แพทย์ชี้เด็ก 11 ปี ส่งข้อความขอมีเซ็กส์กับเพื่อนต่างเพศ เป็นแค่พฤติกรรมอยากรู้อยากเห็น ระบุเกิดขึ้นบ่อยในสังคมปัจจุบัน เหตุเสพสื่อไม่เหมาะสม-อาจมีปมจากการถูกล่วงละเมิดมาก่อน
จากกรณีที่เด็กชายวัย 11 ปี จ.พิษณุโลก ได้ส่งข้อความสั้น (SMS) เพื่อขอมีเพศศัมพันธ์กับเพื่อนผู้หญิงวัยเดียวกัน จนผู้ปกครองทราบเรื่องและร้องต่อสื่อมวลชน กระทั่งผู้ว่าราชการจังหวัดต้องสั่งการให้ผู้อำนวยการเขตของสถาบันการศึกษาต้องดูแลคุมเข้มในเรื่องของการส่งเสริมจริยธรรมแบบวิถีพุทธให้แก่เด็กนักเรียนนั้น
ล่าสุดวานนี้ (11 พ.ค.) พญ.พรรณพิมล วิปุลากร ผู้อำนวยการสถาบันราชานุกูล กล่าวว่า พฤติกรรมดังกล่าวเป็นพฤติกรรมที่พบได้บ่อยในเด็กยุคปัจจุบัน เนื่องจากสาเหตุหลัก 2 เรื่อง คือ 1.เสพพฤติกรรมจากสื่อ ทั้งโทรทัศน์ หนังสือ และอินเทอร์เน็ต และได้รู้ได้ยินจากคนรอบข้าง ที่อาจอยู่ในวัยต่างกัน ทำให้เกิดการจดจำและเลียนแบบ ซึ่งยอมรับว่า เป็นเรื่องที่คุมเข้มได้ยาก กับ 2.เกิดเพราะเด็กเข้าไปเผชิญกับเหตุการณ์บางอย่างที่ไม่เหมาะสมกับวัย เช่น อาจเคยถูกล่วงละเมิดมาก่อน หรือเคยได้รับข้อความลักษณะลามกหรืออนาจาร จากผู้อื่นมาก่อน อาจมีการถูกบังคับให้ทำ โดยผู้มีอิทธิพลกว่า ซึ่งส่วนนี้ทำให้เด็กหลายคนต้องการแสดงออกต่อคนอื่นบ้าง เพราะรู้สึกว่าตัวเองถูกกระทำฝ่ายเดียวนั้นไม่เหมาะสม ซึ่งโดยปกติเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดกับเด็กชายเนื่องจากบางคนคิดว่าเป็นเรื่อง ที่ท้าทายความสามารถ และความกล้า แต่ไม่เกี่ยวกับปัญหาสภาวะสุขภาพจิตใดๆ ทั้งสิ้น เพราะเด็กวัยนี้เป็นวัยเรียนรู้
พญ.พรรณพิมลกล่าวต่อว่า จริงๆแล้วผู้ปกครองสามารถป้องกันการแสดงออกทางพฤติกรรมดังกล่าวได้ ด้วยการหางานอดิเรกให้เด็กทำ เช่น เล่นกีฬา ดนตรี ที่เหมาะสมกับวัย เพื่อไม่ให้เด็กหมกมุ่นกับเรื่องเพศมากไป เพราะ วัยดังกล่าวเป็นวัยที่ อยากรู้อยากเห็นทุกเรื่องและแยกแยะไม่ออกว่าอะไรเหมาะสมหรือไม่ หากปล่อยให้เด็กเจอเหตุการณ์ใดซ้ำๆ ก็หมายความว่าเขาจะให้ความสนใจสิ่งนั้นเป็นพิเศษ และสิ่งที่ต้องระวัง คือ การคบเพื่อนต่างวัยนั้นมีอิทธิพลอย่างมาก เพราะสังคมไทยของเราสอนเรื่องเพศในแต่ละวัยต่างกัน วัยอนุบาลและประถมอาจแค่การรู้จักอวัยวะ และการป้องกันตนเองจากการละเมิดทางเพศ แต่ยังไม่ลงรายละเอียดเรื่องของการมีเพศสัมพันธ์ ดังนั้นหากคุยกับเพื่อนรุ่นพี่ต่างวัย เช่น วัยมัธยม วัยมหาวิทยาลัย ที่เข้าใจเรื่องเพศสัมพันธ์ดีเขาก็ไม่มีศักยภาพในการแยกแยะออกเลย หากไม่ได้รับคำแนะนำ แต่ทั้งนี้หากผู้ปกครองท่านใดเผชิญปัญหาลักษณะคล้ายกัน แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ให้โทร.มาที่สายด่วน 1323 ของกรมสุขภาพจิต เพื่อปรึกษาตลอดเวลา เนื่องจากทุกวันนี้ก็เจอผู้ปกครองหลายท่านโทร.มาปรึกษาบ่อยครั้ง
