xs
xsm
sm
md
lg

แท็กซี่คนดีเก็บเงินแสนส่งคืนเจ้าของร้านอาหาร!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายบุญมี ดวงจารย์ อายุ 62 ปี เจ้าของร้านอาหารอีสาน มอบเงิน 1 หมื่นเป็นสินน้ำใจให้กับนายสมบัติ สิริธีรวุฒิ อายุ 50 ปี โชเฟอร์รถแท็กซี่ที่เก็บเงินแสนส่งคืน
แท็กซี่น้ำใจงามโผล่ให้ชื่นชมอีก คราวนี้โชเฟอร์วัย 50 ปี เก็บเงินแสนคืนเจ้าของร้านอาหารอีสาน หลังเรียกใช้บริการแล้วทำเงินหล่นไว้ที่บริเวณที่พักเท้า ก่อนประสาน จส.100 ให้ช่วยประสานตามหาเจ้าของ เจ้าตัวเผยขับแท็กซี่มา 27 ปีไม่เคยเก็บเงินได้เยอะมาก่อน หากหาเจ้าของไม่เจอคงนอนไม่หลับ ฝากเพื่อนร่วมอาชีพเก็บเงินได้ให้ส่งคืนเจ้าของ ด้านเจ้าของร้าอาหารมอบเงิน 1 หมื่นบาทเพื่อเป็นสินน้ำใจในการทำความดี

วันนี้ (8 มิ.ย.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ สน.ดุสิต นายสมบัติ สิริธีรวุฒิ อายุ 50 ปี โชเฟอร์รถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า ลิโม่ สีส้ม หมายเลขทะเบียน ทม-4591 กทม.ของสหกรณ์บวรแท็กซี่ จำกัด นำเงินสดจำนวน 100,000 บาท มามอบคืนให้แก่นายบุญมี ดวงจารย์ อายุ 62 ปี เจ้าของร้านอาหารอีสาน “มล” ในซอยวัดสุคันธาราม แขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิต หลังจากทำตกไว้ในรถแท็กซี่เมื่อช่วงเวลา 12.30 น.ที่ผ่านมา โดยมี พ.ต.ท.พิตตินันท์ อุทธสิงห์ รอง ผกก.สส.สน.ดุสิต และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดุสิต ร่วมเป็นสักขีพยานส่งมอบเงินคืน

นายสมบัติกล่าวว่า เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมาตนได้รับนายบุญมีจากบริเวรตลาดราชวัตร แล้วขับมาส่งที่ซอยวัดสุคันธาราม โดยนายบุญมีได้จ่ายเงินค่าโดยสารมา 40 บาท ตนก็หันไปหาเหรียญ 5 บาทเพื่อทอนเงิน แต่นายบุญมีไม่เอาแล้วเดินลงจากรถไป หลังจากนั้นตนก็ขับรถมุ่งหน้าไปเปลี่ยนยางที่ร้านย่านสนามหลวง 2 ตามที่เถ้าแก่สั่งไว้ โดยที่ไม่ได้รับผู้โดยสารระหว่างทางแต่อย่างใด เมื่อไปถึงร้านก็เปิดประตูรถออกเพื่อทำความสะอาดและเอาขยะในรถไปทิ้ง จากนั้นก็เหลือบไปเห็นก้อนกระดาษ 1 ปึก ตกอยู่ตรงที่พักเท้าของผู้โดยสาร ตอนแรกคิดว่าเป็นขยะจะหยิบไปทิ้ง แต่พอหยิบขึ้นมาถึงได้รู้ว่าเป็นเงินสดจำนวน 100,000 บาท

นายสมบัติกล่าวต่อว่า ตนมั่นใจว่าเงินจำนวนดังกล่าวเป็นของนายบุญมีแน่นอน เพราะไม่ได้รับผู้โดยสารคนใดต่อ แต่ก็ทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะไปคืนเงินที่ไหน เพราะไม่เคยเก็บเงินได้มาก่อน จึงโทรศัพท์ไปปรึกษาภรรยากับเพื่อนก็ได้รับคำแนะนำว่าให้รีบนำไปคืน จึงโทรศัพท์แจ้งไปยังสถานีวิทยุ จส.100 ให้ช่วยประสานหาติดตามเจ้าของเงินให้ด้วย จนกระทั่งทางสถานีโทร.กลับมาแจ้งว่าให้นำเงินกลับมาคืนเจ้าของที่ สน.ดุสิต จึงรีบขับรถมาทันที

“ผมขับรถแท็กซี่มา 27 ปี ไม่เคยเก็บเงินได้มากขนาดนี้มาก่อน หากหาเจ้าของเงินไม่เจอผมคงนอนไม่หลับ ครั้งนี้ถือว่าโชคดีที่ผมรีบขับรถไปเปลี่ยนยางเลยยังไม่มีใครขึ้นรถต่อ ไม่เช่นนั้นผมคงรับผู้โดยสารต่อไปตามปกติและก็ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมอยากฝากไปถึงเพื่อนร่วมอาชีพแท็กซี่ด้วยกันว่า ให้นึกถึงหัวอกเขาอกเรา เจ้าของเงินเขามีความจำเป็นต้องใช้แน่นอนถึงได้ไปเบิกเงินออกมามากขนาดนี้” นายสมบัติกล่าว

ด้าน นายบุญมีกล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. ตนเดินทางไปเบิกเงินที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาราชวัตร มาจำนวน 300,000 บาท เพื่อนำไปจ่ายค่าที่ดินใน อ.ปากชม จ.เลย โดยจะออกเดินทางในคืนนี้ หลังจากเบิกเงินมาแล้วก็นำเงินจำนวน 3 ปึกๆ ละ 100,000 บาท ใส่กระเป๋ากางเกงด้านขวาไว้ จากนั้นก็เรียกแท็กซี่ของนายสมบัติเดินทางกลับมาที่ร้านเพื่อรวบรวมเงินค่าที่ดิน เมื่อมาถึงก็ควักเงินจ่ายค่าแท็กซี่ไปตามปกติโดยที่ไม่รู้ตัวว่าเงินหล่นไปตอนไหน พอเดินกลับเข้ามาที่ร้านถึงได้รู้ว่าเงินหายไป 1 ปึก จึงรีบเดินทางมาแจ้งความที่ สน.ดุสิต พร้อมทั้งแจ้งไปยังสถานวิทยุ จส.100 เพื่อให้ช่วยประสานหารถแท็กซี่คันที่รับตนจากตลาดราชวัตรด้วย เพราะตอนนั้นจำได้เพียงแต่ว่ารถแท็กซี่ที่นั่งกลับมานั้นเป็นสีส้ม แต่จำเลขทะเบียนไม่ได้ ซึ่งหลังจากรู้ว่านายสมบัตินำเงินมาคืนให้ที่ สน.ดุสิต ก็รีบเดินทางมารับเงินคืนทันที ทั้งนี้ตนจะมอบเงินให้นายสมบัติจำนวน 10,000 บาท เพื่อเป็นสินน้ำใจด้วย
รอง ผกก.สส.สน.ดุสิต ร่วมเป็นสักขีพยานส่งมอบเงินคืน
กำลังโหลดความคิดเห็น