xs
xsm
sm
md
lg

เขมรจ้องตีไทย! ชายแดนระส่ำ ทหารพร้อมรับมือ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ลือสะพัดตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชาทหารเขมรเตรียมโจมตีทหารไทยครั้งใหญ่เร็วๆ นี้ ทำให้ชาวสุรินทร์ที่อยู่ตามแนวชายแดนหวาดผวาเตรียมพร้อมเข้าหลุมหลบภัยและอพยพไปยังที่ปลอดภัย ขณะที่ทหารไทยเตรียมพร้อม มทภ.2ยันสถานการณ์เข้าสู้ภาวะปกติแล้ว แต่ยังคงกำลังทหารไว้เพื่อปกป้องอธิปไตย “ปานเทพ”แนะ“บิ๊กป้อม”โชว์หนักแน่นในเวที รมต.กลาโหมอาเซียน ยันไม่ยอมให้ต่างชาติเข้ามาสังเกตการณ์ พร้อมยกกฎบัตรอาเซียนตบหน้าอินโดฯ ฐานจ้องเข้ามาจุ้น ย้ำต้องรีบไล่เขมรออกจากบ้านให้ได้ก่อน “ลุงจำลอง” เหนื่อยใจแนะนำให้ตายก็ไม่ทำตาม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้ว่าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่ จ.สุรินทร์ ณ วันนี้จะไม่มีการสู้รบ โดยเฉพาะพื้นที่ใกล้กับปราสาทตาควาย บ้านไทยนิยมพัฒนา ช่องกร่าง บ้านหนองตาเลิฟ ต.บักได และพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการปะทะกันของทหารไทยกับทหารกัมพูชาเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา แต่ในขณะนี้กลับมีข่าวลือออกมาจากฝั่งประเทศกัมพูชาว่า ทหารกัมพูชาจะเปิดฉากโจมตีฐานที่มั่นทหารไทยกับที่พักประชาชนชาวไทยใกล้ชายแดนให้หนักหน่วงและราบคาบอีกครั้ง

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการตอบโต้ทหารไทยที่โจมตีทหารกัมพูชาจนได้รับความเสียหายล้มตายจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา โดยกระแสข่าวลือดังกล่าวได้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ พร้อมทั้งระบุว่า จะมีการเปิดฉากโจมตีที่มั่นทหารไทยกับที่พักประชาชนชาวไทย ในช่วงวันที่ 16 พ.ค.ไปจนถึงวันที่ 18 พ.ค.นี้

จากกระแสข่าวลือดังกล่าว ทำให้ประชาชนชาวไทยที่อาศัยในหมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชามีความตื่นตัวและเตรียมพร้อมที่จะเข้าหลุมหลบภัยและพร้อมที่จะเดินทางออกจากหมู่บ้าน ไปยังที่ปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา

อีกทั้งกระแสข่าวดังกล่าวที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อการค้าขายและนักท่องเที่ยว ที่บริเวณด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม-โอร์เสม็ด ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ชาวกัมพูชา พากันเดินทางผ่านแดนมาชื้อสินค้าและก็รีบเดินทางกลับเข้าประเทศ ขณะที่บางรายยังขนสินค้า กลับเข้าประเทศ แม้จะนำออกมาขายในตลาดช่องจอมแล้วก็ตาม

ด้านชาวไทยที่เดินทางเข้าไปเล่นการพนัน ในบ่อนกาสิโน ฝั่งโอร์เสม็ด อ.กรุงสำโรง จ.อุดรมีชัย ก็เดินทางกลับเข้ามาในฝั่งไทยเร็วขึ้น โดยจะเดินทางกลับเข้ามาในฝั่งไทยในเวลา 16.00-17.00 น.ทั้งที่ด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม-โอร์เสม็ดจะเปิดถึงเวลา 20.00 น.ทุกวันก็ตามทำให้บรรยากาศที่ด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม-โอร์เสม็ด ค่อนข้างจะเงียบเร็วขึ้น เพราะกระแสข่าวลือดังกล่าว

แหล่งข่าวทางทหารระบุว่าได้รับทราบกระแสข่าวลือดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่องเริ่มตั้งแต่วันที่ 12-15 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยเฉพาะวันที่ 15 พ.ค.มีกระแสข่าวว่าทหารกัมพูชาจะเปิดฉากโจมตีฐานที่มั่นทหารไทยกับที่พักประชาชนชาวไทยให้ได้รับความเสียหายอย่างหนัก และประจานให้ทั่วโลกรับทราบถึงความเสียหายที่เกิดขึ้น ทหารไม่ได้ประมาทต่อกระแสข่าวดัง กล่าว มีการเตรียมความพร้อมอยู่ตลอดเวลา

พร้อมกันนั้น ได้แจ้งไปยังผู้นำทุกหมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาให้แจ้งเตือนให้ประชาชนรับทราบและไม่ตื่นตระหนก ต่อกระแสข่าวลือดังกล่าว แต่ก็ไม่ให้ประมาทให้เตรียมให้พร้อมรับสถานการณ์และหากมีเหตุการณ์เกิดขึ้น ทหารและฝ่ายปกครองจะเป็นผู้แจ้งให้ประชาชนรับทราบข่าวสารอย่างถูกต้อง

"ขอให้ประชาชนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์และจังหวัดบุรีรัมย์ได้ใช้ชีวิตตามปรกติ ไม่ตกเป็นเครื่องมือ ของกลุ่มบุคคลที่ไม่หวังดี หวังสร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้นตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในขณะนี้" แหล่งข่าวทางทหารระบุ

**มทภ.2ยันชายแดนไทย-เขมรยังปกติ

ด้าน พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจเป็นประธานในพิธีกวนข้าวมธุปายาส (ข้าวทิพย์)หนึ่งในกิจกรรม วิสาขบูชา พุทธบารมี ประจำปี 2554 โดยกล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาในขณะนี้ว่า ทุกอย่างกลับเข้าสู่สภาวะปกติ เพียงแต่ยังคงมีการตรึงกำลังของกองกำลังสุรนารีไว้เพื่อปกป้องอธิปไตยกันอย่างเต็มที่ พร้อมฝ่ายสนับสนุนทางการรบ ถ้าเกิดเหตุขึ้นก็สามารถเข้าช่วยเหลือได้ทันที

ส่วนของการค้าในแนวชายแดนก็เป็นไปตามปกติ วิถีชีวิตของชาวบ้านทั้งสองประเทศยังคงพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน หากเกิดการพิพาทกันเราก็ต้องปิดด่านฯ ทันที

"ความจริงแล้วก็ไม่ใช่ภารกิจหน้าที่โดยตรงของทหาร เพราะต้องดูแลรักษาความมั่นคงและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของคนไทย จึงอาจจะมีประชาชนส่วนหนึ่งได้รับผลกระทบในส่วนตรงนี้ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในแนวชายแดนก็ไม่มีปัญหาใดๆ แต่ถ้ามีการขนย้ายปูนซีเมนต์ วัสดุก่อสร้าง น้ำมันเชื้อเพลิง ก็จะมีการสอบถามกับผู้ขนส่ง จะนำไปทำอะไรนำไปที่ใด อย่างไรก็ตาม เราเป็นประเทศที่ใหญ่กว่ากัมพูชา แต่ไม่เคยรังแกหรือทำอะไรเกินกว่าเหตุ ถ้าทางเราได้รับการกระทำจากฝ่ายเขาก่อนก็จะต้องมีการตอบโต้ให้สมศักดิ์ศรี ทหารมีภารกิจหน้าที่รักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศ และดูแลพี่น้องประชาชนชาวไทยให้ได้รับความสงบสุข"

**แนะบื๊กป้อมหนักแน่นในเวทีอาเซียน

นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รมว.กลาโหม เตรียมเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน 18 - 20 พ.ค.นี้ ที่อินโดนีเซีย ว่า รัฐบาลไทยต้องมีความหนักแน่น และยืนยันในเรื่องอำนาจอธิปไตยของประเทศไทย ใน 2 ประการ คือ 1.การไม่ต้อนรับผู้สังเกตการณ์ของต่างชาติเข้ามาบนผืนแผ่นดินไทย ในภาวะที่ชาติอื่นยังยึดครองแผ่นดินไทยอยู่ เพราะเท่ากับเป็นการยกแผ่นดินให้กัมพูชาโดยไม่มีกำหนดระยะเวลา และ 2.รัฐบาลไทยต้องยึดในกฎบัตรของอาเซียนมาตรา 2(จ.) ที่ระบุว่า ไม่ได้ให้อำนาจของอาเซียนในการแทรกแซงอำนาจของรัฐใดรัฐหนึ่ง เพราะไทยเราได้ประกาศชัดเจนแล้วว่าเส้นเขตแดนของเราคือ สันปันน้ำที่อยู่บนหน้าผา อาเซียนจึงไม่มีสิทธิ์เข้ามาแทรกแซงการดำเนินการของรัฐไทยเด็ดขาด

“รัฐบาลไทยมีหน้าที่อย่างเดียวคือผลักดันกัมพูชาออกไปในทางปฏิบัติ โดยไม่มีเงื่อนไข และต้องสำแดงอำนาจอธิปไตยในพื้นที่ตรงนั้นให้เหมือนกับช่วงก่อนมีเอ็มโอยู 2543 ไม่ใช่มานั่งพูดอย่างเดียว เพื่อให้คนหลงคารมในช่วงการเลือกตั้งเท่านั้น” นายปานเทพ กล่าว

ด้าน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวเสริมว่า เราได้พูดมาตั้งแต่
ต้นแล้วว่าต้องยึดผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก โดยการไม่ยอมให้เสียดินแดน ซึ่งข้อเรียกร้องและข้อเสนอของเราก็ได้บอกไปหมดแล้วว่าควรทำอย่างไร จนหลายครั้งนายกฯและรัฐมนตรีในรัฐบาลก็พูดตามสิ่งที่เราเสนอไป คงไม่มีอะไรแนะนำอีกแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น