ASTVผู้จัดการรายวัน - เลขาธิการ ก.ล.ต.เสียงอ่อย "วิจิตร" พัวพันฮุบโทรีเซนไทย (TTA) เผย ก.ล.ต.กำลังขอข้อมูลการถือหุ้นว่าเข้าข่ายได้มาหุ้นแล้วไม่รายงาน-เข้าข่ายทำเทนเดอร์หรือไม่ ยันไม่มีใครสามารถแทรกแทรงได้ ด้านบิ๊ก ตลท.ยันร่วมตรวจสอบเต็มที่
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต. ) เปิดเผยว่า การที่นายวิจิตร สุพินิจ ประธานกรรมการ ก.ล.ต.อยู่ในรายชื่อกลุ่มนักลงทุนที่อ้างว่าถือหุ้นและรวบรมวมหุ้นบริษัท บริษัทโทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA จำนวน 30% และต้องการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างคณะกรรมการ (บอร์ด) และธุรกิจนั้น เนื่องจากกฎหมาย ก.ล.ต.ต้องการให้ผู้ที่เป็นบอร์ดมีความรอบรู้ด้านตลาดทุน จึงไม่ได้ห้ามบอร์ด ก.ล.ต.ไปมีผลประโยชน์หรือห้ามมีตำหน่งในบริษัทจดทะเบียน
เกี่ยวกับความเหมาะสมกรณีของนายวิจิตร ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับกรณีของTTA นั้น ก.ล.ต. จะพิจารณาดำเนินการต่อไป โดย ก.ล.ต.ขอยืนยันว่ากระบวนการตรวจสอบเกี่ยวกับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นั้นไม่ว่าจะมีบอร์ดก.ล.ต.เข้าไปเกี่ยวข้องไม่ ตนเองก็ไม่สามารถขัดขวางแทรกแซงกระบวนการทำงานของ ก.ล.ต.ได้และ ก.ล.ต.ก็จะทำงานเต็มที่
"ก.ล.ต.อยู่ระหว่างระหว่างการติดต่อขอดูข้อมูลการถือหุ้น TTA จากกลุ่มนักลงทุนที่อ้างว่าถือหุ้นและรวบรวมหุ้นรวมกันได้ 30% โดยจะดูว่ามีกรณีการซื้อหุ้นที่ไม่ได้รายงานต่อ ก.ล.ต. และการเข้ามาถือหุ้นเข้าข่ายที่จะต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (เทนเดอร์ออฟเฟอร์) แล้วยังไม่ทำ ก็จะต้องมีการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย" นายธีระชัยกล่าวและว่า ขณะนี้ได้มีการทำหนังสือไปถึงบุคคลที่มีรายชื่อที่เกี่ยวข้องแล้ว ให้มีการชี้แจงข้อมูลกลับมาภายใน 7 วัน และ ก.ล.ต.ก็จะมีการตรวจสอบในเรื่องของราคาหุ้นด้วยเช่นกันว่ามีใครเข้ามาใช้ประโยชน์หรือไม่
ด้านนายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่าตลาดหลักทรัพย์ฯจะมีการประสานงานกับทางก.ล.ต.อย่างใกล้ชิด โดยกรณีของTTAนั้นตลท.ได้มีการรวบรวมข้อมูลการถือหุ้น ตั้งแต่วันปิดสมุดทะเบียนครั้งที่ผ่านมา จนถึงครั้งล่าสุด รวมทั้งข้อมูลการซื้อขายหลักทรัพย์ของผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรียมส่งให้ก.ล.ต.ใช้ประกอบการพิจารณา หลังTTA มีข่าวดังกล่าวมูลค่าการซื้อขายหุ้นก็มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น
“หน้าที่ของตลท.คือการให้สนับสนุนข้อมูลให้กับทาง ก.ล.ต. ตามที่ก.ล.ต.ขอมา หรือหากพบข้อมูลที่ผิดปกติ ก็จะมีการส่งข้อมูลให้ ซึ่งจะไม่เข้าไปสอบถามข้อมูลรายบุคคล เพราะ เป็นหน้าที่ของทางก.ล.ต.ที่จะต้องดำเนินการ และดูว่าการถือครองหุ้นนั้นเป็นกลุ่มเดียวกัน (แอคติ้งอินคอนเสิร์ต)หรือไม่ อย่างไรก็ตามตลท.จะประสานกับทางก.ล.ต.กรณีของTTAอย่างเต็มที่เพื่อให้เกิดความชัดเจนแก่ผุ้ลงทุนโดยเร็ว เพราะกรณีเทคโอเวอร์แบบไม่เป็นมิตรนั้นกระทบต่อนักลงทุนรายย่อยและกระทบต่อความน่าเชื่อถือในตลาดทุน”.
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต. ) เปิดเผยว่า การที่นายวิจิตร สุพินิจ ประธานกรรมการ ก.ล.ต.อยู่ในรายชื่อกลุ่มนักลงทุนที่อ้างว่าถือหุ้นและรวบรมวมหุ้นบริษัท บริษัทโทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA จำนวน 30% และต้องการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างคณะกรรมการ (บอร์ด) และธุรกิจนั้น เนื่องจากกฎหมาย ก.ล.ต.ต้องการให้ผู้ที่เป็นบอร์ดมีความรอบรู้ด้านตลาดทุน จึงไม่ได้ห้ามบอร์ด ก.ล.ต.ไปมีผลประโยชน์หรือห้ามมีตำหน่งในบริษัทจดทะเบียน
เกี่ยวกับความเหมาะสมกรณีของนายวิจิตร ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับกรณีของTTA นั้น ก.ล.ต. จะพิจารณาดำเนินการต่อไป โดย ก.ล.ต.ขอยืนยันว่ากระบวนการตรวจสอบเกี่ยวกับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นั้นไม่ว่าจะมีบอร์ดก.ล.ต.เข้าไปเกี่ยวข้องไม่ ตนเองก็ไม่สามารถขัดขวางแทรกแซงกระบวนการทำงานของ ก.ล.ต.ได้และ ก.ล.ต.ก็จะทำงานเต็มที่
"ก.ล.ต.อยู่ระหว่างระหว่างการติดต่อขอดูข้อมูลการถือหุ้น TTA จากกลุ่มนักลงทุนที่อ้างว่าถือหุ้นและรวบรวมหุ้นรวมกันได้ 30% โดยจะดูว่ามีกรณีการซื้อหุ้นที่ไม่ได้รายงานต่อ ก.ล.ต. และการเข้ามาถือหุ้นเข้าข่ายที่จะต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (เทนเดอร์ออฟเฟอร์) แล้วยังไม่ทำ ก็จะต้องมีการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย" นายธีระชัยกล่าวและว่า ขณะนี้ได้มีการทำหนังสือไปถึงบุคคลที่มีรายชื่อที่เกี่ยวข้องแล้ว ให้มีการชี้แจงข้อมูลกลับมาภายใน 7 วัน และ ก.ล.ต.ก็จะมีการตรวจสอบในเรื่องของราคาหุ้นด้วยเช่นกันว่ามีใครเข้ามาใช้ประโยชน์หรือไม่
ด้านนายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่าตลาดหลักทรัพย์ฯจะมีการประสานงานกับทางก.ล.ต.อย่างใกล้ชิด โดยกรณีของTTAนั้นตลท.ได้มีการรวบรวมข้อมูลการถือหุ้น ตั้งแต่วันปิดสมุดทะเบียนครั้งที่ผ่านมา จนถึงครั้งล่าสุด รวมทั้งข้อมูลการซื้อขายหลักทรัพย์ของผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรียมส่งให้ก.ล.ต.ใช้ประกอบการพิจารณา หลังTTA มีข่าวดังกล่าวมูลค่าการซื้อขายหุ้นก็มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น
“หน้าที่ของตลท.คือการให้สนับสนุนข้อมูลให้กับทาง ก.ล.ต. ตามที่ก.ล.ต.ขอมา หรือหากพบข้อมูลที่ผิดปกติ ก็จะมีการส่งข้อมูลให้ ซึ่งจะไม่เข้าไปสอบถามข้อมูลรายบุคคล เพราะ เป็นหน้าที่ของทางก.ล.ต.ที่จะต้องดำเนินการ และดูว่าการถือครองหุ้นนั้นเป็นกลุ่มเดียวกัน (แอคติ้งอินคอนเสิร์ต)หรือไม่ อย่างไรก็ตามตลท.จะประสานกับทางก.ล.ต.กรณีของTTAอย่างเต็มที่เพื่อให้เกิดความชัดเจนแก่ผุ้ลงทุนโดยเร็ว เพราะกรณีเทคโอเวอร์แบบไม่เป็นมิตรนั้นกระทบต่อนักลงทุนรายย่อยและกระทบต่อความน่าเชื่อถือในตลาดทุน”.