วานนี้ (11 พ.ค.) นายกว้าง รอบคอบ รองหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน เปิดเผยว่า ขณะนี้มี อดีต ส.ส.และสมาชิกพรรคเพื่อแผ่นดิน ได้ทยอยยื่นหนังสือลาออกจากพรรคแล้ว โดยตำแหน่งกรรมการบริหาร อาทิ นายสิทธิชัย โควสุรัตน์ รองหัวหน้าและรักษาการเลขาธิการพรรค นายอดุลย์ นิลเปรม นายทะเบียนสมาชิกพรรค นายนิมุคตาร์ วาบา รองหัวหน้าพรรค
ดังนั้นในวันที่12 พ.ค.เวลา 14.00 น. นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง หัวหน้าพรรคได้นัดประชุมกรรมการบริหารพรรค เพื่อหารือแต่งตั้งบุคคลให้ทำหน้าที่รักษาการในตำแหน่งสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง และทำหนังสือถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้ผ่อนปรนระเบียบที่เกี่ยวกับการเลือกกรรมการบริหารแทนชุดเดิมที่ลาออกไป ในส่วนของการขยายเวลาจากเดิมที่กำหนดให้ต้องเลือกภายใน 45 วัน ออกเป็นไป 60-70 วัน เนื่องจากติดช่วงเลือกตั้ง ส่วนการตัดสินใจว่าจะส่งผู้สมัครในนามพรรคเพื่อแผ่นดินหรือไม่ต้องรอมติจากที่ประชุมก่อน
วันเดียวกันที่พรรคเพื่อแผ่นดิน ได้ติดป้ายประกาศให้สมาชิกทราบถึงกำหนดการปฐมนิเทศของผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตในนามพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ที่จะมีขึ้นในวันที่ 21 พ.ค. ณ โรงแรมรามาการ์เด้นท์
ทั้งนี้พบว่า มีบางส่วนที่ไปสังกัดพรรคการเมืองอื่นแล้ว เช่น กลุ่มบ้านริมน้ำ ได้แก่ นายพิเชษฐ์ ตันเจริญ อดีต ส.ส.ฉะเชิงเทรา นายรณฤทธิชัย คานเขต อดีต ส.ส.ยโสธร นายณัชพล ตันเจริญ อดีต ส.ส.ฉะเชิงเทรา นายปุระพัฒน์ วิเศษจินดาวัฒน์ อดีต ส.ส.สัดส่วน นายสาธิต เทพวงศ์ศิริรัตน์ อดีต ส.ส.สุรินทร์ นายกิตติศักดิ์ รุ่งธนเกียรติ อดีต ส.ส.สุรินทร์ และนายนิมุคตาร์ วาบา อดีต ส.ส.ปัตตานี ได้ย้ายไปอยู่พรรคภูมิใจไทย
ส่วนนายนรพล ตันติมนตรี อดีต ส.ส.เชียงใหม่ ย้ายไปสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ เช่นเดียวกับนายไชยยศ จิรเมธากร รักษาการ รมช.ศึกษาธิการ และอดีต ส.ส.อุดรธานี ขณะที่ นายยุซรี ซูสารอ อดีต ส.ส.ปัตตานี จะเว้นวรรคทางการเมือง และส่งบิดาลงสมัครในพื้นที่เดิมแทนในนามพรรคมาตุภูมิ ส่วน นพ.แวมาฮาดี แวดาโอะ อดีต ส.ส.นราธิวาส จะย้ายไปอยู่กับพรรคธรรมาภิบาลสังคม รวมไปถึงส่วนที่ย้ายไปอยู่พรรคชาติไทยพัฒนา ได้แก่ นายธีระทัศน์ เตียวเจริญโสภา และนางมลิวัลย์ ธัญญสกุลกิจ อดีต ส.ส.สุรินทร์ ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้แล้ว
รายงานแจ้งว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้ติดต่อผ่านนายพินิจ จารุสมบัติ แกนนำกลุ่ม 3 พี พรรคเพื่อแผ่นดิน เพื่อหาผู้สมัครที่มีโอกาสได้รับเลือกตั้งไปเติมเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ ให้สูสีกับพรรคเพื่อไทย รวมทั้งยังเป็นที่น่าสังเกตด้วยว่า อดีต ส.ส.ส่วนใหญ่หลีกเลี่ยงที่จะไปลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย เพราะเกรงว่าจะถูกกดดันจากเจ้าหน้าที่รัฐและทหารในการหาเสียงเลือกตั้ง
มีรายงานด้วยว่า ช่วงค่ำวันที่ 10 พ.ค. ที่ผ่านมา นายพินิจ ได้เรียกสมาชิกในกลุ่ม ซึ่งเป็นระดับแกนนำของพรรคเพื่อแผ่นดิน หารือที่โรงแรมเอราวัณ ถึงทิศทางการเมืองหลังจากที่ ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี แกนนำกลุ่ม 3 พี พรรคเพื่อแผ่นดิน เสียชีวิต โดยนายพินิจได้แจ้งให้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อเข้าสังกัด และลงเลือกตั้งในนามพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดินทั้งหมด เพื่อป้องกันการตัดคะแนนกันเองระหว่าง 2 พรรค
**เบื้องหลัง“ไชยยศ “สลัดทิ้งแก๊งห้อย
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ในช่วงที่นายไชยยศ จิรเมธากร รมช.ศึกษาธิการ อดีตเลขาธิการพรรคเพื่อแผ่นดินเคยร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์มาแล้วช่วงปี 2544 ก่อนลาออกจากพรรคในปี 2548 ซึ่งก่อนจะมาร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนี้ นายไชยยศได้มีการพูดคุยกับนายสุเทพ มานานแล้วหลายเดือนว่าจะมาร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์แน่นอน ก่อนเข้าร่วมรัฐบาลเพื่อรับตำแหน่ง รมช.ศึกษาธิการ
ที่ผ่านมานายไชยยศไม่ได้ให้ความร่วมมือกับพรรคภูมิใจไทย เห็นได้จากเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 2553 กรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีการพิจารณาเรื่องการแก้ไขกฎกระทรวงมหาดไทยในเรื่องบัตรสมาร์ดการ์ท ซึ่งการประชุมวันดังกล่าวมีความเห็นของรัฐมนตรีแตกเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มที่เห็นด้วยกับการแก้ไขกฎกระทรวงมหาดไทยคือกลุ่มรัฐมนตรีพรรคประชาธิปัตย์ กับกลุ่มที่คัดค้านซึ่งส่วนใหญ่เป็นรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทยทั้งหมด ทำให้ต้องมีการลงมติในที่ประชุม แต่นายไชยยศกลับไปยกมือสนับสนุนเห็นด้วยกับรัฐมนตรีพรรคประชาธิปัตย์ในการแก้ไขกฎกระทรวง
**มาตุภูมิส่ง“อัศเหม”ชิงชัย ส.ส.ปากน้ำ
ดร.มั่น พัธโนทัย เลขาธิการพรรคมาตุภูมิ กล่าวถึงการส่งตัวผู้สมัครลงชิงตำแหน่ง ส.ส. จังหวัดสมุทรปราการ ว่า คณะกรรมการบริหารพรรคได้วางต้วผู้สมัครไว้เรียบร้อยแล้ว 2 คน คือ นายอัครวัฒน์ อัศวเหม อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สมุทรปราการ จะลงสมัคร ส.ส.เขต 1 อ.เมือง และนายพูลผล อัศวเหม อดีต ส.ส.สมุทรปราการ จะลงสมัคร ส.ส.เขต 7 โดยพรรคจะส่งผู้สมัคร ส.ส.ทั้งประเทศ 30 คน โดยตั้งเป้าไว้ที่ตัวเลขสองหลัก
**“ปุระชัย” ได้ผู้สมัคร 80 %ส่งกทม.ทุกเขต
เมื่อเวลา 13.20 ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ประธานพรรครักษ์สันติ เปิดเผยว่า ทั้งหมด 375 เขต จะส่งให้ใกล้จำนวนนั้นมากที่สุด ขณะนี้ก็ได้ประมาณร้อยละ 80 ยืนยันอีกครั้งสำหรับกรุงเทพที่มี. 33 เขต ก็จะส่งให้ครบ ปริมณฑลเกือบครบ ต่างจังหวัดครบทุกภาค ทั้งนี้เกือบทั้งหมดเป็นผู้สมัครหน้าใหม่ เน้นความสดใหม่ของผู้สมัคร บางคนเป็นคนที่มีความพร้อมแต่ตกม้าตายเพราะไม่ไปเลือกตั้ง การเสียโอกาสจึงเป็นสิ่งที่น่าเสียดายมาก
**ย้ำลูกพรรคใช้"ปาก-ขา"หาเสียง
ร.ต.อ.ปุระชัย กล่าวต่อที่ประชุมสัมมนาตอนหนึ่งว่า ที่สำคัญขอให้สมาชิกทุกท่านทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์และสันติ สิ่งสำคัญที่เป็นอาวุธของเราคือ “ขา ปาก” การเดินทักทายพี่น้องประชาชนอย่าได้ใช้เงิน เพราะถือว่าเป็นการดูถูกประเทศของเรา ดูถูกคนของเรา อยากให้ทุกคนทำงานด้วยความจริงใจ เราควรจะเป็นผู้ให้ ซึ่งการให้ก็คือการให้เวลา การให้ประสบการณ์ ให้ความรู้ความสามารถ ให้ใจ และพยายามเดินเพื่อเข้าไปอยู่ในใจพี่น้องประชาชนให้ได้ ถือแป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากในการทำงานการเมืองครั้งนี้ และเราไม่ถือว่าพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามเป็นศัตรูของเราแต่ถือว่าเป็นคู่แข่งของเรา หลังจากที่สิ้นสุดการแข่งขันเราก็จะจับมือกันเหมือนเดิม ทั้งนี้พรรคจะรีบทำคัทเอาท์และแผ่นพับให้กับสมาชิกทุกท่านภายหลังจากที่ ก.ก.ต.ให้หมายเลขกับพรรคมาแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การสัมมนาครั้งนี้มีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค หัวหน้าพรรคและกรรมบริหารพรรค และผู้ร่วมก่อตั้งพรรคเข้าร่วมประมาณ 100 คน โดยผู้สมัคร กทม.ทั้ง 33 คน อาทิ นายศิริ หวังบุญเกิด อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย นายอัศวิน เนตรโพธิ์แก้ว คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ นพ.ประจวบ อึ้งภากรณ์ อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย นายธันวา ไกรฤกษ์ อดีตหัวหน้าพรรคประชาสันติ นอกจากนี้ยังมีดารานักแสดงอย่าง นายโกวิท วัฒนกุล ว่าที่ผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ เข้าร่วมงานด้วย
*สัตยบันหาเสียงเลือกตั้ง
ที่รัฐสภา ศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล นายโคทม อารียา ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี ได้จัดพิธีให้สัตยาบันและลงนามจรรยาบรรณการหาเสียงเลือกตั้ง ปี 2554 โดยเชิญตัวแทนผู้นำศาสนา พล.อ.ธีรเดช มีเพียร ประธานวุฒิสภา นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง และนายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานสภาผู้แทนราษฏร ร่วมด้วยตัวแทนพรรคการเมืองอาทิ โดยมีตัวแทนจากพรรคการเมืองต่างๆ เข้าร่วมเป็นสักขีพยาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีตัวแทนพรรคการเมืองมาร่วมงานทั้งหมด 17 พรรค อาทิ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน พรรคภูมิใจไทย พรรคการเมืองใหม่ พรรคเพื่อไทย พรรคประชาราช นอกนั้นเป็นพรรคการเมืองเล็กๆ อาทิ พรรคชาติสามัคคี พรรคบำรุงเมือง พรรคประชาชนชาวไทย พรรคเสรีนิยม พรรคพลังสังคมไทย ยกเว้นพรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคภูมิใจไทยไม่มาร่วม.
ดังนั้นในวันที่12 พ.ค.เวลา 14.00 น. นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง หัวหน้าพรรคได้นัดประชุมกรรมการบริหารพรรค เพื่อหารือแต่งตั้งบุคคลให้ทำหน้าที่รักษาการในตำแหน่งสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง และทำหนังสือถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้ผ่อนปรนระเบียบที่เกี่ยวกับการเลือกกรรมการบริหารแทนชุดเดิมที่ลาออกไป ในส่วนของการขยายเวลาจากเดิมที่กำหนดให้ต้องเลือกภายใน 45 วัน ออกเป็นไป 60-70 วัน เนื่องจากติดช่วงเลือกตั้ง ส่วนการตัดสินใจว่าจะส่งผู้สมัครในนามพรรคเพื่อแผ่นดินหรือไม่ต้องรอมติจากที่ประชุมก่อน
วันเดียวกันที่พรรคเพื่อแผ่นดิน ได้ติดป้ายประกาศให้สมาชิกทราบถึงกำหนดการปฐมนิเทศของผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตในนามพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ที่จะมีขึ้นในวันที่ 21 พ.ค. ณ โรงแรมรามาการ์เด้นท์
ทั้งนี้พบว่า มีบางส่วนที่ไปสังกัดพรรคการเมืองอื่นแล้ว เช่น กลุ่มบ้านริมน้ำ ได้แก่ นายพิเชษฐ์ ตันเจริญ อดีต ส.ส.ฉะเชิงเทรา นายรณฤทธิชัย คานเขต อดีต ส.ส.ยโสธร นายณัชพล ตันเจริญ อดีต ส.ส.ฉะเชิงเทรา นายปุระพัฒน์ วิเศษจินดาวัฒน์ อดีต ส.ส.สัดส่วน นายสาธิต เทพวงศ์ศิริรัตน์ อดีต ส.ส.สุรินทร์ นายกิตติศักดิ์ รุ่งธนเกียรติ อดีต ส.ส.สุรินทร์ และนายนิมุคตาร์ วาบา อดีต ส.ส.ปัตตานี ได้ย้ายไปอยู่พรรคภูมิใจไทย
ส่วนนายนรพล ตันติมนตรี อดีต ส.ส.เชียงใหม่ ย้ายไปสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ เช่นเดียวกับนายไชยยศ จิรเมธากร รักษาการ รมช.ศึกษาธิการ และอดีต ส.ส.อุดรธานี ขณะที่ นายยุซรี ซูสารอ อดีต ส.ส.ปัตตานี จะเว้นวรรคทางการเมือง และส่งบิดาลงสมัครในพื้นที่เดิมแทนในนามพรรคมาตุภูมิ ส่วน นพ.แวมาฮาดี แวดาโอะ อดีต ส.ส.นราธิวาส จะย้ายไปอยู่กับพรรคธรรมาภิบาลสังคม รวมไปถึงส่วนที่ย้ายไปอยู่พรรคชาติไทยพัฒนา ได้แก่ นายธีระทัศน์ เตียวเจริญโสภา และนางมลิวัลย์ ธัญญสกุลกิจ อดีต ส.ส.สุรินทร์ ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้แล้ว
รายงานแจ้งว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้ติดต่อผ่านนายพินิจ จารุสมบัติ แกนนำกลุ่ม 3 พี พรรคเพื่อแผ่นดิน เพื่อหาผู้สมัครที่มีโอกาสได้รับเลือกตั้งไปเติมเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ ให้สูสีกับพรรคเพื่อไทย รวมทั้งยังเป็นที่น่าสังเกตด้วยว่า อดีต ส.ส.ส่วนใหญ่หลีกเลี่ยงที่จะไปลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย เพราะเกรงว่าจะถูกกดดันจากเจ้าหน้าที่รัฐและทหารในการหาเสียงเลือกตั้ง
มีรายงานด้วยว่า ช่วงค่ำวันที่ 10 พ.ค. ที่ผ่านมา นายพินิจ ได้เรียกสมาชิกในกลุ่ม ซึ่งเป็นระดับแกนนำของพรรคเพื่อแผ่นดิน หารือที่โรงแรมเอราวัณ ถึงทิศทางการเมืองหลังจากที่ ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี แกนนำกลุ่ม 3 พี พรรคเพื่อแผ่นดิน เสียชีวิต โดยนายพินิจได้แจ้งให้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อเข้าสังกัด และลงเลือกตั้งในนามพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดินทั้งหมด เพื่อป้องกันการตัดคะแนนกันเองระหว่าง 2 พรรค
**เบื้องหลัง“ไชยยศ “สลัดทิ้งแก๊งห้อย
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ในช่วงที่นายไชยยศ จิรเมธากร รมช.ศึกษาธิการ อดีตเลขาธิการพรรคเพื่อแผ่นดินเคยร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์มาแล้วช่วงปี 2544 ก่อนลาออกจากพรรคในปี 2548 ซึ่งก่อนจะมาร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนี้ นายไชยยศได้มีการพูดคุยกับนายสุเทพ มานานแล้วหลายเดือนว่าจะมาร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์แน่นอน ก่อนเข้าร่วมรัฐบาลเพื่อรับตำแหน่ง รมช.ศึกษาธิการ
ที่ผ่านมานายไชยยศไม่ได้ให้ความร่วมมือกับพรรคภูมิใจไทย เห็นได้จากเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 2553 กรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีการพิจารณาเรื่องการแก้ไขกฎกระทรวงมหาดไทยในเรื่องบัตรสมาร์ดการ์ท ซึ่งการประชุมวันดังกล่าวมีความเห็นของรัฐมนตรีแตกเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มที่เห็นด้วยกับการแก้ไขกฎกระทรวงมหาดไทยคือกลุ่มรัฐมนตรีพรรคประชาธิปัตย์ กับกลุ่มที่คัดค้านซึ่งส่วนใหญ่เป็นรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทยทั้งหมด ทำให้ต้องมีการลงมติในที่ประชุม แต่นายไชยยศกลับไปยกมือสนับสนุนเห็นด้วยกับรัฐมนตรีพรรคประชาธิปัตย์ในการแก้ไขกฎกระทรวง
**มาตุภูมิส่ง“อัศเหม”ชิงชัย ส.ส.ปากน้ำ
ดร.มั่น พัธโนทัย เลขาธิการพรรคมาตุภูมิ กล่าวถึงการส่งตัวผู้สมัครลงชิงตำแหน่ง ส.ส. จังหวัดสมุทรปราการ ว่า คณะกรรมการบริหารพรรคได้วางต้วผู้สมัครไว้เรียบร้อยแล้ว 2 คน คือ นายอัครวัฒน์ อัศวเหม อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สมุทรปราการ จะลงสมัคร ส.ส.เขต 1 อ.เมือง และนายพูลผล อัศวเหม อดีต ส.ส.สมุทรปราการ จะลงสมัคร ส.ส.เขต 7 โดยพรรคจะส่งผู้สมัคร ส.ส.ทั้งประเทศ 30 คน โดยตั้งเป้าไว้ที่ตัวเลขสองหลัก
**“ปุระชัย” ได้ผู้สมัคร 80 %ส่งกทม.ทุกเขต
เมื่อเวลา 13.20 ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ประธานพรรครักษ์สันติ เปิดเผยว่า ทั้งหมด 375 เขต จะส่งให้ใกล้จำนวนนั้นมากที่สุด ขณะนี้ก็ได้ประมาณร้อยละ 80 ยืนยันอีกครั้งสำหรับกรุงเทพที่มี. 33 เขต ก็จะส่งให้ครบ ปริมณฑลเกือบครบ ต่างจังหวัดครบทุกภาค ทั้งนี้เกือบทั้งหมดเป็นผู้สมัครหน้าใหม่ เน้นความสดใหม่ของผู้สมัคร บางคนเป็นคนที่มีความพร้อมแต่ตกม้าตายเพราะไม่ไปเลือกตั้ง การเสียโอกาสจึงเป็นสิ่งที่น่าเสียดายมาก
**ย้ำลูกพรรคใช้"ปาก-ขา"หาเสียง
ร.ต.อ.ปุระชัย กล่าวต่อที่ประชุมสัมมนาตอนหนึ่งว่า ที่สำคัญขอให้สมาชิกทุกท่านทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์และสันติ สิ่งสำคัญที่เป็นอาวุธของเราคือ “ขา ปาก” การเดินทักทายพี่น้องประชาชนอย่าได้ใช้เงิน เพราะถือว่าเป็นการดูถูกประเทศของเรา ดูถูกคนของเรา อยากให้ทุกคนทำงานด้วยความจริงใจ เราควรจะเป็นผู้ให้ ซึ่งการให้ก็คือการให้เวลา การให้ประสบการณ์ ให้ความรู้ความสามารถ ให้ใจ และพยายามเดินเพื่อเข้าไปอยู่ในใจพี่น้องประชาชนให้ได้ ถือแป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากในการทำงานการเมืองครั้งนี้ และเราไม่ถือว่าพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามเป็นศัตรูของเราแต่ถือว่าเป็นคู่แข่งของเรา หลังจากที่สิ้นสุดการแข่งขันเราก็จะจับมือกันเหมือนเดิม ทั้งนี้พรรคจะรีบทำคัทเอาท์และแผ่นพับให้กับสมาชิกทุกท่านภายหลังจากที่ ก.ก.ต.ให้หมายเลขกับพรรคมาแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การสัมมนาครั้งนี้มีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค หัวหน้าพรรคและกรรมบริหารพรรค และผู้ร่วมก่อตั้งพรรคเข้าร่วมประมาณ 100 คน โดยผู้สมัคร กทม.ทั้ง 33 คน อาทิ นายศิริ หวังบุญเกิด อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย นายอัศวิน เนตรโพธิ์แก้ว คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ นพ.ประจวบ อึ้งภากรณ์ อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย นายธันวา ไกรฤกษ์ อดีตหัวหน้าพรรคประชาสันติ นอกจากนี้ยังมีดารานักแสดงอย่าง นายโกวิท วัฒนกุล ว่าที่ผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ เข้าร่วมงานด้วย
*สัตยบันหาเสียงเลือกตั้ง
ที่รัฐสภา ศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล นายโคทม อารียา ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี ได้จัดพิธีให้สัตยาบันและลงนามจรรยาบรรณการหาเสียงเลือกตั้ง ปี 2554 โดยเชิญตัวแทนผู้นำศาสนา พล.อ.ธีรเดช มีเพียร ประธานวุฒิสภา นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง และนายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานสภาผู้แทนราษฏร ร่วมด้วยตัวแทนพรรคการเมืองอาทิ โดยมีตัวแทนจากพรรคการเมืองต่างๆ เข้าร่วมเป็นสักขีพยาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีตัวแทนพรรคการเมืองมาร่วมงานทั้งหมด 17 พรรค อาทิ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน พรรคภูมิใจไทย พรรคการเมืองใหม่ พรรคเพื่อไทย พรรคประชาราช นอกนั้นเป็นพรรคการเมืองเล็กๆ อาทิ พรรคชาติสามัคคี พรรคบำรุงเมือง พรรคประชาชนชาวไทย พรรคเสรีนิยม พรรคพลังสังคมไทย ยกเว้นพรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคภูมิใจไทยไม่มาร่วม.