xs
xsm
sm
md
lg

ระบอบประชาธิปไตยวิถีทุนกับการนำความเสื่อมมาสู่ระบบ

เผยแพร่:   โดย: สุทธิพงษ์ ปรัชญพฤทธิ์

พฤติกรรมตามธรรมชาติของมนุษย์ ที่ความอยากได้และความกลัวว่าจะไม่มีกินมีใช้ ทำให้มีการสะสม สะสมทั้งทรัพย์สินและอำนาจ เกิดเป็นกิเลส ทำให้โลกเป็นทุนนิยมมาโดยธรรมชาติ โลกจึงเป็นวิถีทุนมาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ แม้จะเป็นราชาธิปไตย ก็เป็นราชาธิปไตยทุนนิยม พระราชาเป็นเจ้าของอำนาจและเจ้าของทุน ทั้งชีวิตคนและที่ดินก็เป็นของพระราชา เรียกว่าพระเจ้ามหาชีวิต หรือพระเจ้าแผ่นดิน ศักดินา เป็นเจ้าของอำนาจและเจ้าของทุนตามพระบัญชาของพระราชา ต่อมาได้เปลี่ยนจากระบอบราชาธิปไตย มาเป็นระบอบประชาธิปไตย กลายมาเป็น “ระบอบประชาธิปไตยวิถีทุน”

ทุนนิยม มีการแข่งขัน มีการเอารัดเอาเปรียบ แบบมือใครยาวสาวได้สาวเอา ออกวิธีการ ออกเครื่องมือต่างๆ เพื่อเพิ่มความนิยมต่อสินค้าและบริการของตน สร้างและซื้อของหรือซื้อคนที่มีชื่อเสียง หรือตนเองพยายามมีชื่อเสียงเอง เป็นดารา ทั้งดาราละคร ดารากีฬา (Celebrity) เอาการโฆษณามาใช้ในธุรกรรมการขายสินค้าและบริการ เป็นอาชีพที่เกี่ยวข้องกับอบาย เป็นมิจฉาอาชีวะเป็นส่วนใหญ่

ทุนนิยม เป็นเรื่องของปัจเจก เป็นเรื่องของคนส่วนน้อย 5-10 เปอร์เซ็นต์ เอารัดเอาเปรียบคนส่วนใหญ่ 90-95 เปอร์เซ็นต์ ทำทุกอย่างให้ตนเองมั่งคั่งขึ้น มั่งคั่งทั้งทรัพย์สินและอำนาจ ใช้เล่ห์กลเข้าไปเป็นเจ้าของทรัพยากรระบบ เอาสินทรัพย์ของระบบไปขาย คิดทำลายแม้ทรัพยากรของระบบ เพื่อความมั่งคั่งแห่งตน ทุนนิยมทำให้คนส่วนน้อยมั่งคั่งขึ้น คนส่วนใหญ่ยากจนลง

เศรษฐกิจประเทศสหรัฐอเมริกา ยุโรป และโลกเบี่ยงเบนหนัก ทรัพยากรของระบบแทบไม่มีเหลือ ทรัพยากรของระบบตกไปเป็นนายทุน แล้วก็ตกไปเป็นของกองทุนโลกแทบหมด ทั้งยุโรปอเมริกาและโลกยากจนลง เป็นอยู่ด้วยความทุกข์เข็ญลำเค็ญ ยากระกำ ลำบาก ทุนนิยม มีความเป็นสามานย์มากขึ้น คือมีตลาดทุนเป็นองค์ประกอบ กิจกรรมหลักของตลาดทุนคือการซื้อขายตัวเลขในกระดาษ ซึ่งคล้ายๆ กับการซื้อขาย เบอร์ หวยใต้ดิน ซื้อขายลอตเตอรี่ ซึ่งเป็นอบาย ตลาดทุน จึงเป็นอบายมุขกองโตที่สุดในโลก ก่อให้เกิดความเสื่อมแก่ระบบมากขึ้นไปอีก

ในการหาเสียงเลือกตั้ง นายทุนจะให้ทุนแก่พรรคการเมืองทุกพรรคไปทำการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ดังนั้นไม่ว่าพรรคการเมืองใดได้เป็นรัฐบาล ก็จะเป็นรัฐบาลของนายทุน

ไม่มีรัฐบาลใดเป็นของประชาชนคนไทย จะมีแต่รัฐบาลของนายทุน ทุกรัฐบาลจึงทำงานรับใช้แต่นายทุน นายทุนมีจิตใจอำมหิต รัฐบาลทุกรัฐบาลจึงอำมหิตเช่นเดียวกับนายทุน นายทุนหรือทุนนิยมทำมาหากินแบบ “เกินความพอเพียง” มั่งคั่งแบบร้อยชาติก็ใช้ไม่หมด นอกจากจะลงทุนและเป็นเจ้าของทุนในประเทศแล้ว ยังไปลงทุนยังต่างประเทศด้วย รวมทั้งลงทุนในอินโดนีเซีย พม่า ลาว และกัมพูชา นี่คือเหตุหนึ่งที่ปัญหาเรื่องเขาพระวิหารและเรื่องชายแดนไทย-กัมพูชาไม่สามารถทำให้จบลงได้ เพราะรัฐบาลทำงานรับใช้นายทุน เพื่อช่วยรักษาทุน รักษาโอกาสของนายทุนที่ไปลงทุนไว้ในกัมพูชา

ทุนนิยมคือการแข่งขันกับกอบโกยผลประโยชน์จากระบบเข้าตน บุญนิยมหรือพุทธนิยมคือการแข่งขันกันเสียสละให้แก่ระบบ

ปัญหาทุกปัญหามีทางออก ระบอบประชาธิปไตยวิธีพุทธ เป็นเรื่องที่ไม่เคยมีการนำมาใช้มาก่อน “ระบอบประชาธิปไตยวิถีพุทธ ให้นักการเมืองเป็นนักอาสา ไม่มีเงินเดือน ไม่มีสินทรัพย์เป็นของตนเอง ให้รัฐเลี้ยงดูไปตลอดชีวิต และเลี้ยงดูสมาชิกครอบครัวนักการเมืองแบบมีเงื่อนไข” หากมีการนำมาใช้ ก็จะทำให้แก้ปัญหาความเลวร้ายของประเทศไทยทุกวันนี้ได้ เนื้อที่คอลัมน์มีน้อย ไม่สามารถนำเสนอเรื่องราวได้ละเอียดครบถ้วน ผู้สนใจ ตามอ่านจากลิงก์นี้

ระบอบประชาธิปไตยวิถีพุทธ ทางเจริญมั่นคงเศรษฐกิจ การเมือง สังคม ไทย http://t.co/NcRTP3i

บัญญัติสู่การเมืองใหม่ นักการเมืองเป็นนักอาสาหรือเป็นนักบุญ http://bit.ly/bnaZpC

indexthai@yahoo.com
http://twitter.com/indexthai
กำลังโหลดความคิดเห็น