อุบลราชธานี-เรือนจำกลางอุบลราชธานี ใช้บทเรียนลูกเสือชาวบ้าน กล่อมเกลาจิตใจผู้ต้องขังให้มีจิตอาสา ก่อนถูกปล่อยตัวออกไปทำความดีให้สังคมยอมรับ
นายชัยโรจน์ สินธุวุฒิพงษ์ ผู้บัญชาการเรือนจำกลาง จ.อุบลราชธานี และคณะวิทยากรลูกเสือชาวบ้านจากกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 22 จ.อุบลราชธานี จัดโครงการจิตอาสาแก่ผู้ต้องกักขัง หรือผู้ต้องโทษภายในเรือนจำกลางจังหวัดอุบลราชธานี ทั้งหญิงและชายจำนวน 300 คน ที่กำลังจะพ้นโทษจากการคุมขังภายในปีนี้ เพื่อลดความเครียดที่เข้ามาอยู่ในเรือนจำระหว่างต้องโทษ และสร้างจิตสำนึกไม่ให้หวนกลับไปกระทำผิดอีก เมื่อได้รับการปล่อยตัว
โดยใช้วิถีพุทธคือ การนั่งสมาธิ ภาวนา จดจำคำสอนของพระพุทธเจ้าให้ทำตัวเป็นคนดี เป็นผู้มีจิตอาสาช่วยเหลือสังคม เพื่อสร้างการยอมรับให้กลับเข้าไปอยู่ในสังคม หลังได้รับการปล่อยออกไป ซึ่งการอบรมมีระยะเวลาทั้งสิ้น 3 วัน โดยลูกเสือเรือนจำกลางอุบลราชธานี ได้ทดลองทำโครงการเป็นรุ่นแรกในปีนี้
หากประสบความเร็จในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้ต้องขังได้ จะทำในรุ่นต่อๆไปด้วย
นายชัยโรจน์ สินธุวุฒิพงษ์ ผู้บัญชาการเรือนจำกลาง จ.อุบลราชธานี และคณะวิทยากรลูกเสือชาวบ้านจากกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 22 จ.อุบลราชธานี จัดโครงการจิตอาสาแก่ผู้ต้องกักขัง หรือผู้ต้องโทษภายในเรือนจำกลางจังหวัดอุบลราชธานี ทั้งหญิงและชายจำนวน 300 คน ที่กำลังจะพ้นโทษจากการคุมขังภายในปีนี้ เพื่อลดความเครียดที่เข้ามาอยู่ในเรือนจำระหว่างต้องโทษ และสร้างจิตสำนึกไม่ให้หวนกลับไปกระทำผิดอีก เมื่อได้รับการปล่อยตัว
โดยใช้วิถีพุทธคือ การนั่งสมาธิ ภาวนา จดจำคำสอนของพระพุทธเจ้าให้ทำตัวเป็นคนดี เป็นผู้มีจิตอาสาช่วยเหลือสังคม เพื่อสร้างการยอมรับให้กลับเข้าไปอยู่ในสังคม หลังได้รับการปล่อยออกไป ซึ่งการอบรมมีระยะเวลาทั้งสิ้น 3 วัน โดยลูกเสือเรือนจำกลางอุบลราชธานี ได้ทดลองทำโครงการเป็นรุ่นแรกในปีนี้
หากประสบความเร็จในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้ต้องขังได้ จะทำในรุ่นต่อๆไปด้วย
