xs
xsm
sm
md
lg

บสก.รุกตลาดอสังหาฯภูธร ชูสำนักงานขายช่องทางดันยอด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - บสก. รุกตลาดอสังหาฯ ภูมิภาค ชูจุดแข็งสำนักงานเป็นเครือข่ายบริการลูกค้าแบบครบวงจร ทั้งด้านการประนอมหนี้ และเป็นศูนย์จำหน่ายNPAทั่วประเทศ ยันสำนักงานต่างจังหวัดสามารถสร้างฐานลูกค้า ปั้นทำยอดขายที่ประสบความสำเร็จเป็นช่องทางใหม่ แจงผลงาน 4 เดือนยอดขายทะลุเป้า 2,306.28 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการรายได้181.31% ลั่นเดินหน้าเข้าตลาดหุ้น คาดไม่เกินสิ้นปี 55 ได้เห็นหุ้นพรีเมียมเข้าซื้อขาย

นายสุเมธ มณีวัฒนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (บสก.) กล่าวว่า บสก. มีนโยบายที่ชัดเจนในการส่งเสริมกิจกรรมการขายทรัพย์ในเขตพื้นที่ภูมิภาค โดย บสก. ได้มีการพัฒนาสำนักงานต่างจังหวัดทั้ง 24 แห่งทั่วประเทศ ให้เป็นเครือข่ายสำคัญในการให้บริการลูกค้าแบบครบวงจร ทั้งด้านการปรับโครงสร้างหนี้และจำหน่ายทรัพย์

ทั้งนี้สำนักงานต่างจังหวัดถือได้ว่าเป็นเครือข่ายที่ส่งเสริมธุรกิจของ บสก. ได้อย่างเข้มแข็ง เนื่องจากสามารถเข้าถึงลูกค้า และมีความคุ้นเคยกับชุมชนในท้องถิ่น ทำให้เข้าใจสภาพตลาดได้เป็นอย่างดี โดยสำนักงานต่างจังหวัดจะมีการวางแผนจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยเฉพาะการออกบูธ นับเป็นช่องทางในการสร้างฐานลูกค้าและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันในปีนี้ บสก. มีแผนปรับปรุงและย้ายสำนักงานอีก 2 แห่ง เพื่อรองรับการให้บริการลูกค้าที่สะดวกมากยิ่งขึ้น ได้แก่ สำนักงานสุพรรณบุรี และสำนักงานชลบุรี

สำหรับ สำนักงานภูมิภาค เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนให้ผลการดำเนินงานของ บสก. เป็นไปตามเป้าหมาย โดยภาพรวมผลการดำเนินงานของสำนักงานภูมิภาค (มกราคม - เมษายน 2554) มีผลเรียกเก็บจากการบริหารจัดการหนี้ด้อยคุณภาพ (NPL) และจำหน่ายทรัพย์สินรอการขาย (NPA) รวมทั้งสิ้น 2,306.28 ล้านบาท จากเป้าหมาย 1,272 ล้านบาท หรือคิดเป็น 181.31% โดยเป็นผลเรียกเก็บ NPL ทำได้ถึง 710.39 ล้านบาท จากเป้าหมาย 410 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 173.27% ส่วนทางด้าน NPA ทำได้ 1,595.89 ล้านบาท จากเป้าหมาย 862 ล้านบาท หรือสูงกว่าเป้าหมาย185.14%

อย่างไรก็ดีเมื่อพิจารณาผลการดำเนินงานของสำนักภูมิภาคในเขตภาคใต้ตอนบนและภาคใต้ตอนล่างพบว่า สามารถทำผลเรียกเก็บ NPL ได้ถึง 145.11 ล้านบาท จากเป้าหมาย 103 ล้านบาท หรือสูงกว่าเป้าหมายร้อยละ 140.88 ส่วน NPA ทำได้ 431.6 ล้านบาท จากเป้าหมาย 139 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายร้อยละ 310.50 และเมื่อรวมผลเรียกเก็บ NPL และ NPA สามารถทำได้ทั้งสิ้น 576.71ล้านบาท จากเป้าหมาย 242 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายร้อยละ 238.31 ขณะที่ผลการดำเนินงานในภาพรวมของบริษัท 4 เดือนแรกของปี 2554 มีผลงานอยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยมีผลเรียกเก็บที่เป็นเงินสดรวมทั้งสิ้น 4,700.78 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 117.52 ของเป้าหมาย 4,000 ล้านบาท และมีผลกำไร ณ เมษายน 2554 จำนวน 874 ล้านบาท โดยคาดว่าทั้งปีจะสามารถทำผลงานได้ตามเป้าหมาย 12,000 ล้านบาท

กรรมการผู้จัดการใหญ่ บสก. กล่าวอีกว่า สำนักงานภูมิภาค ยังเป็นศูนย์กลางที่สำคัญในการให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ประสบปัญหาน้ำท่วมในภูมิภาคต่างๆ โดยที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่ เพื่อรับทราบปัญหาของลูกค้าว่าได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง และให้เร่งส่งข้อมูลเหล่านี้มายังสำนักงานใหญ่ เพื่อประเมินสถานการณ์และให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าของ บสก. อย่างเร่งด่วน

ทั้งนี้หากลูกค้ารายใดประสบปัญหาอย่างหนักจากเหตุการณ์ดังกล่าว ก็จะพิจารณาให้ความช่วยเหลือในหลายๆ แนวทาง อาทิ การลดดอกเบี้ย หรือพักชำระหนี้ในระยะเวลา 6 - 12 เดือน หรือลดวงเงินผ่อนชำระ ขึ้นอยู่กับผลกระทบที่ลูกหนี้ได้รับ โดยพิจารณาเป็นรายกรณีเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน ซึ่งสำนักงานภาคจะติดป้ายประกาศให้ลูกค้าที่ประสบปัญหาน้ำท่วม สามารถเข้ามาติดต่อกับสำนักงานได้โดยตรง นอกจากนั้น บสก. ยังช่วยเหลือชุมชนในเขตพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

ปักธงเข้าตลาดหุ้น-คาดสิ้นปี55ได้เห็น

สำหรับ ความคืบหน้าในการเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์นั้น นายสุเมธ กล่าวว่า บสก.ได้ทำการจ้างบริษัทหลักทรัพย์ทรีนิตี้ จำกัด เข้ามาตรวจสอบแผนดำเนินการใน 4 ด้าน หลังจากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ให้ข้อสังเกตใน 4 ด้านคือ เรื่องการปรับปรุงระบบไอที การวางแผนบริหารความเสี่ยง การบริหารการเงิน และการวางแผนบุคลากร และบสก.ได้ดำเนินการแก้ไขปรับปรุงแล้ว คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 เดือน ช่วงมิ.ย.-ก.ค.54 จะได้ผลสรุป ก่อนเสนอให้กองทุนฯพิจารณาต่อไป หากเห็นชอบ ก็จะพิจารณาคัดเลือกผู้จัดการการจำหน่าย และรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (อันเดอร์ไรเตอร์) เพื่อมาจัดทำแผนการเข้าตลาด ซึ่งขณะนี้มีสถาบันการเงินมากกว่า 10 แห่งเข้ามาเสนอตัว

ส่วนเวลาที่ชัดเจนในการเข้าตลาดหุ้นนั้น คงระบุชัดเจนไม่ได้ แต่ถ้าพิจารณาตามระยะเวลา คือ ช่วงมิ.ย.-ก.ค.54 ดูรายละเอียดเสร็จ ต่อจากนั้นก็พิจารณาคัดเลือกอันเดอร์ไรท์เตอร์ แล้วทำรายละเอียดเสนอข้อมูลต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ก็อาจใช้เวลาสักระยะหนึ่ง ซึ่งประมาณกลางปีหน้าอาจจะดำเนินการได้เสร็จ หากไม่มีข้อติดขัดอะไร หรืออย่างช้าก็ไม่น่าจะเกินปลายปี 55 ก็ยังอยู่ในแผนที่วางไว้ ส่วนมูลค่าหุ้นตามบัญชีปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 56 บาทต่อหุ้น จากราคาพาร์ 25 บาท จำนวนหุ้นทั้งหมดประมาร 547 ล้านหุ้น.
กำลังโหลดความคิดเห็น