ASTVผู้จัดการรายวัน - “ไอ้ตู่” วืดประกันตัว ศาลอุทธรณ์ยกคำร้อง ชี้ต้องรอคดีจบ ระบุพฤติการณ์พูดพาดพิงบุคคล-สถาบันรุนแรง หวั่นก่อเหตุซ้ำ แฉเจ้าตัวเครียด นอนไม่หลับ ขณะที่กลุ่มผู้ค้าราชประสงค์ร้องเสื้อแดงชุมนุมป่วนละเมิดข้อตกลงว่าจะไม่ชุมนุม เผยธุรกิจเสียหาย นักท่องเที่ยวเลิกห้องพักกว่า 3,000 ราย ห้างสรรพสินค้า-ร้านค้ารายย่อยสูญเสียรายได้ เตรียมฟ้องรัฐบาลฐานรู้ล่วงหน้ามีการชุมนุมแต่ไม่แก้ไข
วานนี้ (20 พ.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำสั่งศาลอุทธรณ์ที่นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความรับมอบอำนาจ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จำเลยที่ 2 คดีร่วมกันก่อการร้าย ยื่นอุทธรณ์ขอปล่อยตัวชั่วคราว
โดยศาลอุทธรณ์ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ข้อที่จำเลยที่ 2 อุทธรณ์คำสั่งเกี่ยวกับที่ศาลชั้นต้นให้เพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราวว่าเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบนั้น เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาที่คดียังไม่เสร็จการพิจารณา จึงห้ามไม่ให้อุทธรณ์คำสั่งนั้นจนกว่าคดีจะมีคำพิพากษา หรือคำสั่งในประเด็นสำคัญ และมีอุทธรณ์คำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นด้วย ตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 196 ศาลอุทธรณ์จึงไม่รับวินิจฉัย
ส่วนที่จำเลยที่ 2 อุทธรณ์คำสั่งเกี่ยวกับการที่จำเลยยื่นคำร้องขอให้ปล่อยตัวชั่วคราวอีกครั้งเมื่อวันที่ 12 พ.ค.54 และศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาต การกระทำของจำเลยที่ 2 ท่านมาที่ปรากฏในสำนวนมีการกล่าวพาดพิงถึงบุคคลและสถาบันต่างๆ ด้วยถ้อยคำที่รุนแรง อันมีลักษณะส่อไปในทางที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองได้ จึงมีเหตุอันควร เชื่อว่า หากปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยที่ 2 ระหว่างพิจารณาแล้ว จำเลยที่ 2 จะไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น ดังที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งในชั้นนี้จึงยังไม่มีเหตุอันสมควรจะให้ปล่อยชั่วคราว คำสั่งศาลชั้นต้นชอบแล้ว จึงให้ยกคำร้อง
** ธิดา-เหวง เยี่ยม "ไอ้ตู่"
วันเดียวกันก่อนหน้า นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. พร้อมด้วย น.พ.เหวง โตจิราการ ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ เดินทางเข้าเยี่ยม นายจตุพร พรหมพันธุ์ และ นายนิสิต สินธุไพร ที่ถูกคุมขังอยู่บริเวณเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร โดยนางธิดา ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าเยี่ยมว่า การเข้าเยี่ยมในวันนี้ เพื่อสอบถามความเป็นอยู่ของนายจตุพร ภายในเรือนจำ และเพื่อหาแนวทางการช่วยเหลือในเรื่องคดีความ รวมไปถึงคดีที่เกี่ยวกับความด้านความมั่นคงรัฐ และคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามมาตรา 112 และ 116 ซึ่งคดีดังกล่าวนั้น ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ จะมีการประชุมหารือกันในวันนี้
อย่างไรก็ตาม นางธิดา ยังกล่าวยืนยันว่า หากการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นนั้น ทางพรรคเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาล กลุ่ม นปช. ก็ยังจะเดินหน้าการชุมนุมต่อไป ตามแนวทางประชาธิปไตย
ด้าน นพ.เหวง กล่าวว่า นายจตุพร ไม่ได้กังวลเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่เป็นห่วงเรื่องคดีความของตัวเองที่มีหลายคดี ส่วนที่หลายฝ่ายแสดงความกังวลเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของแกนนำบางคนที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง อาจทำให้สุ่มเสี่ยงกับการถูกร้องเรียน เมื่อเข้าร่วมกิจกรรมคนเสื้อแดงนั้น นพ.เหวง ยืนยันว่าในส่วนของแกนนำที่ลงสมัครรับเลือกตั้งทุกคนเข้าใจถึงบทบาทหน้าที่ว่าไม่ควรขึ้นเวทีหรือไปปราศรัยใดๆ บนเวที นปช.อย่างเด็ดขาด แต่การเข้าร่วมกิจกรรมของ นปช.ตามสิทธิของประชาชนคนหนึ่งยังสามารถทำได้
นพ.เหวง กล่าวต่อว่า แม้จะผ่านเหตุการณ์มาครบ 1 ปีแล้ว แต่ตนเห็นว่าไม่มีอะไรดีขึ้น เหตุการณ์เสียชีวิตของประชาชนทั้ง 89 ศพ ขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ตามขั้นตอน โดยเฉพาะคดีการเสียชีวิตของนายฮิโรยูกิ มูราโมโตะ ซึ่งการสอบสวนยังมีความสับสนเกี่ยวกับอาวุธที่ใช้ยิง ซึ่ง นปช.จะติดตามความคืบหน้าเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้ผู้เสียชีวิตต่อไป
**จับตา“ไอ้ตู่” กินไม่ได้ นอนไม่หลับ
รายงานข่าวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นสถานที่คุมขัง 2 แกนนำนปช. นายจตุพร พรหมพันธุ์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และนายนิสิต สินธุไพร แจ้งว่า หลังจากถูกคุมขังเป็นวันที่ 9 ทั้งคู่ยังคงมีอาการเครียดหนักต่อเนื่องตั้งแต่วันแรก โดยเฉพาะนายจตุพร ที่หลังจากที่ศาลไม่อนุญาตให้ออกไปลงสมัครเลือกตั้งระบบบัญชีรายชื่อ ก็มีอาการกินไม่ได้ นอนไม่หลับ จนเจ้าหน้าที่ต้องจัดเวรสอดส่องตลอดเวลา
ทั้งนี้รายงานแจ้งด้วยว่านายจตุพร ถูกขังรวมกับผู้ต้องโทษอื่นๆโดยที่ไม่ได้มีสิทธิพิเศษ และถูกจัดให้อยู่ในเรือนนอนรวมกับผู้ต้องโทษ 8 คน เช่น เดียวกับนายนิสิต แต่อยู่แยกกันคนละเรือนนอน
**สะกิด กกต.สอบแดงแฝงหาเสียง
นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย(ภท.) กล่าวถึงผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทย ที่มีแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)หรือคนเสื้อแดง ได้รับการจัดสรรให้ลงสมัครพรรคเพื่อไทย จำนวนมากจะสร้างความปรองดองได้หรือไม่ว่า ไม่ได้แปลกใจอะไร เท่าที่ดูข่าวนางธิดา บอกว่าคนเสื้อแดงได้ยึดพรรคเพื่อไทยไว้แล้ว ตนมองว่าก็มีความหมายในตัวเองแล้ว เราคาดหวังว่า อยากให้การเมืองภาคประชาชนเห็นว่า ประชาธิปไตยควรต่อสู้กันในรัฐสภา แต่ถ้าตรงนี้มีความชัดเจนจริง จึงขอเรียกร้องให้ยุติการชุมนุม เพราะอาจใช้ประโยชน์แอบแฝงในการหาเสียง เข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้ง และขอฝากถึง กกต.ช่วยตรวจสอบ อาจมีการกระทำที่เป็นการสนับสนุนให้ผู้สมัครได้ประโยชน์จากตรงนี้.
*** ราชประสงค์จ่อฟ้องรัฐ-เสื้อแดง
วานนี้ (20 พ.ค.) กลุ่มผู้ค้าราชประสงค์ นำโดย นายชาย ศรีวิกรม์ ประธานเครือข่ายประชาธิปไตยไม่ละเมิด ได้รวมตัวกันขอความเป็นธรรม กรณีวันที่ 19 พ.ค. กลุ่มคนเสื้อแดงได้ละเมิดข้อตกลง ทำการปิดถนนสี่แยกราชประสงค์ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยตกลงกันไว้แล้วว่า จะไม่มีการปิดถนน และไม่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนย่านแยกราชประสงค์อีก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นไม่เป็นไปตามข้อตกลง ซึ่งส่งผลทำธุรกิจเสียหาย
ความเสียหายเบื้องต้นหลังการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อวันที่ 19 พ.ค. พบว่านักท่องเที่ยวที่รู้ข่าวว่าจะมีการชุมนุมได้ยกเลิกห้องพัก 3,000 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท ยังไม่รวมห้างสรรพสินค้าและร้านค้าย่อย ย่านราชประสงค์ที่ต้องมีการสูญเสียรายได้ด้วยเช่นกัน
ดังนั้น กลุ่มผู้ค้ากำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อฟ้องรัฐบาล เนื่องจากรู้ล่วงหน้าว่าจะมีการชุมนุมแต่ก็ไม่มีการสั่งการแก้ไข รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้ก่อนหน้านี้เคยตกลงว่าจะเปิดเส้นทางแต่ไม่ได้ทำ นอกจากนี้ยังจะฟ้องร้องแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงที่ชุมนุมทำให้ประชาชนและย่านธุรกิจเดือดร้อน
รายงานล่าสุด ลูกค้าที่จะเข้ามาพักโรงแรมในวันที่ 19 พ.ค. ต่างยกเลิกเข้าพักในโรงแรมแล้วทุกห้อง เป็นจำนวนรวม 1,500 ห้อง และยกเลิกงานสัมมนาและงานเลี้ยงไปแล้ว 3,000 หัว ทั้งนี้ ในส่วนของร้านค้าทั้งภายในห้างสรรพสินค้า และร้านค้าที่อยู่บริเวณใกล้เคียงต้องปิดก่อนเวลา ได้แก่เกษร เซ็นทรัลเวิลด์ บิ๊กซี ส่วนโรงเรียน เช่น โรงเรียนมาแตร์เดอี ได้ประกาศหยุดเรียน บริษัทต่างๆ ที่อยู่ในละแวกนั้นต้องเลิกงานเร็วกว่าปกติ
ก่อนหน้านี้ กลุ่มประชาธิปไตยไม่ละเมิดได้เข้าหารือกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เมื่อวันอังคารที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ชุมนุมปฏิบัติ ดังนี้
1. แจ้งวัน เวลา สถานที่ชุมนุม เพื่อชุมชน และผู้ประกอบการในละแวกนั้น จะได้เตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์การชุมนุมได้
2.ขอไม่ให้มีการปิดแยกราชประสงค์ และไม่ตั้งเวทีขวางบริเวณสี่แยก โดยขอให้ตั้งเวทีอยู่บริเวณฝั่งเซ็นทรัล เวิลด์
3.ไม่สร้างความเดือดร้อนกีดขวางการจราจรไม่ว่ากรณีใด โดยควรมีการจัดพื้นที่จอดรถ พื้นที่ชุมนุม และพื้นที่ใช้สอยอื่นๆ อย่างเหมาะสม และขอให้มีการเปิดช่องทางจราจรให้รถยนต์ผ่านไป-มาได้สะดวกพอสมควร ให้รถยนต์สามารถวิ่งผ่านได้ทางบริเวณถนนพระราม 1 ราชดำริ เพลินจิต และไม่ให้ผู้ชุมนุมนำรถเข้ามาจอดหน้าบริเวณเซ็นทรัล เวิลด์ เพื่อให้มีพื้นที่เพียงพอสำหรับผู้ชุมนุม
4.ขอทางเข้า-ออกบริเวณบิ๊กซี และโรงแรมอโนมา เนื่องจากมีพนักงานกว่า 2,000 คน ซึ่งยังคงต้องทำงาน และเข้าออกบริเวณนั้นอยู่
**อินเตอร์คอนฯรับยอดวูบ10%****
นางสุวรรณา เดชรุ่งเรือง กรรมการบริหาร บริษัท เพรสซิเด้นโฮเต็ลและทาวเวอร์ จำกัด ผู้บริหารโรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพ กล่าวว่า หากกลุ่มคนเสื้อแดง ต้องการนัดชุมนุม กันเป็นประจำอย่างนี้ ต้องการให้เลือกสถานที่ให้เหมาะสม ไม่ควรมาใช้พื้นที่ย่านราชประสงค์ในการนัดชุมนุม เพราะเป็นศูนย์กลางการค้าขายและการชอปปิ้ชุมนุมลดลงราว 10-20% จากวันปกติ ประกอบกับขณะนี้เป็นช่วงโลว์ซีซั่น ยิ่งทำให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการลดน้อยยิ่งขึ้น
***ดิเอราวัณฯเข้มตรวจความปลอดภัย***
นางกมลวรรณ วิปุลากร รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.ดิเอราวัณกรุ๊ป ผู้บริหารโรงแรม แกรนด์ไฮแอท เอราวัณ กล่าวว่า จากการนัดชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ย่านราชประสงค์ ในช่วงที่ผ่านมาและในครั้งนี้ ทำให้ทางโรงแรมต้องปรับระบบการให้บริการ ด้วยการแจ้งให้ลูกค้าที่จะจองเข้าพักในวันที่นัดชุมนุมได้ทราบ เพื่อประกอบการตัดสินใจ โดยส่วนใหญ่หากเป็นธุระไม่สำคัญลูกค้าก็จะเลื่อนการเข้าพัก แต่หากเป็นธุระสำคัญ ก็จะเปลี่ยนไปพักโรงแรมอื่น
ขณะที่ในส่วนของร้านอาหาร ยอมรับว่ามีผลกระทบค่อนข้างพอสมควร เพราะลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนไทย หากมีการชุมนุมก็จะกังวลเรื่องการจราจร ก็จะปรับเปลี่ยนเป็นมาทานอาหารในวันอื่นๆแทน อย่างไรก็ตามทางโรงแรมให้ความสำคัญกับระบบการรักษาความปลอดภัยโดยทุกครั้งที่มีการชุมนุม ทางโรงแรมจะควบคุมทางเข้าออกโรงแรมให้มีเท่าที่จำเป็น รวมถึงตรวจคนที่เข้าออกโรงแรมทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย.
วานนี้ (20 พ.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำสั่งศาลอุทธรณ์ที่นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความรับมอบอำนาจ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จำเลยที่ 2 คดีร่วมกันก่อการร้าย ยื่นอุทธรณ์ขอปล่อยตัวชั่วคราว
โดยศาลอุทธรณ์ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ข้อที่จำเลยที่ 2 อุทธรณ์คำสั่งเกี่ยวกับที่ศาลชั้นต้นให้เพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราวว่าเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบนั้น เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาที่คดียังไม่เสร็จการพิจารณา จึงห้ามไม่ให้อุทธรณ์คำสั่งนั้นจนกว่าคดีจะมีคำพิพากษา หรือคำสั่งในประเด็นสำคัญ และมีอุทธรณ์คำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นด้วย ตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 196 ศาลอุทธรณ์จึงไม่รับวินิจฉัย
ส่วนที่จำเลยที่ 2 อุทธรณ์คำสั่งเกี่ยวกับการที่จำเลยยื่นคำร้องขอให้ปล่อยตัวชั่วคราวอีกครั้งเมื่อวันที่ 12 พ.ค.54 และศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาต การกระทำของจำเลยที่ 2 ท่านมาที่ปรากฏในสำนวนมีการกล่าวพาดพิงถึงบุคคลและสถาบันต่างๆ ด้วยถ้อยคำที่รุนแรง อันมีลักษณะส่อไปในทางที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองได้ จึงมีเหตุอันควร เชื่อว่า หากปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยที่ 2 ระหว่างพิจารณาแล้ว จำเลยที่ 2 จะไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น ดังที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งในชั้นนี้จึงยังไม่มีเหตุอันสมควรจะให้ปล่อยชั่วคราว คำสั่งศาลชั้นต้นชอบแล้ว จึงให้ยกคำร้อง
** ธิดา-เหวง เยี่ยม "ไอ้ตู่"
วันเดียวกันก่อนหน้า นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. พร้อมด้วย น.พ.เหวง โตจิราการ ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ เดินทางเข้าเยี่ยม นายจตุพร พรหมพันธุ์ และ นายนิสิต สินธุไพร ที่ถูกคุมขังอยู่บริเวณเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร โดยนางธิดา ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าเยี่ยมว่า การเข้าเยี่ยมในวันนี้ เพื่อสอบถามความเป็นอยู่ของนายจตุพร ภายในเรือนจำ และเพื่อหาแนวทางการช่วยเหลือในเรื่องคดีความ รวมไปถึงคดีที่เกี่ยวกับความด้านความมั่นคงรัฐ และคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามมาตรา 112 และ 116 ซึ่งคดีดังกล่าวนั้น ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ จะมีการประชุมหารือกันในวันนี้
อย่างไรก็ตาม นางธิดา ยังกล่าวยืนยันว่า หากการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นนั้น ทางพรรคเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาล กลุ่ม นปช. ก็ยังจะเดินหน้าการชุมนุมต่อไป ตามแนวทางประชาธิปไตย
ด้าน นพ.เหวง กล่าวว่า นายจตุพร ไม่ได้กังวลเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่เป็นห่วงเรื่องคดีความของตัวเองที่มีหลายคดี ส่วนที่หลายฝ่ายแสดงความกังวลเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของแกนนำบางคนที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง อาจทำให้สุ่มเสี่ยงกับการถูกร้องเรียน เมื่อเข้าร่วมกิจกรรมคนเสื้อแดงนั้น นพ.เหวง ยืนยันว่าในส่วนของแกนนำที่ลงสมัครรับเลือกตั้งทุกคนเข้าใจถึงบทบาทหน้าที่ว่าไม่ควรขึ้นเวทีหรือไปปราศรัยใดๆ บนเวที นปช.อย่างเด็ดขาด แต่การเข้าร่วมกิจกรรมของ นปช.ตามสิทธิของประชาชนคนหนึ่งยังสามารถทำได้
นพ.เหวง กล่าวต่อว่า แม้จะผ่านเหตุการณ์มาครบ 1 ปีแล้ว แต่ตนเห็นว่าไม่มีอะไรดีขึ้น เหตุการณ์เสียชีวิตของประชาชนทั้ง 89 ศพ ขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ตามขั้นตอน โดยเฉพาะคดีการเสียชีวิตของนายฮิโรยูกิ มูราโมโตะ ซึ่งการสอบสวนยังมีความสับสนเกี่ยวกับอาวุธที่ใช้ยิง ซึ่ง นปช.จะติดตามความคืบหน้าเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้ผู้เสียชีวิตต่อไป
**จับตา“ไอ้ตู่” กินไม่ได้ นอนไม่หลับ
รายงานข่าวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นสถานที่คุมขัง 2 แกนนำนปช. นายจตุพร พรหมพันธุ์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และนายนิสิต สินธุไพร แจ้งว่า หลังจากถูกคุมขังเป็นวันที่ 9 ทั้งคู่ยังคงมีอาการเครียดหนักต่อเนื่องตั้งแต่วันแรก โดยเฉพาะนายจตุพร ที่หลังจากที่ศาลไม่อนุญาตให้ออกไปลงสมัครเลือกตั้งระบบบัญชีรายชื่อ ก็มีอาการกินไม่ได้ นอนไม่หลับ จนเจ้าหน้าที่ต้องจัดเวรสอดส่องตลอดเวลา
ทั้งนี้รายงานแจ้งด้วยว่านายจตุพร ถูกขังรวมกับผู้ต้องโทษอื่นๆโดยที่ไม่ได้มีสิทธิพิเศษ และถูกจัดให้อยู่ในเรือนนอนรวมกับผู้ต้องโทษ 8 คน เช่น เดียวกับนายนิสิต แต่อยู่แยกกันคนละเรือนนอน
**สะกิด กกต.สอบแดงแฝงหาเสียง
นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย(ภท.) กล่าวถึงผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทย ที่มีแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)หรือคนเสื้อแดง ได้รับการจัดสรรให้ลงสมัครพรรคเพื่อไทย จำนวนมากจะสร้างความปรองดองได้หรือไม่ว่า ไม่ได้แปลกใจอะไร เท่าที่ดูข่าวนางธิดา บอกว่าคนเสื้อแดงได้ยึดพรรคเพื่อไทยไว้แล้ว ตนมองว่าก็มีความหมายในตัวเองแล้ว เราคาดหวังว่า อยากให้การเมืองภาคประชาชนเห็นว่า ประชาธิปไตยควรต่อสู้กันในรัฐสภา แต่ถ้าตรงนี้มีความชัดเจนจริง จึงขอเรียกร้องให้ยุติการชุมนุม เพราะอาจใช้ประโยชน์แอบแฝงในการหาเสียง เข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้ง และขอฝากถึง กกต.ช่วยตรวจสอบ อาจมีการกระทำที่เป็นการสนับสนุนให้ผู้สมัครได้ประโยชน์จากตรงนี้.
*** ราชประสงค์จ่อฟ้องรัฐ-เสื้อแดง
วานนี้ (20 พ.ค.) กลุ่มผู้ค้าราชประสงค์ นำโดย นายชาย ศรีวิกรม์ ประธานเครือข่ายประชาธิปไตยไม่ละเมิด ได้รวมตัวกันขอความเป็นธรรม กรณีวันที่ 19 พ.ค. กลุ่มคนเสื้อแดงได้ละเมิดข้อตกลง ทำการปิดถนนสี่แยกราชประสงค์ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยตกลงกันไว้แล้วว่า จะไม่มีการปิดถนน และไม่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนย่านแยกราชประสงค์อีก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นไม่เป็นไปตามข้อตกลง ซึ่งส่งผลทำธุรกิจเสียหาย
ความเสียหายเบื้องต้นหลังการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อวันที่ 19 พ.ค. พบว่านักท่องเที่ยวที่รู้ข่าวว่าจะมีการชุมนุมได้ยกเลิกห้องพัก 3,000 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท ยังไม่รวมห้างสรรพสินค้าและร้านค้าย่อย ย่านราชประสงค์ที่ต้องมีการสูญเสียรายได้ด้วยเช่นกัน
ดังนั้น กลุ่มผู้ค้ากำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อฟ้องรัฐบาล เนื่องจากรู้ล่วงหน้าว่าจะมีการชุมนุมแต่ก็ไม่มีการสั่งการแก้ไข รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้ก่อนหน้านี้เคยตกลงว่าจะเปิดเส้นทางแต่ไม่ได้ทำ นอกจากนี้ยังจะฟ้องร้องแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงที่ชุมนุมทำให้ประชาชนและย่านธุรกิจเดือดร้อน
รายงานล่าสุด ลูกค้าที่จะเข้ามาพักโรงแรมในวันที่ 19 พ.ค. ต่างยกเลิกเข้าพักในโรงแรมแล้วทุกห้อง เป็นจำนวนรวม 1,500 ห้อง และยกเลิกงานสัมมนาและงานเลี้ยงไปแล้ว 3,000 หัว ทั้งนี้ ในส่วนของร้านค้าทั้งภายในห้างสรรพสินค้า และร้านค้าที่อยู่บริเวณใกล้เคียงต้องปิดก่อนเวลา ได้แก่เกษร เซ็นทรัลเวิลด์ บิ๊กซี ส่วนโรงเรียน เช่น โรงเรียนมาแตร์เดอี ได้ประกาศหยุดเรียน บริษัทต่างๆ ที่อยู่ในละแวกนั้นต้องเลิกงานเร็วกว่าปกติ
ก่อนหน้านี้ กลุ่มประชาธิปไตยไม่ละเมิดได้เข้าหารือกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เมื่อวันอังคารที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ชุมนุมปฏิบัติ ดังนี้
1. แจ้งวัน เวลา สถานที่ชุมนุม เพื่อชุมชน และผู้ประกอบการในละแวกนั้น จะได้เตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์การชุมนุมได้
2.ขอไม่ให้มีการปิดแยกราชประสงค์ และไม่ตั้งเวทีขวางบริเวณสี่แยก โดยขอให้ตั้งเวทีอยู่บริเวณฝั่งเซ็นทรัล เวิลด์
3.ไม่สร้างความเดือดร้อนกีดขวางการจราจรไม่ว่ากรณีใด โดยควรมีการจัดพื้นที่จอดรถ พื้นที่ชุมนุม และพื้นที่ใช้สอยอื่นๆ อย่างเหมาะสม และขอให้มีการเปิดช่องทางจราจรให้รถยนต์ผ่านไป-มาได้สะดวกพอสมควร ให้รถยนต์สามารถวิ่งผ่านได้ทางบริเวณถนนพระราม 1 ราชดำริ เพลินจิต และไม่ให้ผู้ชุมนุมนำรถเข้ามาจอดหน้าบริเวณเซ็นทรัล เวิลด์ เพื่อให้มีพื้นที่เพียงพอสำหรับผู้ชุมนุม
4.ขอทางเข้า-ออกบริเวณบิ๊กซี และโรงแรมอโนมา เนื่องจากมีพนักงานกว่า 2,000 คน ซึ่งยังคงต้องทำงาน และเข้าออกบริเวณนั้นอยู่
**อินเตอร์คอนฯรับยอดวูบ10%****
นางสุวรรณา เดชรุ่งเรือง กรรมการบริหาร บริษัท เพรสซิเด้นโฮเต็ลและทาวเวอร์ จำกัด ผู้บริหารโรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพ กล่าวว่า หากกลุ่มคนเสื้อแดง ต้องการนัดชุมนุม กันเป็นประจำอย่างนี้ ต้องการให้เลือกสถานที่ให้เหมาะสม ไม่ควรมาใช้พื้นที่ย่านราชประสงค์ในการนัดชุมนุม เพราะเป็นศูนย์กลางการค้าขายและการชอปปิ้ชุมนุมลดลงราว 10-20% จากวันปกติ ประกอบกับขณะนี้เป็นช่วงโลว์ซีซั่น ยิ่งทำให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการลดน้อยยิ่งขึ้น
***ดิเอราวัณฯเข้มตรวจความปลอดภัย***
นางกมลวรรณ วิปุลากร รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.ดิเอราวัณกรุ๊ป ผู้บริหารโรงแรม แกรนด์ไฮแอท เอราวัณ กล่าวว่า จากการนัดชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ย่านราชประสงค์ ในช่วงที่ผ่านมาและในครั้งนี้ ทำให้ทางโรงแรมต้องปรับระบบการให้บริการ ด้วยการแจ้งให้ลูกค้าที่จะจองเข้าพักในวันที่นัดชุมนุมได้ทราบ เพื่อประกอบการตัดสินใจ โดยส่วนใหญ่หากเป็นธุระไม่สำคัญลูกค้าก็จะเลื่อนการเข้าพัก แต่หากเป็นธุระสำคัญ ก็จะเปลี่ยนไปพักโรงแรมอื่น
ขณะที่ในส่วนของร้านอาหาร ยอมรับว่ามีผลกระทบค่อนข้างพอสมควร เพราะลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนไทย หากมีการชุมนุมก็จะกังวลเรื่องการจราจร ก็จะปรับเปลี่ยนเป็นมาทานอาหารในวันอื่นๆแทน อย่างไรก็ตามทางโรงแรมให้ความสำคัญกับระบบการรักษาความปลอดภัยโดยทุกครั้งที่มีการชุมนุม ทางโรงแรมจะควบคุมทางเข้าออกโรงแรมให้มีเท่าที่จำเป็น รวมถึงตรวจคนที่เข้าออกโรงแรมทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย.