เมื่อเวลา06.30น.วานนี้(17 พ.ค.)ที่สนามบินดอนเมือง ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางโดยใช้รถยนต์บีเอ็มดับบลิว ซีรีส์7 ติดกระจกกันกระสุนของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค มายังสนามบินดอนเมืองเพื่อเดินทางไปจ.พิษณุโลกและจ.นครสวรรค์ เพื่อช่วยลูกพรรคหาเสียงเลือกตั้ง โดยนายอภิสิทธิ์มีสีหน้าอิดโรยเล็กน้อยจากอาการป่วยเป็นไข้หวัด ทั้งนี้นายอภิสิทธิ์ได้เข้าห้องรับรอง1หารือกับนายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์และนางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ เป็นเวลา30นาที
จากนั้นเมื่อเวลา07.00น. นายอภิสิทธิ์ กล่าวสั้นๆก่อนเดินทางถึงกรณีที่พรรคจะส่งนายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ แกนนำพรรคไปหารือกับกกต.ในวันที่18พ.ค.ว่า กกต.นัดทุกพรรคหารือเรื่องค่าใช้จ่ายการหาเสียง ซึ่งไม่ได้คุยเรื่องเดิม(เรื่องที่กกต.ขอให้ทุกพรรคห้ามใช้สถาบันหาเสียง)
**"มาร์ค"ฝัน!!ปชป.จะได้ ส.ส.เพิ่ม
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางไปที่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก เพื่อติดตามโครงการประกันรายได้เกษตรกร พร้อมกล่าวถึงการเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วประเทศ ว่า ขณะนี้ได้เดินสายชี้แจงให้ประชาชนเห็นนโยบายที่เป็นประโยชน์ และจะเดินหน้าสานต่อ เช่น นโยบายโครงการประกันรายได้เกษตรกร และโครงการสวัสดิการต่างๆ ซึ่งได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี และการเลือกตั้งในครั้งนี้ คาดว่าพรรคฯ จะได้ ส.ส.เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในหลายจังหวัดของภาคเหนือตอนล่าง แต่ยังไม่ขอระบุตัวเลข ซึ่งในพื้นที่ภาคเหนือคงจะต้องแข่งขันกับพรรคเพื่อไทย และไม่รู้สึกหนักใจหากแข่งขันกันด้วยนโยบาย
ยังระบุถึงผลการสำรวจความนิยมของประชาชนที่มีต่อพรรคต่างๆ ว่า ยังมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
**หล่อเล็ก เปิดตัวลูกเลี้ยงเทพเทือก
เมื่อเวลา 10 .00 น.ที่เชิงสะพานพระราม8 ทีมงานศูนย์การเลือกตั้งภาคกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ นำโดยนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ในฐานะ ผอ.ศูนย์การเลือกตั้ง นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รักษาการณ์รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่า กทม.ได้ร่วมกันเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กรุงเทพฯ 3คน คือ 1.นายเอกนัฎ พร้อมพันธ์ ว่าที่ผู้ลงสมัครส.ส.เขต 29 2.น.ส.รัชดา ธนาดิเรก ว่าที่ผู้สมัครเขต 33 และ 3.นายชนินทร์ รุ่งแสง ว่าที่ผู้สมัครเขต 32
นายอภิรักษ์ กล่าวว่า มั่นใจว่านโยบายของพรรคจะโดนใจคน กทม. ทั้งนโยบายภาพรวมของพรรคและนโยบายในส่วนของภาคกรุงเทพ อาทิ การป้องกันยาเสพติด ระบบขนส่งมวลชน นโยบายการศึกษาและบำเหน็จบำนาญประชาชน โดยการหาเสียงของปชป.ในพื้นที่กทม.จะเน้นการชูนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าปชป.ให้ประชาชนเลือกมาเป็นนายกรัฐมนตรีสมัยสมัยที่2 ทั้งนี้ยอมรับว่าในพื้นที่กรุงเทพฯ ยังมีมีอยู่ 6 เขตเลือกตั้ง ที่ปชป.เจองานหนักเพราะไม่มีส.ส.ในพื้นที่เลย ได้แก่ มีนบุรี สายไหม ลาดกระบัง ดอนเมือง บางเขน และหนองจอก แต่ยืนยันว่าปชป.จะสู้เต็มที่ทั้ง 33 เขต
**“ยิ่งลักษณ์”เล็งขึ้นเชียงใหม่ 21 พ.ค.
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนายการเลือกตั้งที่มีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเป็นประธาน พิจารณารายชื่อและตรวจสอบคุณสมบัติว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้งระบบบัญชีรายชื่อ 125 คน และระบบเขต 375 คน ตามที่คณะกรรมการคัดเลือกส่งให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากนั้นเช้าวันที่ 18 พฤษภาคม กรรมการบริหารพรรคจะพิจารณาตัดสินว่าผู้ใดมีความเหมาะสมอีกครั้งหนึ่ง และให้การรับรองก่อนส่งสมัครรับเลือกตั้งในวันที่ 19 พฤษภาคม เปิดรับสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อเป็นวันแรก เมื่อได้หมายเลขแล้วคณะผู้บริหารและแกนนำพรรค นำโดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะเดินสายปราศรัยพบประชาชน รณรงค์หาเสียงเลือกตั้งจากภาคเหนือ อีสาน กลาง แต่คาดว่าน่าจะเริ่มจากกรุงเทพมหานครเป็นที่แรก ในวันที่ 20 พฤษภาคมนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เบื้องต้นคณะทำงานและ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เตรียมหาเสียงเลือกตั้งโดยวางแผนเปิดปราศรัยใหญ่ครั้งแรกที่ จ.เชียงใหม่ บ้านเกิด ในวันที่ 21 พฤษภาคมนี้ ช่วงเช้า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะเดินทางไปกราบไหว้กระดูกของพ่อแม่และบรรพบุรุษตระกูลชินวัตร ที่วัดโรงธรรมสามัคคี อ.สันกำแพง เพื่อความเป็นสิริมงคลในการเริ่มงานการเมืองอย่างเต็มตัว
**ภท.จัดปราศรัยใหญ่ต้นมิ.ย.นี้
นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ ประธานส.ส.พรรคภูมิใจไทย (ภท.) หัวหน้าทีมเลือกตั้ง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ขณะนี้ ภท. ได้เตรียมจัดปราศรัยใหญ่ที่ จ.ขอนแก่นเรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าจะเป็นช่วงต้นเดือนมิ.ย. แต่ยังต้องประสานงานไปยังหัวหน้าพรรคก่อนว่าว่างหรือไม่ หากไม่ ก็ต้องมอบหมายให้รองหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรคไปแทน
ทั้งนี้ อาจมีการตั้งเวทีปราศรัยในช่วงรอยต่อของอำเภอ หรือไม่ในตัวอำเภอ แต่ต้องดูอีกครั้ง เนื่องจากเกรงว่า อาจทำให้มวลชนปะทะกันได้ อย่างไรก็ตามต้องเลือกพื้นที่ปราศรัยก่อนที่พรรคเพื่อไทย นำโดย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง จะลงไปปราศรัยหาเสียง
“ไม่ได้กังวลขุนพลฝีปากกล้าของพรรคเพื่อไทย เพราะมีแต่พูดเรื่องเก่าๆ และรอวิดีโอลิงค์ จากคนอยู่ไกล ต่างจากพรรคภูมิใจไทยคิดเอง ทำเอง”นายประจักษ์กล่าว
ทั้งนี้ พรรคจะเสนอนโยบาย “น้ำไหล ไฟสว่าง ทางดี มีงานทำ” ตามรูปแบบของ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ อดีตนายกฯ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ากระแสของพรรคในพื้นที่ยังเป็นรองพรรคเพื่อไทย และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่มาก ซึ่งกระแสดังกล่าวยังรุนแรงและอาจใช้เป็นประเด็นหาเสียงทั้งในภาคอีสานหรือทั่วประเทศ ทำให้พรรคเพื่อไทยขายได้
อย่างไรก็ตามเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะชี้นำว่าหากเลือกน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาโดยใช้รูปแบบการหาเสียงเช่นนี้เหมือนกันหมดทั่วพื้นที่ภาคอีสาน
**วางกลยุทธ์ทางเลือกที่ 3 ในเมืองหลวง
เมื่อเวลา 11.00 น. ที่บ้านพักย่านราชวิถีของนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน(ชพน.) นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ได้เชิญว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ของพรรค เข้าหารือและชี้แจงข้อมูลการเตรียมความพร้อมในการลงพื้นที่หาเสียง
นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง กทม.และภาคกลางของพรรค เปิดเผยว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการชี้แจงนโยบายของพรรค โดยเราตั้งเป็นพรรคทางเลือกที่ 3 ในพื้นที่ กทม. เพื่อให้คน กทม.ได้รับรู้ถึงนโยบายและตัวผู้สมัคร โดยเป็นการปูพื้นฐานชูคนกีฬา ไม่ใช่ว่าจะให้คนกีฬามาบริหารในตำแหน่งรัฐมนตรีอย่างที่หลายคนเข้าใจผิด แต่เราต้องการให้คนกีฬามีส่วนร่วมในการจัดทำนโยบาย และผลักดันให้คนหันมาเล่นกีฬาเพื่อสร้างสปิริตคนในชาติ ให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ โดยเบื้องต้นนักกีฬา 4 คน ที่ได้เปิดตัวอย่างนายภราดร ศรีชาพันธุ์ น.ส.เยาวภา บุรพลชัย น.ต.ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน พ.ต.อภิรักษ์ อารีย์มิตร ก็ได้มีส่วนร่วมเขียนนโยบายกับนักวิชาการของพรรค ถึงแม้จะมีพรรคอื่นเปิดตัวคนกีฬาและชูประเด็นปรองดองเหมือนกัน แต่ของเราเปิดตัวก่อน และมีนโยบายรวมถึงตัวบุคคลากรที่ชัดเจน
ทั้งนี้ ยอมรับว่าผู้สมัครของพรรคเป็นผู้สมัครหน้าใหม่ มีเวลาลงพื้นที่ไม่ถึง 50 วัน ดังนั้นตัวผู้สมัครต้องทำหน้าที่เผยแพร่นโยบายพรรคแบบเคาะประตูบ้าน โดยคาดหวังให้พบประชาชนมากที่สุด หากพบ 1 คนเท่ากับได้ 1 คะแนน นอกจากนั้นยังให้อดีต ส.ส.ไปช่วยหาเสียงแก่ผู้สมัครคนอื่นในเขตใกล้เคียงด้วย เพื่อผลต่อคะแนนเสียงปาร์ตี้ลิสต์ด้วย สำหรับพรรคจะเปิดตัวผู้สมัครส.ส.กทม. และทุกเขตทั่วประเทศประมาณวันที่ 22-23 พ.ค.
**ตั้งเป้าส่ง “น้องวิว-เดอะตุ๊ก” เข้าสภาให้ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การส่งผู้สมัคร ส.ส.กทม.ครบทั้ง 33 เขตของพรรคชาติพัฒนาเพี่อแผ่นดินในครั้งนี้ ได้วางพื้นที่คาดหวังไว้ที่เขตสายไหมของ น.ต.ปิยะพงษ์ กับเขตหลีกสี่ของ น.ส.เยาวภา ส่วนผู้สมัครเขตอื่นยังถือว่าเป็นคนรุ่นใหม่ ที่นายสุวัจน์ได้ให้นโยบายว่านอกจากทำพื้นที่ด้วยวิธีเคาะประตูบ้านแล้ว ต้องชูเรื่องความเบื่อความขัดแย้งของ 2 พรรคใหม่แล้ว ขอให้มาเลือกพรรคของคนรุ่นใหม่อย่างพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน โดยในวันที่ 18 พ.ค. ทางพรรคได้แจ้งให้ผู้สมัครในพื้นที่กทม.มารับเสื้อเพื่อนำไปให้กลุ่มกองเชียร์ที่จะไปสร้างสีสันในวันเปิดรับสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในวันที่ 19 พ.ค.นี้ โดยเบื้องต้นมีไม่ต่ำกว่า 300 คน
ขณะที่วันที่ 18 พ.ค. เวลา 11.00 น. ที่พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน จะมีการแถลงข่าวเปิดตัว นายวารุจ ศิริวัฒน์ อดีต ส.ส.อุตรดิตถ์ และนายสมเจตน์ ลิมปะพันธุ์ อดีต ส.ส.สุโขทัย ซึ่งย้ายมาจากพรรคกิจสังคม
**“2อดีตสส.กิจสังคม”ซบบรรหาร
รายงานข่าวจากพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) แจ้งว่า ในวันเดียวกันนี้ นายชยุต ภุมมะกาญจนะ อดีตส.ส.ปราจีนบุรี และนายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคกิจสังคม ได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคชทพ.แล้ว โดยนายชยุต และนายมนต์ชัยจะลงสมัครส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้พรรคชทพ.ได้พิจารณาจะส่งผู้สมัครลงส.ส.แบบแบ่งเขต126 เขต
****อดีต ส.ส.แม่ฮ่องสอนซบบรรหารอีก
นายอดุลย์ วันไชยธนวงศ์ อดีต ส.ส.แม่ฮ่องสอน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้ได้ยื่นใบลาออกจากพรรคเพื่อไทยเรียบร้อยแล้ว เพื่อมาลงสมัครรับเลือกตั้งกับพรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.) โดยสาเหตุที่ตัดสินใจลาออก เพราะแนวคิดทางการเมืองไม่สอดคล้องกัน โดยเป็นคนคัดค้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ มาตั้งแต่แรก เพราะเห็นว่าจะทำให้ภาพของพรรคกลายเป็นพรรคของครอบครัวไป อีกประเด็นสำคัญคือกรณีที่พรรคสั่งให้ผู้สมัคร ส.ส.ทุกคน ต้องลงชื่อในใบลาออกล่วงหน้านั้น คิดว่าไม่ถูกต้อง เพราะคนเป็น ส.ส.มาจากเสียงประชาชน โดยเฉพาะแม่ฮ่องสอนทั้งจังหวัดมี ส.ส.คนเดียว ก็เป็นเสียงของประชาชนทั้งจังหวัด จะมาฟังเสียงของคนคนเดียวได้อย่างไร จะเอาความคิดของเราคนเดียวไปตัดสินแทนคนทั้งจังหวัดไม่ได้
สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่ ตนก็ต้องลงไปชี้แจงกับชาวบ้านที่สนับสนุน โดยเฉพาะกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งส่วนใหญ่ก็เข้าใจ แต่มีบางส่วนที่ยังไม่เข้าใจก็ต้องพยายามอธิบายกันไป และการลาออกครั้งนี้ตัดเรื่องผลประโยชน์ไปได้เลย เนื่องจากมีพรรคใหญ่พยายามติดต่อมา แต่แนวคิดทางการเมืองไม่ตรงกันตนก็ตอบปฏิเสธไป.
**เพื่อไทยห่วงเลือกตั้งล่วงหน้าต่างจังหวัด
นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาค กทม. พรรคเพื่อไทย แถลงว่า รู้สึกเป็นห่วงการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า ในกรณีประชาชนที่มีภูมิลำเนาอยู่ในต่างจังหวัดและไปทำงานในจังหวัดอื่นได้ใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า เมื่อลงคะแนนแล้วเสร็จไปรษณีย์จะผนึกซองส่งบัตรลงคะแนนกลับไปที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จังหวัดปลายทาง
“ผมไม่ได้ต้องการกล่าวร้ายไปรษณีย์หรือ กกต. ปลายทางที่รับซองบัตรเลือกตั้ง แต่จะให้ทำอย่างไร เพราะที่ผ่านมามีเหตุการณ์ ที่ทำให้เกิดข้อสงสัยคือ เมื่อเปิดซองนับคะแนน ผลลัพธ์ที่ได้ตรงกันข้ามกับความนิยมของพรรคการเมืองนั้นๆ ในแต่ละภาคตามที่สังคมรับรู้ ดังนั้น กกต.จะมีมาตรการตรวจสอบและจัดวิธีการลงคะแนนอย่างไรให้โปร่งใส”นายวิชาญกล่าว
**ตระกูล “ไชยนันทน์”แถลงหนุนปชป.
รายงานข่าวแจ้งว่า วันเดียวกันนี้ตระกูล “ไชยนันทน์” ได้ออกแถลงการณ์ โดยนายเทอดพงษ์ ระบุในแถลงการณ์ว่า จะสนับสนุนนายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ ในการรับเลือตั้งครั้งนี้ แม้ก่อนหน้านี้ นายวราทิต บุตรชายได้เข้าสังกัดพรรคเพื่อไทย เพื่อลงสมัคร ส.ส.ตาก โดยแถลงการณ์ฉบับนี้มีการแจกจ่าย ในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 2 อ.แม่สอด-พบพระ-อุ้มผาง
โดยหนังสือดังกล่าวระบุว่า ไม่เคยลืมพี่น้องชาวจังหวัดตาก ที่ให้โอกาสคนในตระกูล “ไชยนันทน์” เข้ามาทำงานในตำแหน่ง ส.ส. มาโดยตลอดหลายสิบปี นับตั้งแต่นายเทียม ไชยนันทน์ ผู้เป็นบิดา ซึ่งเป็นอดีตรัฐมนตรีและรองประธานสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งเป็น 1 ในผู้ร่วมก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่ปี 2489 จนมาถึงรุ่นตนเอง และ รุ่นลูกชาย คือ นายธนิตพล ไชยนันทน์ โดยเราได้ทำงานตอบแทนบุญคุณชาวจังหวัดตาก และ แผ่นดินด้วยการทำงานที่ซื่อสัตย์ สุจริต และทุ่มเทเพื่อประชาชนและประเทศชาติ จนมีคำพูดที่ออกมาว่า “ถ้าเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ ไม่ได้อยู่พรรคประชาธิปัตย์ พี่น้องไม่ต้องเลือก”
"พ่อผม (นายเทียม ไชยนันทน์) - ผม (เทอดพงษ์ ไชยนันทน์ ) และ ลูกชายผม (ธนิตพล ไชยนันทน์) อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์มา 65 ปี เท่ากับอายุพรรค ผมและครอบครัวไชยนันทน์ ทำงานการเมืองพัฒนาจังหวัดตาก และ พัฒนาประเทศร่วมกับพรรค ปชป. รวมทั้งลงพื้นที่พบปะประชาชนมาโดยตลอด และจะอยู่กับพรรคนี้ตลอดไป และหากไม่อยู่กับพรรคนี้ก็ไม่ต้องเลือก ผมยืนยันเช่นนี้
ฉะนั้นหากจะมีใครมาอ้าง นายเทียม หรือ นายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ เพื่อประโยชน์ต่อพรรคการเมืองอื่นไม่ได้ พี่น้องครับท่านเคยมีลูกหลานที่ไม่ฟังพ่อ-แม่ ปู่ย่าตายาย บ้างไหม ซึ่งไม่ฟังแล้วเมื่อมีปัญหาก็เดือดร้อนถึงพ่อ-แม่ ปู่ย่า-ตายาย ผมก็เป็นหนึ่งในบรรดาคนที่ว่านี่ละครับ และสุดท้าย ผมเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ จะยังสมัคร ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อของ ปชป. และสนับสนุนผู้สมัคร ส.ส.ตาก เขต 2 ที่ชื่อ นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ ครับ"
จากนั้นเมื่อเวลา07.00น. นายอภิสิทธิ์ กล่าวสั้นๆก่อนเดินทางถึงกรณีที่พรรคจะส่งนายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ แกนนำพรรคไปหารือกับกกต.ในวันที่18พ.ค.ว่า กกต.นัดทุกพรรคหารือเรื่องค่าใช้จ่ายการหาเสียง ซึ่งไม่ได้คุยเรื่องเดิม(เรื่องที่กกต.ขอให้ทุกพรรคห้ามใช้สถาบันหาเสียง)
**"มาร์ค"ฝัน!!ปชป.จะได้ ส.ส.เพิ่ม
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางไปที่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก เพื่อติดตามโครงการประกันรายได้เกษตรกร พร้อมกล่าวถึงการเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วประเทศ ว่า ขณะนี้ได้เดินสายชี้แจงให้ประชาชนเห็นนโยบายที่เป็นประโยชน์ และจะเดินหน้าสานต่อ เช่น นโยบายโครงการประกันรายได้เกษตรกร และโครงการสวัสดิการต่างๆ ซึ่งได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี และการเลือกตั้งในครั้งนี้ คาดว่าพรรคฯ จะได้ ส.ส.เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในหลายจังหวัดของภาคเหนือตอนล่าง แต่ยังไม่ขอระบุตัวเลข ซึ่งในพื้นที่ภาคเหนือคงจะต้องแข่งขันกับพรรคเพื่อไทย และไม่รู้สึกหนักใจหากแข่งขันกันด้วยนโยบาย
ยังระบุถึงผลการสำรวจความนิยมของประชาชนที่มีต่อพรรคต่างๆ ว่า ยังมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
**หล่อเล็ก เปิดตัวลูกเลี้ยงเทพเทือก
เมื่อเวลา 10 .00 น.ที่เชิงสะพานพระราม8 ทีมงานศูนย์การเลือกตั้งภาคกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ นำโดยนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ในฐานะ ผอ.ศูนย์การเลือกตั้ง นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รักษาการณ์รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่า กทม.ได้ร่วมกันเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กรุงเทพฯ 3คน คือ 1.นายเอกนัฎ พร้อมพันธ์ ว่าที่ผู้ลงสมัครส.ส.เขต 29 2.น.ส.รัชดา ธนาดิเรก ว่าที่ผู้สมัครเขต 33 และ 3.นายชนินทร์ รุ่งแสง ว่าที่ผู้สมัครเขต 32
นายอภิรักษ์ กล่าวว่า มั่นใจว่านโยบายของพรรคจะโดนใจคน กทม. ทั้งนโยบายภาพรวมของพรรคและนโยบายในส่วนของภาคกรุงเทพ อาทิ การป้องกันยาเสพติด ระบบขนส่งมวลชน นโยบายการศึกษาและบำเหน็จบำนาญประชาชน โดยการหาเสียงของปชป.ในพื้นที่กทม.จะเน้นการชูนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าปชป.ให้ประชาชนเลือกมาเป็นนายกรัฐมนตรีสมัยสมัยที่2 ทั้งนี้ยอมรับว่าในพื้นที่กรุงเทพฯ ยังมีมีอยู่ 6 เขตเลือกตั้ง ที่ปชป.เจองานหนักเพราะไม่มีส.ส.ในพื้นที่เลย ได้แก่ มีนบุรี สายไหม ลาดกระบัง ดอนเมือง บางเขน และหนองจอก แต่ยืนยันว่าปชป.จะสู้เต็มที่ทั้ง 33 เขต
**“ยิ่งลักษณ์”เล็งขึ้นเชียงใหม่ 21 พ.ค.
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนายการเลือกตั้งที่มีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเป็นประธาน พิจารณารายชื่อและตรวจสอบคุณสมบัติว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้งระบบบัญชีรายชื่อ 125 คน และระบบเขต 375 คน ตามที่คณะกรรมการคัดเลือกส่งให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากนั้นเช้าวันที่ 18 พฤษภาคม กรรมการบริหารพรรคจะพิจารณาตัดสินว่าผู้ใดมีความเหมาะสมอีกครั้งหนึ่ง และให้การรับรองก่อนส่งสมัครรับเลือกตั้งในวันที่ 19 พฤษภาคม เปิดรับสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อเป็นวันแรก เมื่อได้หมายเลขแล้วคณะผู้บริหารและแกนนำพรรค นำโดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะเดินสายปราศรัยพบประชาชน รณรงค์หาเสียงเลือกตั้งจากภาคเหนือ อีสาน กลาง แต่คาดว่าน่าจะเริ่มจากกรุงเทพมหานครเป็นที่แรก ในวันที่ 20 พฤษภาคมนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เบื้องต้นคณะทำงานและ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เตรียมหาเสียงเลือกตั้งโดยวางแผนเปิดปราศรัยใหญ่ครั้งแรกที่ จ.เชียงใหม่ บ้านเกิด ในวันที่ 21 พฤษภาคมนี้ ช่วงเช้า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะเดินทางไปกราบไหว้กระดูกของพ่อแม่และบรรพบุรุษตระกูลชินวัตร ที่วัดโรงธรรมสามัคคี อ.สันกำแพง เพื่อความเป็นสิริมงคลในการเริ่มงานการเมืองอย่างเต็มตัว
**ภท.จัดปราศรัยใหญ่ต้นมิ.ย.นี้
นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ ประธานส.ส.พรรคภูมิใจไทย (ภท.) หัวหน้าทีมเลือกตั้ง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ขณะนี้ ภท. ได้เตรียมจัดปราศรัยใหญ่ที่ จ.ขอนแก่นเรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าจะเป็นช่วงต้นเดือนมิ.ย. แต่ยังต้องประสานงานไปยังหัวหน้าพรรคก่อนว่าว่างหรือไม่ หากไม่ ก็ต้องมอบหมายให้รองหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรคไปแทน
ทั้งนี้ อาจมีการตั้งเวทีปราศรัยในช่วงรอยต่อของอำเภอ หรือไม่ในตัวอำเภอ แต่ต้องดูอีกครั้ง เนื่องจากเกรงว่า อาจทำให้มวลชนปะทะกันได้ อย่างไรก็ตามต้องเลือกพื้นที่ปราศรัยก่อนที่พรรคเพื่อไทย นำโดย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง จะลงไปปราศรัยหาเสียง
“ไม่ได้กังวลขุนพลฝีปากกล้าของพรรคเพื่อไทย เพราะมีแต่พูดเรื่องเก่าๆ และรอวิดีโอลิงค์ จากคนอยู่ไกล ต่างจากพรรคภูมิใจไทยคิดเอง ทำเอง”นายประจักษ์กล่าว
ทั้งนี้ พรรคจะเสนอนโยบาย “น้ำไหล ไฟสว่าง ทางดี มีงานทำ” ตามรูปแบบของ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ อดีตนายกฯ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ากระแสของพรรคในพื้นที่ยังเป็นรองพรรคเพื่อไทย และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่มาก ซึ่งกระแสดังกล่าวยังรุนแรงและอาจใช้เป็นประเด็นหาเสียงทั้งในภาคอีสานหรือทั่วประเทศ ทำให้พรรคเพื่อไทยขายได้
อย่างไรก็ตามเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะชี้นำว่าหากเลือกน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาโดยใช้รูปแบบการหาเสียงเช่นนี้เหมือนกันหมดทั่วพื้นที่ภาคอีสาน
**วางกลยุทธ์ทางเลือกที่ 3 ในเมืองหลวง
เมื่อเวลา 11.00 น. ที่บ้านพักย่านราชวิถีของนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน(ชพน.) นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ได้เชิญว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ของพรรค เข้าหารือและชี้แจงข้อมูลการเตรียมความพร้อมในการลงพื้นที่หาเสียง
นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง กทม.และภาคกลางของพรรค เปิดเผยว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการชี้แจงนโยบายของพรรค โดยเราตั้งเป็นพรรคทางเลือกที่ 3 ในพื้นที่ กทม. เพื่อให้คน กทม.ได้รับรู้ถึงนโยบายและตัวผู้สมัคร โดยเป็นการปูพื้นฐานชูคนกีฬา ไม่ใช่ว่าจะให้คนกีฬามาบริหารในตำแหน่งรัฐมนตรีอย่างที่หลายคนเข้าใจผิด แต่เราต้องการให้คนกีฬามีส่วนร่วมในการจัดทำนโยบาย และผลักดันให้คนหันมาเล่นกีฬาเพื่อสร้างสปิริตคนในชาติ ให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ โดยเบื้องต้นนักกีฬา 4 คน ที่ได้เปิดตัวอย่างนายภราดร ศรีชาพันธุ์ น.ส.เยาวภา บุรพลชัย น.ต.ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน พ.ต.อภิรักษ์ อารีย์มิตร ก็ได้มีส่วนร่วมเขียนนโยบายกับนักวิชาการของพรรค ถึงแม้จะมีพรรคอื่นเปิดตัวคนกีฬาและชูประเด็นปรองดองเหมือนกัน แต่ของเราเปิดตัวก่อน และมีนโยบายรวมถึงตัวบุคคลากรที่ชัดเจน
ทั้งนี้ ยอมรับว่าผู้สมัครของพรรคเป็นผู้สมัครหน้าใหม่ มีเวลาลงพื้นที่ไม่ถึง 50 วัน ดังนั้นตัวผู้สมัครต้องทำหน้าที่เผยแพร่นโยบายพรรคแบบเคาะประตูบ้าน โดยคาดหวังให้พบประชาชนมากที่สุด หากพบ 1 คนเท่ากับได้ 1 คะแนน นอกจากนั้นยังให้อดีต ส.ส.ไปช่วยหาเสียงแก่ผู้สมัครคนอื่นในเขตใกล้เคียงด้วย เพื่อผลต่อคะแนนเสียงปาร์ตี้ลิสต์ด้วย สำหรับพรรคจะเปิดตัวผู้สมัครส.ส.กทม. และทุกเขตทั่วประเทศประมาณวันที่ 22-23 พ.ค.
**ตั้งเป้าส่ง “น้องวิว-เดอะตุ๊ก” เข้าสภาให้ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การส่งผู้สมัคร ส.ส.กทม.ครบทั้ง 33 เขตของพรรคชาติพัฒนาเพี่อแผ่นดินในครั้งนี้ ได้วางพื้นที่คาดหวังไว้ที่เขตสายไหมของ น.ต.ปิยะพงษ์ กับเขตหลีกสี่ของ น.ส.เยาวภา ส่วนผู้สมัครเขตอื่นยังถือว่าเป็นคนรุ่นใหม่ ที่นายสุวัจน์ได้ให้นโยบายว่านอกจากทำพื้นที่ด้วยวิธีเคาะประตูบ้านแล้ว ต้องชูเรื่องความเบื่อความขัดแย้งของ 2 พรรคใหม่แล้ว ขอให้มาเลือกพรรคของคนรุ่นใหม่อย่างพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน โดยในวันที่ 18 พ.ค. ทางพรรคได้แจ้งให้ผู้สมัครในพื้นที่กทม.มารับเสื้อเพื่อนำไปให้กลุ่มกองเชียร์ที่จะไปสร้างสีสันในวันเปิดรับสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในวันที่ 19 พ.ค.นี้ โดยเบื้องต้นมีไม่ต่ำกว่า 300 คน
ขณะที่วันที่ 18 พ.ค. เวลา 11.00 น. ที่พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน จะมีการแถลงข่าวเปิดตัว นายวารุจ ศิริวัฒน์ อดีต ส.ส.อุตรดิตถ์ และนายสมเจตน์ ลิมปะพันธุ์ อดีต ส.ส.สุโขทัย ซึ่งย้ายมาจากพรรคกิจสังคม
**“2อดีตสส.กิจสังคม”ซบบรรหาร
รายงานข่าวจากพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) แจ้งว่า ในวันเดียวกันนี้ นายชยุต ภุมมะกาญจนะ อดีตส.ส.ปราจีนบุรี และนายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคกิจสังคม ได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคชทพ.แล้ว โดยนายชยุต และนายมนต์ชัยจะลงสมัครส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้พรรคชทพ.ได้พิจารณาจะส่งผู้สมัครลงส.ส.แบบแบ่งเขต126 เขต
****อดีต ส.ส.แม่ฮ่องสอนซบบรรหารอีก
นายอดุลย์ วันไชยธนวงศ์ อดีต ส.ส.แม่ฮ่องสอน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้ได้ยื่นใบลาออกจากพรรคเพื่อไทยเรียบร้อยแล้ว เพื่อมาลงสมัครรับเลือกตั้งกับพรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.) โดยสาเหตุที่ตัดสินใจลาออก เพราะแนวคิดทางการเมืองไม่สอดคล้องกัน โดยเป็นคนคัดค้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ มาตั้งแต่แรก เพราะเห็นว่าจะทำให้ภาพของพรรคกลายเป็นพรรคของครอบครัวไป อีกประเด็นสำคัญคือกรณีที่พรรคสั่งให้ผู้สมัคร ส.ส.ทุกคน ต้องลงชื่อในใบลาออกล่วงหน้านั้น คิดว่าไม่ถูกต้อง เพราะคนเป็น ส.ส.มาจากเสียงประชาชน โดยเฉพาะแม่ฮ่องสอนทั้งจังหวัดมี ส.ส.คนเดียว ก็เป็นเสียงของประชาชนทั้งจังหวัด จะมาฟังเสียงของคนคนเดียวได้อย่างไร จะเอาความคิดของเราคนเดียวไปตัดสินแทนคนทั้งจังหวัดไม่ได้
สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่ ตนก็ต้องลงไปชี้แจงกับชาวบ้านที่สนับสนุน โดยเฉพาะกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งส่วนใหญ่ก็เข้าใจ แต่มีบางส่วนที่ยังไม่เข้าใจก็ต้องพยายามอธิบายกันไป และการลาออกครั้งนี้ตัดเรื่องผลประโยชน์ไปได้เลย เนื่องจากมีพรรคใหญ่พยายามติดต่อมา แต่แนวคิดทางการเมืองไม่ตรงกันตนก็ตอบปฏิเสธไป.
**เพื่อไทยห่วงเลือกตั้งล่วงหน้าต่างจังหวัด
นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาค กทม. พรรคเพื่อไทย แถลงว่า รู้สึกเป็นห่วงการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า ในกรณีประชาชนที่มีภูมิลำเนาอยู่ในต่างจังหวัดและไปทำงานในจังหวัดอื่นได้ใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า เมื่อลงคะแนนแล้วเสร็จไปรษณีย์จะผนึกซองส่งบัตรลงคะแนนกลับไปที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จังหวัดปลายทาง
“ผมไม่ได้ต้องการกล่าวร้ายไปรษณีย์หรือ กกต. ปลายทางที่รับซองบัตรเลือกตั้ง แต่จะให้ทำอย่างไร เพราะที่ผ่านมามีเหตุการณ์ ที่ทำให้เกิดข้อสงสัยคือ เมื่อเปิดซองนับคะแนน ผลลัพธ์ที่ได้ตรงกันข้ามกับความนิยมของพรรคการเมืองนั้นๆ ในแต่ละภาคตามที่สังคมรับรู้ ดังนั้น กกต.จะมีมาตรการตรวจสอบและจัดวิธีการลงคะแนนอย่างไรให้โปร่งใส”นายวิชาญกล่าว
**ตระกูล “ไชยนันทน์”แถลงหนุนปชป.
รายงานข่าวแจ้งว่า วันเดียวกันนี้ตระกูล “ไชยนันทน์” ได้ออกแถลงการณ์ โดยนายเทอดพงษ์ ระบุในแถลงการณ์ว่า จะสนับสนุนนายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ ในการรับเลือตั้งครั้งนี้ แม้ก่อนหน้านี้ นายวราทิต บุตรชายได้เข้าสังกัดพรรคเพื่อไทย เพื่อลงสมัคร ส.ส.ตาก โดยแถลงการณ์ฉบับนี้มีการแจกจ่าย ในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 2 อ.แม่สอด-พบพระ-อุ้มผาง
โดยหนังสือดังกล่าวระบุว่า ไม่เคยลืมพี่น้องชาวจังหวัดตาก ที่ให้โอกาสคนในตระกูล “ไชยนันทน์” เข้ามาทำงานในตำแหน่ง ส.ส. มาโดยตลอดหลายสิบปี นับตั้งแต่นายเทียม ไชยนันทน์ ผู้เป็นบิดา ซึ่งเป็นอดีตรัฐมนตรีและรองประธานสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งเป็น 1 ในผู้ร่วมก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่ปี 2489 จนมาถึงรุ่นตนเอง และ รุ่นลูกชาย คือ นายธนิตพล ไชยนันทน์ โดยเราได้ทำงานตอบแทนบุญคุณชาวจังหวัดตาก และ แผ่นดินด้วยการทำงานที่ซื่อสัตย์ สุจริต และทุ่มเทเพื่อประชาชนและประเทศชาติ จนมีคำพูดที่ออกมาว่า “ถ้าเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ ไม่ได้อยู่พรรคประชาธิปัตย์ พี่น้องไม่ต้องเลือก”
"พ่อผม (นายเทียม ไชยนันทน์) - ผม (เทอดพงษ์ ไชยนันทน์ ) และ ลูกชายผม (ธนิตพล ไชยนันทน์) อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์มา 65 ปี เท่ากับอายุพรรค ผมและครอบครัวไชยนันทน์ ทำงานการเมืองพัฒนาจังหวัดตาก และ พัฒนาประเทศร่วมกับพรรค ปชป. รวมทั้งลงพื้นที่พบปะประชาชนมาโดยตลอด และจะอยู่กับพรรคนี้ตลอดไป และหากไม่อยู่กับพรรคนี้ก็ไม่ต้องเลือก ผมยืนยันเช่นนี้
ฉะนั้นหากจะมีใครมาอ้าง นายเทียม หรือ นายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ เพื่อประโยชน์ต่อพรรคการเมืองอื่นไม่ได้ พี่น้องครับท่านเคยมีลูกหลานที่ไม่ฟังพ่อ-แม่ ปู่ย่าตายาย บ้างไหม ซึ่งไม่ฟังแล้วเมื่อมีปัญหาก็เดือดร้อนถึงพ่อ-แม่ ปู่ย่า-ตายาย ผมก็เป็นหนึ่งในบรรดาคนที่ว่านี่ละครับ และสุดท้าย ผมเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ จะยังสมัคร ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อของ ปชป. และสนับสนุนผู้สมัคร ส.ส.ตาก เขต 2 ที่ชื่อ นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ ครับ"