ลงหาเสียงที่ตลาดสดบางลำภู จ.ขอนแก่น เพื่อขอคะแนนเสียงจากพ่อค้าแม่ค้า และประชาชนชาวขอนแก่น ให้เลือกตนเข้าไปทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบรัฐบาล และได้ซื้อปลาไหลที่แม่ค้านำมาขาย แล้วเดินทางโดยรถ ตุ๊กๆ ไปทำพิธีปล่อยปลาไหล ที่บึงแก่นนคร ขณะปล่อยปลาไหล นายชูวิทย์พูดว่า " ไหลไปแล้วไปเลย อย่าวกไปวนมาเหมือนปลาไหลในกะละมัง และกลับมาอีก จงไปอยู่ในที่ที่ควรอยู่ "
ต่อมาเวลา 13.30 น. นายชูวิทย์ ได้เดินทางไปหาเสียงที่บริเวณ อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยนายชูวิทย์ ได้กราบสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี โดยมีพี่น้องประชาชนที่ชื่นชอบนายชูวิทย์กว่า 200 คน รอต้อนรับพร้อมพวงมาลัย และนำผ้าขาวม้ามาคาดเอวให้ โดยนายชูวิทย์ ได้ถวายเครื่องบวงสรวง สักการะ รวมทั้งมีดดาบ และผ้าแพร และที่เป็นที่ฮือฮามาก เมื่อมีทีมงานของนายชูวิทย์ ได้นำมีดดาบซามูไรมาให้ โดยนายชูวิทย์ แสดงท่าทางจะชักดาบอยู่ 4 ครั้ง ก่อนชักดาบจริง พร้อมกับแยกเขี้ยว และพูดตะโกนเสียงดังฟังชัดว่า "ผมไม่มีแหวน ไม่มีเงิน ไม่มีทอง แต่มีดาบเอาไว้ฟันหัวเฉพาะคนที่มันโกงบ้านโกงเมือง คนที่มันทุจริต คอร์รัปชัน ผมจะเป็นฝ่ายค้าน " ก่อนกราบสักการะไหว้คุณย่าโม
นายชูวิทย์ กล่าวว่า ที่ตนต้องมาโคราช ก็เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่า ตนไปได้ทุกที่ในประเทศไทย การเป็นนักการเมืองต้องมีการต้อนรับจากทุกเขต ตนไม่อยากเห็นคนบางคนไปเหนือก็ไม่ได้ ไปอีสานก็ไม่ได้ หรือไปใต้ก็ไม่ได้

**"ภราดร-เยาวภา"ช่วย"โสภณ"หาเสียง

นายโสภณ ดำนุ้ย ผู้สมัคร ส.ส.เขต 5 กทม. (ดุสิต-ราชเทวี) พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ได้ทำการเปิดศูนย์ประสานงานการเลือกตั้ง เขตดุสิต-ราชเทวี ที่บริเวณปากซอยสุโขทัย 2 จากนั้น ได้นำทีมงานลงพื้นที่หาเสียงย่ายตลาดราชวัตร และตลาดศรีย่าน โดยเป็นขบวนจักรยานราว 10 คัน และรถกะบะติดแผ่นป้ายแนะนำตัว โอกาสนี้มีผู้สมัคร ส.ส.กทม.ของพรรคร่วมลงพื้นที่ด้วย อาทิ น.ส.เยาวภา บูรณพลชัย ผู้สมัคร ส.ส.เขต 11 กทม. พร้อมด้วย นายภราดร ศรีชาพันธุ์ รองโฆษกพรรค ที่มาร่วมสร้างสีสันและปั่นจักรยานร่วมไปในขบวน
น.ส.เยาวภา บุรพลชัย ผู้สมัคร เขต 11 หลักสี่ กล่าวว่า ไม่ได้หนักใจที่ป้ายยังติดไม่ทั่วถึง เป็นเพียงการออกตัวสตาร์ททีหลังเท่านั้น ตอนนี้ก็อาศัยการเดินแนะนำตัว เพราะเราเป็นผู้สมัครหน้าใหม่ ที่มาลงการเมืองเป็นครั้งแรก ซึ่งผู้สมัคร ส.ส.กทม. ของพรรคทุกคนก็มาช่วยกันในทุกเขต เน้นภาพความสามัคคี ตรงกับแนวนโยบายของพรรค
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการหาเสียงของพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ที่ตลาดราชวัตร และ ตลาดศรีย่าน เป็นไปด้วยความคึกคัก และได้รับความสนใจจากพ่อค้าแม่ค้า และประชาชนที่มาจับจ่ายใช้สอยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะนายภราดร และ น.ส.เยาวภา ที่มีผู้มอบดอกไม้ และขอถ่ายรูปอยู่ตลอดเวลา ขณะที่เด็กเล็กๆ จะถามนายโสภณ ถึงเรื่อง แพนด้าหลินปิง เนื่องจากในป้ายแนะนำตัวผู้สมัคร จะเป็นรูปของนายโสภณ ที่ถ่ายคู่กับแพนด้าหลินปิง
กำลังโหลดความคิดเห็น